แนะนำเคล็ดลับการกำจัดเซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้มแบบเห็นผลอย่างปลอดภัย
เพราะเซลลูไลท์ หรือผิวเปลือกส้ม เป็นปัญหากวนใจใครหลายคน ที่ส่งผลต่อความมั่นใจในรูปร่าง ไปจนถึงการเลือกเครื่องแต่งกายเพื่อปกปิดผิวเปลือกส้ม บทความวันนี้จะมาแนะนำเคล็ดลับที่ช่วยกำจัดเซลลูไลท์ที่เกาะตามใต้ผิวหนังตามส่วนต่างๆ จนเกิดเป็นผิวเปลือกส้ม ให้หายไปจนหมด และเหลือไว้แค่ผิวกระชับเรียบเนียนสวย เพื่อคืนความมั่นใจและฟื้นฟูสุขภาพร่างกายและผิวไปพร้อมๆ กัน
เซลลูไลท์ หรือผิวเปลือกส้ม คืออะไร
เป็นเซลล์ไขมันที่สะสมอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง กระจายตัวในลักษณะเกาะเป็นคลื่นเพราะปะปนกับของเสียและน้ำ จึงทำให้ผิวชั้นนอกเป็นรอยบุ๋ม ขรุขระ ไม่เรียบเนียนคล้ายเปลือกส้ม ซึ่งสามารถสะสมได้ทั่วร่างกาย แต่ส่วนใหญ่ชอบสะสมตามต้นแขน ต้นขา สะโพก
ผิวเปลือกส้มมีกี่ประเภท
แม้ว่าดูเผินๆ แล้ว ผิวเปลือกส้มจะมีลักษณะรอยบุ๋มเหมือนกันหมด แต่มีเนื้อสัมผัสและขนาดที่แตกต่างกัน จึงแบ่งออกได้ดังนี้
Sofe Cellulite
มีลักษณะเป็นก้อนเล็ก เมื่อสัมผัสจะนิ่มคล้ายๆ ลูกคลื่น มักเกิดได้ในผู้ที่มีอายุ 20-35 ปี ส่วนใหญ่จะเกิดได้จากกรรมพันธุ์ และมักขึ้นในบริเวณบั้นท้าย สะโพก หน้าท้อง และต้นแขน
Hard Cellulite
มีลักษณะเป็นก้อนเล็กกระจายหลายก้อน และให้ความสัมผัสแข็ง มักเกาะแน่น แม้ในคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือเกิดได้ตั้งแต่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น 20-40 ปี
Flaccid Cellulite
เป็นก้อนไขมันนุ่มและหย่อนคล้อย มักเกิดได้บริเวณหน้าท้อง ท้องแขน บั้นท้าย หรือบริเวณคาง ที่เรียกกันว่าเหนียง ส่วนใหญ่เกิดได้ในผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย อดอาหาร และอายุที่มากขึ้น ตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป
Edmatous Cellulite
ลักษณะเหมือนลูกโป่งใส่น้ำ เมื่อเอามือไปกดจะเกิดรอยบุ๋มลงไป ส่วนใหญ่จะเป็นไขมันสะสมร่วมกับระบบไหลเวียนเลือดทำงานผิดปกติ จนทำให้เกิดการคลั่งของน้ำเหลือง มักเกิดได้ตามสะโพก บริเวณที่ใกล้ข้อพับ เช่น ต้นแขน และต้นขา และเกิดได้กับคนที่ตั้งแต่อายุ 20 ปี เป็นต้นไป
Mixed Cellulite
เป็นปัญหาเซลลูไลท์สะสมทุกรูปแบบผสมกัน มักเกิดได้ทุกช่วงอายุ และเกิดจากการกินอาหารแคลอรีสูง เช่น แป้ง น้ำตาล ของทอด ของมัน เป็นประจำ
สาเหตุที่ทำให้เกิดผิวเปลือกส้ม
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าสาเหตุของการเกิดผิวเปลือกส้ม มาจากเซลลูไลท์ไปสะสมจนเกิดเป็นคลื่น แต่ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดผิวเช่นนี้ มาจากกรรมพันธุ์ พฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตประจำวัน
-
กรรมพันธุ์
สำหรับใครที่คนในครอบครัว ส่วนใหญ่มีรูปร่างอ้วน หรือปัญหาเซลลูไลท์ ก็จะทำให้มีโอกาสส่งต่อมาทางพันธุกรรมได้สูง
-
ฮอร์โมน
เมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ในระดับสูง ส่งผลต่อระบบเผาผลาญ มักพบได้ในคุณแม่หลังคลอดบุตร หรือผู้หญิงที่มีการทานยาคุมกำเนิด
-
ลดน้ำหนักเร็วเกินไป
ภาวะน้ำหนักที่ลดลงในระยะเวลาอันรวดเร็ว จะทำให้ร่างกายปรับสภาพด้วยการกักเก็บพลังงานแบบฉับพลัน เกิดภาวะขาดสารอาหาร จึงเกิดไขมันสะสม และเห็นเซลลูไลท์ได้ชัดเจน
-
ไม่ค่อยออกกำลังกาย
แม้ว่าแต่ละวันจะกินอาหารครบ 3 มื้อ และพยายามคุมปริมาณแคลอรีแล้วก็ตาม แต่หากไม่ค่อยได้เดิน หรือเคลื่อนไหวร่างกาย ก็จะเกิดการสะสมของไขมัน เซลลูไลท์ก็จะตามมาได้ง่ายๆ โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานออฟฟิศ ดังนั้นควรใช้เวลาเพื่อเผาผลาญแคลอรีจากอาหารที่กินเข้าไปด้วยการออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง
-
ดื่มน้ำน้อย
น้ำคือตัวกลางในการช่วยเผาผลาญไขมันออกจากร่างกาย ดังนั้นหากร่างกายมีน้ำน้อยเกินไป ก็จะทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ไม่เต็มที่ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการลดน้ำหนักยาก และเซลลูไลท์ก็ถูกกำจัดยากเช่นกัน
-
ระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติ
ภาวะระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติ สามารถเกิดได้ในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ ป่วย ไม่แข็งแรง และอีกปัจจัยคือการพยายามอดอาหาร กินน้อยเกินไป เพราะยิ่งอดอาหาร ร่างกายที่ต้องใช้พลังงานในแต่ละวัน ก็จะเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน หรือและกักตุนไขมันไว้ในร่างกายให้ได้มากที่สุด
-
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์ เป็นตัวกลางที่ทำให้ระบบเผาผลาญไขมันพัง และเมื่อดื่มเข้าไปก็แปรเปลี่ยนเป็นไขมัน -เซลลูไลท์สะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งแน่นอนว่าทำให้เกิดผิวเปลือกส้มได้เช่นกัน
-
สูบบุหรี่
ในแง่ของกระบวนการเผาผลาญ บุหรี่คืออีกหนึ่งตัวการที่เข้าไปขัดขวางจนทำให้ร่างกายเผาผลาญคอเลสเตอรอลได้น้อยลง กักเก็บพลังงานในรูปแบบไขมันมากขึ้น และยังทำให้เส้นเลือดอุดตันได้เร็วขึ้น นอกจากนั้นไขมันยังไปพอกตามอวัยวะต่างๆ เช่น ตับ ลำไส้ ก่อให้เกิดโรคร้ายตามมาได้อีกด้วย
-
ความเครียด
ปัจจัยที่ก่อให้เกิดเซลลูไลท์ คือภาวะอารมณ์ระหว่างวัน โดยเฉพาะความเครียด เมื่อเกิดขึ้นร่างกายจะหลั่งสารอะดรีนาลีนออกมาในปริมาณมาก ก็มีผลต่อกระบวนการสลายน้ำตาลในร่างกาย ทำให้สร้างไขมันมาเก็บไว้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง
วิธีกำจัดเซลลูไลท์ ด้วยตัวเอง
อย่างที่ทราบกันดีแล้วว่า เซลลูไลท์ เกิดจากพฤติกรรมการกินเป็นหลัก ดังนั้นแล้วหากจะแก้ปัญหา ก็สามารถแก้ได้ที่ต้นเหตุ นั่นก็คือ ปรับพฤติกรรมการกิน แต่หากเกิดเซลลูไลท์ตามร่างกายขึ้นแล้ว ก็สามารถกำจัดได้ด้วยตัวเอง ซึ่งต้องใช้เวลาและอาศัยความมีวินัยของตัวเองร่วมด้วย
กินอาหารช่วยกำจัดเซลลูไลท์
ร่างกายที่มีเซลลูไลท์จนทำให้มองเห็นผิวเปลือกส้ม นั่นก็เพราะคอลลาเจนในผิวน้อยเกินไป เนื่องจากไขมันที่ชั้นผิวอันมีคอลลาเจนห่อหุ้มไว้ ทำให้ผิวเรียบสวย และอาหารที่มีคอลลาเจนและสารกระตุ้นระบบเผาผลาญและยับยั้งการเกิดเซลลูไลท์ที่ได้ผลดีมีดังนี้
-
ปลาแซลมอน
-
ชาเขียว
-
กระดูกอ่อนหมู,ไก่
-
น้ำมันมะกอก
-
แอปเปิ้ลไซเดอร์
-
พริก
-
สับปะรด
-
แบล็กเบอร์รี
-
หน่อไม้ฝรั่ง
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
หมั่นออกกำลังกายวันละ 1-2 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันส่วนเกิน โดยท่าออกกำลังกาย หรือกีฬาที่เน้นออกกำลังในตำแหน่งที่ตัวเองกำลังมีเซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้ม
ผลัดเซลล์ผิวด้วยสารสกัดธรรมชาติ
จริงๆแล้ว ร่างกายมีกระบวนการผลัดเซลล์ผิวเป็นปกติอยู่แล้ว แต่สามารถกระตุ้นให้ผลัดเซลล์ได้เร็วขึ้นด้วยการสครับผิว ด้วย กากกาแฟ มะขามเปียก และน้ำตาล เป็นต้น เพราะการผลัดเซลล์ผิวจะช่วยกระตุ้นให้ผิวเปลือกส้ม ค่อยๆ เรียบเนียนขึ้น
