มหันตภัยที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตเริ่มปรากฏให้เห็นรางๆ แล้ว ถ้าเราไม่รีบลงมือทำโดยด่วน โลกเราจะต้องแปรสภาพด้วยน้ำมือมนุษย์ที่ทำให้สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง สเตฟานี ตันมอร์ เจ้าหน้าที่รณรงค์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กรีนพีซสากล กล่าว สิ่งที่รายงานฉบับนี้บอก คือ พวกเราไม่มีเวลาเหลือแล้วจริงๆ
เนื้อหาบางส่วนของรายงานฉบับนี้บ่งชี้ว่า
ในทศวรรษหน้า ประชากรโลกที่ประสบภาวะขาดแคลนน้ำมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นจากหลักสิบล้านเป็นหลายพันล้าน โดยเฉพาะในอินเดีย บางส่วนของเอเชียใต้ และอาฟริกา ขณะที่ประเทศที่ยากจนที่สุดเหล่านี้กำลังตกอยู่ในภาวะทุกข์เข็ญ บรรดาประเทศร่ำรวย เช่น ออสเตรเลีย และหลายประเทศในยุโรปทางตอนใต้ก็กำลังรอเผชิญกับปัญหานี้ด้วยเช่นกัน
ความสามารถในการผลิตอาหารในพื้นที่ที่ยากจนที่สุดของโลกจะลดลง ทำให้ภาวะความอดอยากหิวโหยรุนแรงขึ้นและเป็นการขัดขวางการบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาต่างๆ ในรอบพันปี นอกจากนั้นภายในช่วง 2-3 ทศวรรษนี้ ภาวะโลกร้อนยังจะส่งผลให้การเพาะปลูกข้าวสาลี ข้าวโพด และข้าวเจ้าในอินเดียและจีนได้ผลผลิตน้อยลง
ช่วงทศวรรษหน้า อาฟริกาจะประสบกับภัยแล้งและภาวะขาดแคลนน้ำที่ทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาความอดอยาก และการพลัดที่อยู่ของประชากรเพิ่มขึ้น
การละลายของธารน้ำแข็งในทวีปเอเชีย ละตินอเมริกา และยุโรปจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ในการจัดการทรัพยากรน้ำสำหรับประชากรโลกจำนวนมาก และส่งผลต่อการเกิดอุทกภัยที่เพิ่มขึ้นจนนับครั้งไม่ถ้วน จากการที่ระดับน้ำในทะเลสาปธารน้ำแข็งไหลทะลักออกมา รวมถึงภัยพิบัติอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นกับผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ธารน้ำแข็ง
ประชากรจำนวนมากจะประสบกับภัยพิบัติอันเนื่องมาจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น พายุ คลื่นยักษ์ และอุทกภัยจากแม่น้ำในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำสายหลักในเอเชีย เช่นแม่น้ำคงคา-พรหมบุตร ในบังคลาเทศ และจูเจียง (แม่น้ำไข่มุก) ในประเทศจีน
อุณหภูมิที่สูงขึ้นเกิน 1 องศาเซลเซียส มีผลทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นหลายเมตรภายในช่วงเวลาหลายร้อยปี ทั้งนี้เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งกรีนแลนด์และธารน้ำแข็งเวสต์ แอนตาร์กติกเพียงบางส่วนหรือทั้งหมด การปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดช่วงหลายทศรรษหน้ายังจะส่งผลให้แนวชายฝั่งมหาสมุทรเคลื่อนไปจากตำแหน่งเดิมอย่างมหาศาล
ความก้าวหน้าจากการค้นพบอีกชิ้นหนึ่งระบุว่า ประเทศจีน และซาอุดิอาระเบียเป็นพื้นที่สำคัญที่ซึ่งระบบทางธรรมชาติจะได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ตามหลักฐานจากกการสังเกตจากทั่วทุกทวีป และเกือบทุกมหาสมุทร มีความมั่นใจในระดับสูง (มาก) ว่าระบบทางธรรมชาติมากมายกำลังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอุณหภูมิผิวโลกที่สูงขึ้น
ประเทศจีน และซาอุดิอาระเบีย ยืนกรานที่จะให้ตัดคำว่า มาก ออก ทั้งๆ ที่ความมั่นใจในหลักฐานที่ค้นพบอยู่ระดับมากกว่าร้อยละ 99.9 บรรดานักวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นผู้เขียนรายงานของไอพีซีซีนำข้อสรุปที่อ่อนแรงนี้ไปใช้ในเป้าหมายสำคัญทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน
เราเชื่อว่า นี่เป็นแบบอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของไอพีซีซี นับตั้งแต่ปี 1998 (พ.ศ.2541)มันเป็นความก้าวหน้าที่อันตรายและอัปลักษณ์ที่สุด เท่าที่เรารับรู้มา ไม่เคยมีการกระทำเช่นนี้ในประวัติศาสตร์ของไอพีซีซี
ยังไม่สายเกินไป
กรีนพีซเรียกร้องให้มีการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกให้อยู่ในระดับสูงสุดได้แค่ปี 2020 (พ.ศ.2563) และหลังจากนั้นให้ลดระดับลงอย่างรวดเร็ว โดยต้องลดลงทั่วโลกอย่างน้อยร้อยละ 50 นับจากระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 1990 (พ.ศ.2533) จนถึงปี 2050 (พ.ศ.2663) และกำจัดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลให้หมดไปก่อนสิ้นศตวรรษที่ 21
เรายังมีทางเลือก ตันมอร์กล่าว ยังพอจะมีเวลาสำหรับการปฏิวัติพลังงานที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าระบบพลังงานของเราได้อย่างน่าสนใจ และสร้างเศรษฐกิจปลอดคาร์บอนไดออกไซด์ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้อยู่ในระดับที่รักษาอุณหภูมิเฉลี่ยบนผิวโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียส รวมทั้งหลีกเลี่ยงผลกระทบที่นำไปสู่ความหายนะทั้งมวล
ทางเลือกหนึ่งที่ปิดประตูตายสำหรับพวกเราแน่นอนหลังจากรายงานฉบับนี้ออกมา คือ นั่งนิ่งเฉยทำเป็นทองไม่รู้ร้อน
ขอขอบคุณ http://www.greenpeace.org/ สำหรับบทความ ผลกระทบภาวะโลกร้อน
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที