metahealth

ผู้เขียน : metahealth

อัพเดท: 24 ธ.ค. 2023 23.04 น. บทความนี้มีผู้ชม: 6580 ครั้ง

บทความแนะนำ แหล่งความรู้เกี่ยวความงามสำหรับผู้หญิง


สิวหาย! เหลือทิ้งไว้แค่รอยสิวรักษาอย่างไรดี?

 
สิวขึ้นว่าปวดหัวแล้วแต่พอสิวหายยิ่งหนักใจกว่า เพราะมักตามมาด้วยปัญหารอยสิวที่หายช้า แล้วมีโอกาสเกิดขึ้นได้บ่อยๆ ทุกครั้งที่มีสิว ปัญหานี้จะหมดไปหากรู้ที่มาของรอยสิว ประเภทรอยสิวแต่ละแบบ และวิธีรักษาที่เห็นผล ควรเลือกรักษารอยสิวอย่างไรดีบทความนี้ได้รวบรวมวิธีรักษารอยสิวที่เห็นผลพร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียให้แล้ว
 
 

ทำไมหลังสิวหายถึงมีรอยสิว?

รอยสิวเกิดขึ้นมาหลังจากที่สิวยุบตัวซึ่งส่งผลให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ หรือเกิดแผลในขณะที่อยู่ในช่วงซ่อมแซมเนื้อเยื่อ หรืออาจเกิดจากพฤติกรรมที่ทำให้กลายเป็นแผลก็ได้เช่นกัน 
 
 

พฤติกรรมที่ทำให้เกิดรอยสิว

ในกรณีที่ไม่ได้ปล่อยให้สิวหายเองมีโอกาสทำให้เกิดรอยสิวที่หายช้าขึ้นได้ พฤติกรรมที่ส่งผลมีดังต่อไปนี้
 

ใครที่มีโอกาสมีรอยสิวสูง

 

รอยสิว 3 ประเภทต่างกันอย่างไร?

รอยสิวสามารถจำแนกออกได้เป็น 3 ประเภทด้วยกันดังนี้
 
รอยดำ
รอยที่มีสีคล้ำออกน้ำตาลหรือดำ เกิดขึ้นหลังเป็นสิวอักเสบในชั้นหนังแท้ ส่งผลให้เม็ดสีเมลานินผลิตเพิ่มขึ้นมาแล้วกลายเป็นรอยดำ
 
รอยแดง 
รอยสิวที่เกิดขึ้นหลังสิวหาย มีความรุนแรงต่ำ เป็นรอยที่เกิดจากสิวทั่วไปหรือสิวที่มีการอักเสบเฉพาะบริเวณผิวหนังชั้นบนแล้วทิ้งรอยแดงไว้
 
รอยหลุมสิว
รอยหลุมสิวเป็นรอยสิวในลักษณะของแผลเป็น เกิดหลังจากที่มีการซ่อมแซมเนื้อเยื่อหลังเป็นสิวที่มีความรุนแรงสูงอย่างสิวอักเสบ สิวเม็ดใหญ่ หรือสิวหัวช้างที่ทิ้งหลุมสิวไว้ทำให้หายช้า รักษาได้ยาก
 
 

ถ้าไม่รักษารอยสิวจะหายเองได้ไหม?

รอยสิวแต่ละประเภทจะใช้เวลาในการจางลงที่ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับประเภทสิว ขนาด ร่วมกับพฤติกรรมในการดูแลผิว หากไม่มีการรักษารอยสิวก็ยังสามารถจางลงได้แต่อาจไม่หายสนิท หรือใช้เวลาซึ่งอาจนานถึง 3 - 6 เดือนได้เลย
 
 
 

รอยสิวหายช้ามีสาเหตุจากอะไร?

ปัจจัยที่ส่งผลให้รอยสิวหายช้ามาจากการดูแลรักษาที่ไม่ถูกต้อง และกระบวนการฟื้นฟูซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ต้องใช้เวลาในการปรับโครงสร้างผิวให้กลับมาเหมือนเดิม ดังนั้นหากต้องการให้รอยสิวให้ไวขึ้นควรเลือกวิธีรักษาสิวมาช่วยแก้ปัญหา
 

รักษารอยสิวยังไงได้บ้าง?

การรักษาสิวสามารถทำได้ด้วยหลายวิธีทั้งวิธีแบบธรรมชาติและการเลือกเทคโนโลยีมาช่วย แต่ละแบบจะมีขั้นตอนหรือเทคนิคในการรักษาต่างกันดังนี้
 
 
ใช้ยาลดรอยสิว
 
ยาลดรอยสิวที่เห็นผลมีได้ทั้งแบบทาและแบบรับประทาน โดยแบบทาควรเป็นตัวยาที่มีส่วนผสมของ AHA เรตินอล กรดแลคติก หรือกรดอะซีลาอิก ส่วนประเภทรับประทานควรมีส่วนผสมของวิตามินซีเพื่อช่วยฟื้นฟูการผสานตัวของเนื้อเยือ
 
ข้อดี : ทำง่าย ควบคุมงบประมาณได้
ข้อเสีย : ผลลัพธ์จะช้า-เร็วขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล กำหนดได้ยาก
 
 
สครับผิวกระตุ้นการผลัดเซลล์
 
การสครับผิวหรือใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท AHA หรือ BHA จะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวสร้างเนื้อเยื่อขึ้นใหม่ได้ไวขึ้น ลดรอยสิวบริเวณผิวชั้นนอกหลุดไป
ข้อดี : ทำให้รอยสิวหายไปด้วยวิธีธรรมชาติ
ข้อเสีย : ไม่เหมาะกับผิวเซนซิทีฟ ทำได้ไม่บ่อยนักเพราะอาจเกิดการระคายเคืองหรือทำให้ผิวบางลงได้
 
 
ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยลดรอยสิว
 
ครีมหรือเซรั่มที่มีส่วนประกอบของวิตามินซีจะช่วยให้รอยสิวจางลงได้ดี ควรเลือกประเภทที่ใช้วิตามินซีบริสุทธิ์เพื่อให้ออกฤทธิ์ได้เห็นผล เหมาะสำหรับลดรอยดำและแผลเป็นที่เกิดจากสิว
 
ข้อดี : มีตัวเลือกผลิตภัณฑ์หลากหลาย สะดวก ใช้เวลาน้อย
ข้อเสีย : ต้องใช้อย่างต่อเนื่องนานจึงเห็นผล และไม่เหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่าย หรือคนที่แพ้วิตามินซี
 
 
ฉีดเมโสหน้าใส
 
เมโสหน้าใสเป็นการบำรุงผิวที่เร่งให้เห็นผลเร็วขึ้นเนื่องจากเป็นการฉีดสารอาหารผิวตรงไปยังผิวหนังชั้นกลาง มีหลายสูตรให้เลือกซึ่งมักเป็นสารบำรุงที่มีส่วนผสมของกลูต้าไธโอน วิตามิน และคอลลาเจน ผลลัพธ์หลังฉีดผิวจะแข็งแรง กระจ่างใสขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ
 
ข้อดี : เห็นผลไว สภาพผิวหน้าโดยรวมดีขึ้น
ข้อเสีย : หลังทำจะมีอาการบวมเข็มประมาณ 1 - 2 วัน
 
 
ฉีดมาเด้คอลลาเจนปรับสภาพผิว
 
มาเด้คอลลาเจนเป็นตัวยาเมโสชนิดหนึ่ง มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินบี คอลลาเจน และเอนไซม์ที่ช่วยลดการอักเสบได้ดี กระตุ้นการไหลเวียนทำให้รอยสิวจางลง เปรียบเหมือนการบำรุงผิวแต่เปลี่ยนจากการทาเป็นการฉีดเข้าสู่ผิวโดยตรง
ข้อดี : รอยสิวจางลงเร็ว ช่วยปรับสภาพผิวให้แข็งแรงขึ้น
ข้อเสีย : ไม่เหมาะกับคนที่กลัวเข็ม หลังฉีดอาจเกิดรอยแดงจากเข็ม
 
 
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
 
กรณีที่มีรอยหลุมสิวที่เนื้อเยื่อยุบตัวลงไปสามารถใช้ฟิลเลอร์ฉีดเติมเต็มเพื่อสมานเนื้อเยื่อที่ขาดหายได้ เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารประเภทไฮยาลูรอนิคแอซิดที่พบได้ในร่างกายธรรมชาติจึงใช้ฉีดได้อย่างปลอดภัย ไม่ตกค้างในร่างกาย เป็นวิธีที่ช่วยทำให้หลุมสิวดูตื้นลงได้
 
ข้อดี : แก้ปัญหาผิวหน้าเป็นหลุมจากรอยหลุมสิวได้ดี เห็นผลลัพธ์ชัดเจนโดยไม่ต้องทำศัลยกรรม
ข้อเสีย : ไม่เหมาะกับใช้รักษารอยดำหรือรอยแดง
 
 
 
 
เลเซอร์รักษารอยสิว Dual Yellow
 
Dual Yellow เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ใช้เพื่อลดรอยสิวโดยเฉพาะ ตัวเลเซอร์จะมี 2 ระบบ คือแสงสีเขียวและแสงสีเหลือง เลเซอร์จะยับยั้งเม็ดสีเมลานินและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้หลังยิงเลเซอร์ผิวดูกระจ่างใสเรียบเนียนขึ้น
 
ข้อดี : ช่วยลดรอยสิวพร้อมปรับสภาพผิวให้สม่ำเสมอขึ้น 
ข้อเสีย : ไม่ควรทำในช่วงที่ผิวหน้าอ่อนแอ หลังทำต้องเลี่ยงความร้อน
 
 
เลเซอร์ Pico
 
เทคโนโลยีเลเซอร์ที่ส่งพลังงานความร้อนไปรักษารอยสิวได้ลึกถึงชั้น Papilla Dermis อย่างเจาะจง เห็นผลการรักษารอยสิวทุกประเภทได้ดีตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
 
ข้อดี : เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ฟื้นฟูสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น
ข้อเสีย : ควรทำกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ค่าพลังงานที่เหมาะสม ไม่ให้เกิดผลข้างเคียงหลังทำ
 
 
Hifu Ultraformer III
 
นวัตกรรมยกกระชับผิวโดยใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สามารถนำมารักษารอยสิวได้ โดยเฉพาะรอยดำหรือรอยแดง เนื่องจาก Hifu จะเข้าไปลดเม็ดสีเมลานิน ปรับผิวให้แข็งแรงขึ้นโดยการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นใหม่
 
ข้อดี : ช่วยปรับผิวให้แข็งแรงขึ้น ฟื้นฟูรอยสิวตามธรรมชาติ
ข้อเสีย : ราคาสูง เน้นปรับสภาพผิวโดยรวม ไม่ได้เป็นวิธีการรักษาเฉพาะจุดโดยตรง
 
 

วิธีรักษารอยสิวที่เห็นผลที่สุด เลือกแบบไหนดี?

วิธีรักษารอยสิวสามารถทำได้เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ดีทุกวิธี แต่ละวิธีอาจได้ผลดีต่างกันในแต่ละคน เนื่องจากมีปัจจัยเฉพาะบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หากต้องการวิธีที่ปลอดภัยและรักษารอยสิวได้ครอบคลุม ให้ประสิทธิภาพสูงสุดแนะนำวิธีที่ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย อย่างเลเซอร์รักษารอยสิวหรือการฉีดเมโสหน้าใส ฉีดมาเด้ ที่ช่วยปรับสภาพผิวให้แข็งแรงก็จะแก้ได้ตรงจุด
 

ใช้วิธีรักษารอยสิวหลายวิธีร่วมกันได้ไหม?

สามารถรักษารอยสิวหลายวิธีร่วมกันได้แต่ต้องอยู่ใต้การให้คำแนะนำหรือการประเมินวิธีรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญ เพราะการทำหัตถการบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงหรือข้อห้ามหลังทำ ทำให้ต้องเว้นช่วงก่อนทำการรักษารอยสิวด้วยวิธีอื่น ในบางกรณีรักษารอยสิวด้วยวิธีเดียวก็ได้ผลดีแล้ว จึงอาจไม่จำเป็นต้องทำหลายวิธี
 

ป้องกันรอยสิวยังไงไม่ให้กลับมาเป็นอีก

หลังรักษารอยสิวแล้วหากมีสิวอักเสบหรือสิวเม็ดใหญ่ผุดขึ้นมาอีกก็มีโอกาสทิ้งรอยสิวใหม่ไว้ได้ จึงแนะนำให้คนที่ไม่อยากมีรอยสิวป้องกันด้วยการดูแลตัวเองดังนี้
 
ดื่มน้ำให้มากขึ้นเพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นในชั้นผิว ลดการสะสมไขมันในรูขุมขนเพื่อไม่ให้เป็นสิวง่าย ป้องกันการเกิดรอยสิว
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวได้ดี เช่น อาหารที่มีวิตามินซีหรือคอลลาเจนเป็นส่วนผสม
งดแกะสิว สัมผัสใบหน้าในระหว่างมีสิว หรือกดสิวด้วยตัวเอง เนื่องจากเสี่ยงเกิดการอักเสบมากขึ้นและทำให้มีรอยแผลหลังสิวหาย
หลีกเลี่ยงสิ่งแวดล้อมที่เป็นมลภาวะหรือกระทบกับผิวหน้า โดยเฉพาะการโดนแสงอาทิตย์ที่กระตุ้นให้รอยสิวมีสีคล้ำขึ้น หรือความเย็นที่ทำให้ผิวหน้าแห้ง สูญเสียความชุ่มชื้น
 

คลินิกแบบไหนที่เหมาะเลือกรักษารอยสิว

การรักษารอยสิวให้เห็นผลมีปัจจัยจากการเลือกคลินิกมาเป็นส่วนเกี่ยวข้อง หากคลินิกที่เลือกมีความน่าเชื่อถือ พนักงานและแพทย์ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมมีการใช้อุปกรณ์และตัวยาในการรักษาที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย ประสิทธิภาพหลังรักษาก็จะดียิ่งขึ้น

                 สรุป การรักษารอยสิวให้เห็นผลควรเลือกวิธีทางการแพทย์มาช่วย เพราะมีนวัตกรรมหลายแบบที่ตอบโจทย์และย่นระยะเวลาให้หายไวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการฉีดมาเด้คอลลาเจน ใช้เลเซอร์รักษา หรือการฉีดฟิลเลอร์เติมเต็ม ทั้งนี้เพื่อให้ได้วิธีที่เหมาะที่สุดควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกจะดีที่สุด


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที