แนะนำระบบ Sales CRM เพิ่มความสะดวกในด้านการขาย และช่วยส่งเสริมยอดขาย Wisible
แนะนำระบบ Sales CRM เพิ่มความสะดวกในด้านการขาย และช่วยส่งเสริมยอดขาย Wisible
Wisible ได้ออกแบบ Sales CRM ขึ้นมาชนิดหนึ่งเพื่อที่มีระบบบริหารจัดการ Sale pipeline ทำให้ช่วยตรวจสอบความคืบหน้าของการขาย หรือติดตามข้อมูลการขายได้แบบเรียลไทม์ รวมทั้งยังช่วยในการเก็บข้อมูลลูกค้าทั้งหมดในระบบ CRM เริ่มตั้งแต่การสร้างรายชื่อลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย การติดตามความคืบหน้าของการขาย การจัดการคำสั่งซื้อของลูกค้า และการตอบสนองคำสั่งซื้อ ตลอดจนนำข้อมูลรายการขายทั้งหมดมาทำการวิเคราะห์วางแผนต่อเพื่อให้สามารถปิดการขายได้มากขึ้น และเป็นระบบ สิ่งนี้จะช่วยให้สามารถลดระยะเวลาในการปิดการขายและคาดการณ์ยอดขายได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์หลักๆ ของ Sales CRM จาก Wisible (Key FEATURES)
ฟีเจอร์หลักๆ ของ Sales CRM จาก Wisible (Key FEATURES) จะมีอยู่ 6 ชนิดด้วยกัน ตั้งแต่ Lead Capturing Management, Sales Pipeline Management, Line Assistant, Product and Payment, Connect with Third-Party Apps, Dashboard & report เป็นต้น โดยแต่ละฟีเจอร์ก็มีรายละเอียดและประโยชน์แตกต่างกันออกไปดังนี้
1. Lead Capturing Management
ฟีเจอร์แรกจะพูดถึงคือการที่เราสามารถรวบรวมลีด Leads ที่เข้ามาจากช่องทางต่างๆเช่นสื่อโซเชี่ยล
facebook, Line และ email เอาไว้ด้วยกัน ทำให้เซลสามารถเข้าถึงหรือพูดคุยกับลูกค้าได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ในฟีเจอร์นี้ยังสามารถสร้างดีลได้อัตโนมัติทันทีที่ลูกค้าของคุณกรอก Form จาก Website ของคุณ ลีดจะถูกสร้างเป็นดีลเข้ามาที่ Wisible แบบ Real-Time พร้อม Label ที่ช่วยบอกว่าลีดรายนี้มาจากช่องทางใดด้วย
รวมทั้งเรายังสามารถเก็บลีดได้ผ่านสายโทรเข้าของลูกค้าเพื่อสร้างเป็น ดีลอัตโนมัติเข้ามาที่ Wisible และหากทีมเซลต้องการติดต่อกับลูกค้า ก็สามารถโทรออกจาก Wisible ได้ทันที
และสุดท้ายสำหรับฟีเจอร์นี้คือการที่สามารถสร้างลีดได้ง่ายๆภายในคลิกเดียว ซึ่งนับได้ว่าเป็นอีกเครื่องมือที่สำคัญสำหรับธุรกิจ B2B คือ Direct Sales รวมถึงเมื่อต้องจัด Event ก็สามารถสร้างลีดได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่คลิก ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียลีดในมือไป
หากสนใจสามารถดูรายละเอียดฟีเจอร์ Lead Capturing Management เพิ่มเติมได้ที่ https://www.wisible.com/lead-capturing-management/
2. Sales Pipeline Management
ต่อมาในฟีเจอร์ Sales Pipeline Management จะช่วยให้เห็นภาพรวมของงานขายทั้งหมดในหน้าจอเดียว รวมทั้งยังมีประโยชน์จากฟีเจอร์ย่อยต่างๆของหัวข้อนี้อีกมาก ได้แก่
2.1Visual Sales Pipeline
ช่วยให้เห็นภาพรวมงานขายในหน้าจอเดียว แต่ละดีลจะแสดงผลเป็นเหมื่อนการ์ดหนึ่งใบ ตามภาพจะเห็นได้ว่าแถวแนวตั้งคือขั้นตอนการขาย โดยดีลจะเคลื่อนจากซ้ายไปขวาตามความคืบหน้าของดีล
2.2 Deal Profile 360°
ข้อมูลสำคัญภายในดีล แสดงผลเป็น Timeline หมดปัญหางานแอดมิน
Wisible ช่วยให้คุณเก็บทุกข้อมูลการติดต่อ
ที่เกิดขึ้นกับลูกค้าไว้อย่างปลอดภัย
ข้อมูลในดีล Deal Profile
- ข้อมูลบริษัทและผู้ติดต่อ
- ใบเสนอราคาทุกฉบับ
- กิจกรรมที่เกิดขึ้นกับลูกค้า
- การนัดหมายลูกค้า
- อีเมลทุกฉบับของดีล
- ไฟล์ข้อมูล
- โน๊ต
- วันเปิด-ปิดการขาย
- งานที่ได้รับมอบหมาย
- โทรเข้า-ออกได้ในดีล
2.3 Account Profile
ข้อมูลสำคัญทั้งหมดของลูกค้าทั้งรายบุคคลและรายองค์กร ไปจนถึงความเป็นส่วนตัวของข้อมูลลูกค้า ถูกปิดและกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นเอาไว้
· ข้อมูลรายลูกค้าและรายองค์กร รู้
· ทุก Insight ตั้งแต่เปิด-ปิดดีล
· ทันทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นภายในดีล
· กำหนดผู้ใช้งานที่สามารถเข้าถึง Profile ของลูกค้าได้
2.4 ฟีเจอร์พื้นฐานอื่นๆ
· Label : แบ่งกลุ่มดีลด้วยป้ายกำกับ ทำให้การค้นหาข้อมูลที่ต้องการ เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นกว่าเดิม
· Note : บันทึกข้อความและรูปภาพเก็บ เป็นข้อมูลสำคัญไว้ในที่เดียว
· Filter : กรองข้อมูลที่ต้องการค้นหาด้วย ตัวกรองที่มากกว่า 9 รูปแบบ
· File Sharing : แบ่งปันไฟล์สำคัญร่วมกันภาย ในทีม ด้วยพื้นที่เก็บข้อมูล 5 GB
· Exporting Excel or CSV : นำข้อมูลที่ต้องการไปวิเคราะห์ต่อ ด้วยการ export ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ
· Multi-board : แยกบริหารทีมขายได้หลายทีม โดยแต่ละทีมไม่สามารถเห็นข้ามกัน แยกทำงานได้อย่างอิสระ
หากสนใจสามารถดูรายละเอียดฟีเจอร์ Sales Pipeline Management
เพิ่มเติมได้ที่ https://www.wisible.com/sales-pipeline-management/
3. Line Assistant
Line Assistant เป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยให้การทำงานของคุณง่ายขึ้นผ่านทาง Line โดยมีคุณสมบัติหลักๆได้แก่
· สร้างดีลผ่าน Line
· มอบหมายงาน
· เก็บแชทเข้ามาในดีล
· สร้าง Note ผ่าน Line
· ดูภาพรวมงานขาย
นอกจากนี้ฟีเจอร์นี้ยังมีระบบ Notify ที่จะแจ้งเตือนเรื่องสำคัญต่างๆผ่านไลน์ ตัวอย่างเช่น เตือนเมื่องานใกล้ถึงกำหนด, แจ้งเมื่อ Lost Deal, แจ้งเมื่อดีลถูกสร้างใหม่, แจ้งเมื่อถึงกำหนดชำระค่าบริการและแจ้งเมื่อดีลปิดการขายสำเร็จเป็นต้น
หากสนใจสามารถดูรายละเอียดฟีเจอร์ Line Assistant https://www.wisible.com/th/line-assistant/
4. Product and Payment
สำหรับฟีเจอร์ Product and Payment เป็นเครื่องมือที่จะช่วยจัดการระบบคลังสินค้า พร้อมทั้งคอยติดตามการชำระเงิน สามารถตั้งค่าการชำระเงินได้หลายงวด และสามารถแจ้งเตือนผ่านไลน์เมื่อถึงกำหนดวันชำระ หรือจะสร้างรายงานกระแสของเงินสดขาเข้าแบบเรียลไทม์ก็ได้
นอกจากนี้ยังสามารถสร้างใบเสนอราคาได้ง่ายๆ และยังสามารถตรวจสอบและคำนวณส่วนลด ภาษีอัตโนมัติ รวมถึงจะทำการเก็บบันทึกใบเสนอราคาย้อนหลังทั้งหมดไว้อีกด้วย
หากสนใจสามารถดูรายละเอียดฟีเจอร์ Product and Payment https://www.wisible.com/th/product-and-payment/
5. Connect with Third-Party Apps
ฟีเจอร์ที่จะเชื่อมทุกๆเครื่องมือและโปรแกรมที่จำเป็นต่อเซลเอาไว้ด้วยกัน ตัวอย่างเช่น Line, AIYA, Octagon, SignNow, PAM, Peak Accountเป็นต้น สิ่งนี้จะช่วยให้สะดวกต่อการใช้งานและลดระยะเวลาการทำงานที่ไม่จำเป็นออกไปได้
หากสนใจสามารถดูรายละเอียดฟีเจอร์ Connect with Third-Party Apps https://www.wisible.com/th/connect-with-third-party-apps/
6. Dashboard & Report
ฟีเจอร์สุดท้ายที่อยากพูดถึงของ Wisible นั่นคือ Dashboard & Report ที้จะแสดงหน้าต่างสถานะให้เข้าใจง่าย ดูได้ทุกที่ ผ่านทางหน้า Dashboard ซึ่งจะแสดงสถานะและอัพเดตแบบ Real-Time ทำให้สามารถดูตัวชี้วัดที่สำคัญต่อธุรกิจของคุณได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบรายละเอียดและ Perfomance ของพนักงานและสินค้าที่ขายออกไปได้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งจะช่วยให้สามารถวิเคราะห์หรือนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆได้
หากสนใจสามารถดูรายละเอียดฟีเจอร์ Dashboard & Report https://www.wisible.com/th/dashboard-report/