ริ้วรอยใต้ตาปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ แม้ยังไม่ได้มีอายุมากก็อาจพบริ้วรอยดังกล่าวได้ เป็นปัญหาที่ทำให้หลายๆ คนสูญเสียความมั่นใจ การหาวิธีลดเลือนริ้วรอยที่ตอบโจทย์ ปลอดภัย และเห็นผลจริงจะช่วยปรับภาพลักษณ์โดยรวมให้ดูอ่อนเยาว์ได้ ใครที่มองหาวิธีลดริ้วรอยใต้ตาแบบมีประสิทธิภาพต้องตามอ่านให้จบ
สาเหตุของริ้วรอยใต้ตา
ริ้วรอยใต้ตา หรือตีนกา เป็นเส้นริ้วที่เกิดบริเวณหางตา ใต้ตา หรือรอบดวงตา จะเห็นชัดเมื่อมีการขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้า ในบางคนอาจมีอาการใต้ตาคล้ำร่วมด้วย ซึ่งมีสาเหตุจากการที่ผิวรอบดวงตาสูญเสียความยืดหยุ่น มีสาเหตุได้จากปัจจัยต่อไปนี้
- อายุมากขึ้น เนื้อเยื่อหย่อนคล้อยและกระดูกใต้ตายุบตัว
- คอลลาเจนและอิลาสตินบริเวณรอบดวงตาลดลง
- ผิวรอบดวงตาแห้ง ขาดความชุ่มชื้น
- การเคลื่อนไหวหรือเสียดสีบริเวณรอบดวงตาจากพฤติกรรมการขยี้ตา ยิ้มหยีตา แสดงสีหน้า หรือ ถูตาบ่อย
- การพักผ่อนน้อย หรือความเครียด
มีริ้วรอยใต้ตาส่งผลเสียอย่างไร?
ริ้วรอยใต้ดวงตาไม่ได้ส่งผลที่เป็นอันตราย แต่ทำให้ภาพลักษณ์ของคนที่มีดูสูงวัยขึ้น บุคลิกภาพมีความน่าเชื่อถือน้อยลงเพราะเหมือนคนพักผ่อนน้อย ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง แต่งหน้ายากขึ้น และอาจถึงขั้นทำให้สูญเสียความมั่นใจเวลายิ้มเพราะเห็นตีนกาชัดได้
ริ้วรอยใต้ตาเห็นได้ชัดเมื่อใด?
ริ้วรอยใต้ตาในแต่ละบุคคลอาจมีความชัดไม่เท่ากัน ตามปกติแล้วอาจไม่เห็นริ้วรอยเลย แต่จะมองเห็นได้เมื่อมีการแสดงออกทางสีหน้าหรือเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อบนใบหน้าโดยเฉพาะเวลายิ้มหยีตา
6 วิธีแก้ริ้วรอยใต้ตา แบบธรรมชาติ
ริ้วรอยใต้ดวงตามีหลายระดับ วิธีที่จะลดริ้วรอยใต้ตาได้จึงควรเลือกให้เหมาะตามความลึกหรือความชัดของริ้วรอย แต่ละวิธีมีจุดเด่นและข้อดีต่างกัน 5 วิธีต่อไปนี้สามารถลดริ้วรอยใต้ตาได้แบบเห็นผล
1. ครีมลดริ้วรอยใต้ตา
ปัจจุบันมีครีมทาใต้ตาที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นรอบดวงตาได้ดี หากใช้เป็นประจำก็จะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยรอบดวงตาได้ หลายๆ ยี่ห้อเองมีส่วนผสมที่ช่วยลดความคล้ำได้อีกด้วย แต่จะเหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มมีริ้วรอยและเน้นป้องกันการเกิดมากกว่ารักษาในคนที่มีร่องลึกใต้ตา
2.ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่นิยมสุดในการแก้ปัญหาริ้วรอยรอบดวงตาเนื่องจากมีความปลอดภัยสูง เห็นผลลัพธ์เร็ว ฟิลเลอร์เป็นสารไฮยาลูรอนิคที่จะเข้าไปเติมเต็มร่องริ้วใต้ตาให้ดูเรียบเนียนไปกับผิวโดยรอบ แก้ปัญหาถุงใต้ตา และใต้ตาคล้ำได้อีกด้วย
3.ฉีดโบท็อกใต้ตา
โบท็อกเป็นหัตถการที่ฉีดเพื่อปรับกล้ามเนื้อให้คลายตัวลงชั่วคราว ผลลัพธ์หลังฉีดจะช่วยลดริ้วรอย ผิวดูตึงกระชับขึ้น เห็นผลไว แต่มีข้อระวังในการฉีดเพราะเป็นบริเวณที่มีอวัยวะสำคัญ ต้องฉีดกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์สูงเท่านั้น
4.ยกกระชับใต้ตา
นวัตกรรมยกกระชับใต้ตาด้วยพลังงานคลื่นเสียงไม่ว่าจะเป็น Hifu, Ultraformer หรือ Thermage สามารถใช้ลดริ้วรอยได้อย่างเห็นผล เนื่องจากเครื่องจะส่งพลังงานเข้าไปกระตุ้นให้ผิวสร้างเส้นใยคอลลาเจนขึ้นใหม่ ซึ่งจะช่วยให้เกิดความกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับคนที่กลัวเข็ม
5.เลเซอร์ใต้ตา
เลเซอร์เป็นอีกเทคโนโลยีที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้แต่ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนเท่าหัตถการประเภทอื่น เหมาะกับคนที่เส้นริ้วบางๆ เน้นประสภาพผิวให้สม่ำเสมอและเรียบเนียนเป็นหลัก
6.ร้อยไหมใต้ตา
การร้อยไหมบริเวณใต้ตาสามารถช่วยยกกระชับผิวหนังให้ดูเต่งตึงได้ วิธีนี้แพทย์จะใช้เส้นไหมสอดเข้าไปในชั้นผิวเพื่อดึงให้โครงสร้างผิวยกตัวขึ้น กระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนเลือด ผิวใต้ตาดูเรียบเนียน แต่เป็นวิธีที่ละเอียดอ่อนต้องทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสูง
ลดปัญหาริ้วรอยใต้ตาด้วยวิธีไหนดี?
ปัจจุบันวิธีที่ช่วยลดริ้วรอยใต้ตาได้อย่างปลอดภัยและเห็นผลที่สุดจะเป็นวิธีที่ใช้เทคโนโลยีการแพทย์มาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหัตถการอย่างการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โบท็อก และการยกกระชับ Ultraformer ที่เข้าไปช่วยปรับผิวที่ภายใน ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ลดความเสี่ยงจากการผ่าตัด
ทำไมฟิลเลอร์ใต้ตาถึงเป็นที่นิยม
ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีที่เห็นผลได้เร็วที่สุด และสามารถทำได้ง่ายตามคลินิกความงามทั่วไป และยังมีความปลอดภัยสูงเนื่องจากตัวฟิลเลอร์สามารถสลายตัวได้เอง ไม่เป็นอันตรายกับร่างกาย และไม่ตกค้าง ในขณะที่ช่วยลดริ้วรอยใต้ตารวมไปถึงลดความคล้ำใต้ตาได้ดี
ข้อดีของฟิลเลอร์ใต้ตา ลดริ้วรอยได้จริงไหม?
ฟิลเลอร์ใต้ตาเมื่อฉีดกับคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้วสามารถลดริ้วรอยใต้ตาได้อย่างเห็นผล คลินิกที่ดีจะมีฟิลเลอร์หลายรุ่นให้บริการตอบโจทย์กับปัญหาลูกค้า เมื่อฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์จะช่วยวิเคราะห์ปัญหา ปริมาณในการฉีด และเทคนิคในการฉีดที่เหมาะกับคนไข้ได้
วิธีดูแลหลังทำหัตถการรักษาริ้วรอยใต้ตา
วิธีลดริ้วรอยใต้ตายอดนิยมหลายๆ วิธีเป็นวิธีที่คงผลลัพธ์ชั่วคราว การดูแลตัวเองด้วยวิธีการต่อไปนี้จะช่วยชะลอไม่ให้เกิดริ้วรอยใต้ตาใหม่ๆ ขึ้น และช่วยให้ผลลัพธ์ในการรักษาอยู่ได้นานขึ้นได้
- พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมและฟื้นฟูผิว
- เลี่ยงการขยี้ตา แสดงสีหน้า หรือถูรอบดวงตา
- เลี่ยงการโดนแสงอาทิตย์หรือความร้อนสูงที่อาจกระทบให้เกิดริ้วรอย
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์รอบดวงตาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นเกราะป้องกันผิว
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ และเลือกทานอาหารที่เป็นประโยชน์กับผิว
สรุป
การรักษาริ้วรอยใต้ดวงตามีให้เลือกหลากหลาย แต่การเลือกวิธีที่ตรงกับปัญหา ตอบโจทย์กับเงื่อนไขหรือความต้องการเฉพาะบุคคลก็จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ในการรักษาที่เร็วขึ้น ปัจจุบันการพึ่งเทคโนโลยีทางการแพทย์ก็ช่วยเร่งผลลัพธ์ได้ และยังมีความปลอดภัยสูงเมื่อเลือกทำกับคลินิกและแพทย์ที่วางใจได้
หากสนใจอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการแก้ปัญหาเพิ่มเติมสามารถเข้าชมต่อได้ที่ : https://www.gangnamconsult.com/under-eye-wrinkles/
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