วิธีกำจัดเซลลูไลท์ แบบเห็นผลไว
หากอยากลดไขมันส่วนเกินและกำจัดเซลลูไลท์ที่ทำให้ผิวเปลือกส้มในระยะเวลาอันรวดเร็ว สามารถใช้นวัตกรรมทางการแพทย์ ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกหลายแบบ
ฉีดเมโสแฟตสลายไขมัน
เป็นหัตถการที่ใช้เข็มนำตัวยาฉีดเข้าไปในชั้นไขมัน เพื่อทำให้ไขมันที่เกาะกันเป็นก้อนเกิดการแตกตัว และจะถูกขับออกจากร่างกายในรูปแบบของเสีย เช่นทางต่อมเหงื่อ และปัสสาวะ
เหมาะกับใคร
-
ผู้ที่มีไขมันส่วนเกิน และต้องการกำจัดออกในเวลารวดเร็ว
-
ผู้ที่ออกกำลังกาย-คุมอาหารมาอย่างต่อเนื่องแล้ว แต่สัดส่วนยังไม่กระชับ เพราะยังมีเซลลูไลท์
-
ผู้ที่มีปัญหาผิวเปลือกส้ม
Coolsculpting
เป็นการใช้นวัตกรรมคลื่นความเย็นในการกำจัดไขมันในส่วนต่างๆ ตามร่างกาย ด้วยจุดเยือกแข็ง 4 – 7 องศาเซลเซียสแบบคงที่ ส่งลงไปในชั้นไขมันและทำให้ไขมัน ณ ตำแหน่งนั้นแข็งตัว และจะสลายออกไปด้วยระบบน้ำเหลือง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกระบวนการขับของเสียธรรมชาติของร่างกาย
เหมาะกับใคร
-
ผู้ที่มีไขมันเฉพาะส่วน และต้องการลดในระยะเวลาอันรวดเร็ว
-
ผู้หญิงที่เพิ่งผ่านการคลอดบุตร แล้วต้องการกระชับหน้าท้อง
-
ผู้ที่อดอาหารแล้วผิวหนังหย่อนคล้อยจากการมีเซลลูไลท์สะสม
Ultraformer III
เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยสลายไขมันพร้อมๆ กับยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึง โดยใช้เทคนิคยิงส่งคลื่นพลังงานที่มีความเข้มข้นสูงอย่าง Micro & Macro Focused Ultrasound (MMFU) ลงไปยังชั้นผิวเพื่อให้คลื่นพลังงานลงไปกระตุ้นการสลายไขมัน และสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูเส้นใยอีลาสตินในชั้นผิวไปพร้อมๆ กัน จึงทำให้ผิวปราศจากไขมันไปพร้อมกับคืนความกระชับเต่งตึง เรียบเนียนปราศจากผิวเปลือกส้ม
เหมาะกับใคร
-
ผู้ที่มีเซลลูไลท์ไม่มากเกินไป และต้องการกระชับสัดส่วน หน้าท้อง สะโพก ต้นแขน ต้นขา ที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเรียบตึง
-
ผู้ที่มีผิวเปลือกส้มจากการที่น้ำหนักลดลงไวเกินไป
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการกำจัดเซลลูไลท์
เซลลูไลท์ หายเองได้ไหม?
ปริมาณเซลลูไลท์ที่เกาะตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไม่สามารถกำจัดได้เอง จำเป็นต้องถูกการกระตุ้นระบบเผาผลาญจากพฤติกรรม คือ วินัยการออกกำลังกาย การเลือกกินอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเท่านั้น
ครีม หรือผลิตภัณฑ์ทาผิว สามารถช่วยลดเซลลูไลท์ ได้ไหม?
จริงๆ แล้วผลิตภัณฑ์ดูแลผิว จะช่วย ฟื้นฟูชั่นผิวที่บุ๋มยุบอันมีลักษณะเป็นผิวเปลือกส้มให้ค่อยๆ กลับมาเรียบเนียนมากขึ้น แต่ปริมาณเซลลูไลท์ไม่สามารถถูกกำจัดได้ ยิ่งในผู้ที่มีปริมาณมากๆ แนะนำให้ปรับปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางรักษาที่เหมาะสม
สรุป เลือกวิธีกำจัดเซลลูไลท์ ด้วยวิธีไหนดี
วิธีที่ให้ผลชัดเจนได้ไวที่สุด คือ การเลือกเข้ารับบริการกำจัดเซลลูไลท์ด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็น ฉีดเมโสแฟตสลายไขมัน,Coolsculpting หรือ Ultraformer III ที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเซลลูไลท์เยอะ หรือพยายามออกกำลังกาย คุมอาหารมาแล้วแต่ไม่เห็นผลที่ชัดเจนเท่าที่ต้องการ
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที