อัพเดท: 31 มี.ค. 2023 15.10 น. บทความนี้มีผู้ชม: 17761 ครั้ง
บทความแนะนำ เรื่องน่ารู้ศัลยกรรมความงาม
Gentle Yag คืออะไร? การทำ Gentle Yag เป็นการใช้เลเซอร์รูปแบบหนึ่งยิงลงไปบนผิวหนัง โดยคลื่นนี้จะลงไปยังชั้นผิวหนังแท้ จากนั้นคลื่นจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ซึ่งความร้อนนี้จะเข้าไปทำลายรากของขน นอกจากนี้ยังจะช่วยกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ลดความหย่อนคล้อย ริ้วรอยต่างๆ และยังจะช่วยให้ขนขึ้นช้ากว่าเดิม พร้อมทั้งเปลี่ยนให้เป็นขนที่เส้นเล็ก และบางลงอีกด้วย เนื่องจากการคลื่นรักษาโดย Gentle Yag จะมีความร้อนในระหว่างที่รักษาอาจจะมีความรู้สึกอุ่นๆเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปแล้วในขณะที่ยิงเลเซอร์ จะมีเครื่องเป่าลมเย็นคอยบรรเทาอาการร้อนอยู่ตลอด และยังจะช่วยปกป้องผิวชั้นบนไม่ให้เกิดการไหม้อีกด้วย แต่การทำ Gentle Yag จะไม่ทำให้ขนหลุดทั้งหมดภายในครั้งเดียว ซึ่งขนจะหลุดไปประมาณ 30% ในการทำแต่ละครั้ง ดังนั้นควรจะทำต่อเนื่องประมาณ 6–8 ครั้ง เพื่อให้ขนหลุดออกไปอย่างถาวร Gentle Yag เหมาะกับใครบ้าง? บางคนอาจจะคิดว่า Gentle Yag จะใช้สำหรับการกำจัดขนเพียงอย่างเดียว แต่จริงๆแล้วยังจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวจากริ้วรอย มีรอยเหี่ยวย่น โดยหลังจากที่รักษาแล้วจะทำให้ผิวดูเรียบเนียน ผิวกลับมาดูเต่งตึง อ่อนเยาว์ ริ้วรอยต่างๆ แลดูจางลงอีกด้วย ก่อนทำต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง? ก่อนทำ Gentle Yag ควรจะต้องดูแลผิวบริเวณอย่างดี เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยควรเตรียมตัวดังนี้ ก่อนรักษาประมาณ 3–4 สัปดาห์ ควรเลี่ยงการโกนขน ถอนขน หรือแวกซ์ขนบริเวณที่ต้องการจะรักษา งดใช้ผลิตภัณฑ์ชำระล้างร่างกาย หรือโลชั่นต่างๆที่มีสารที่จะทำให้ระคายเคืองผิวหนัง เช่น กรด AHA , วิตามินเอ เป็นต้น – ในช่วง 6 สัปดาห์ก่อนรักษา ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด – ไม่ควรขัดผิว หรือสครับผิวตรงบริเวณที่จะรักษา และงดใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขนก่อนจะมาทำ หลังทำต้องดูแลตัวเองอย่างไร? เพื่อที่จะให้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพ และไม่เกิดอาการข้างเคียงอื่นๆตามมา หลังจากรักษาควรจะต้องดูแลตัวเองดังนี้ หลังจากที่รักษามาแล้ว 1–2 วัน สามารถบรรเทาอาการได้โดยการประคบเย็น และทาโลชั่นบำรุงผิวควบคู่กันไป 1–2 สัปดาห์ หลังจากรักษา ควรเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ทำมาโดนแสงแดด และควรทาครีมกันแดดทุกวัน แม้แต่วันที่ไม่ได้ออกไปไหนก็ควรทา งดทำกิจกรรมที่มีความร้อนเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น อบไอน้ำ ทำซาวน่า เป็นต้น สำหรับการรักษาบริเวณรักแร้ ควรงดทาผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายประมาณ 2–3 วัน เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคือง อ่านต่อบทความ https://mekoclinic.com/blog/gentle-yag-meko-clinic/
การทำ Gentle Yag เป็นการใช้เลเซอร์รูปแบบหนึ่งยิงลงไปบนผิวหนัง โดยคลื่นนี้จะลงไปยังชั้นผิวหนังแท้ จากนั้นคลื่นจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ซึ่งความร้อนนี้จะเข้าไปทำลายรากของขน นอกจากนี้ยังจะช่วยกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ลดความหย่อนคล้อย ริ้วรอยต่างๆ และยังจะช่วยให้ขนขึ้นช้ากว่าเดิม พร้อมทั้งเปลี่ยนให้เป็นขนที่เส้นเล็ก และบางลงอีกด้วย
เนื่องจากการคลื่นรักษาโดย Gentle Yag จะมีความร้อนในระหว่างที่รักษาอาจจะมีความรู้สึกอุ่นๆเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปแล้วในขณะที่ยิงเลเซอร์ จะมีเครื่องเป่าลมเย็นคอยบรรเทาอาการร้อนอยู่ตลอด และยังจะช่วยปกป้องผิวชั้นบนไม่ให้เกิดการไหม้อีกด้วย แต่การทำ Gentle Yag จะไม่ทำให้ขนหลุดทั้งหมดภายในครั้งเดียว ซึ่งขนจะหลุดไปประมาณ 30% ในการทำแต่ละครั้ง ดังนั้นควรจะทำต่อเนื่องประมาณ 6–8 ครั้ง เพื่อให้ขนหลุดออกไปอย่างถาวร
บางคนอาจจะคิดว่า Gentle Yag จะใช้สำหรับการกำจัดขนเพียงอย่างเดียว แต่จริงๆแล้วยังจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวจากริ้วรอย มีรอยเหี่ยวย่น โดยหลังจากที่รักษาแล้วจะทำให้ผิวดูเรียบเนียน ผิวกลับมาดูเต่งตึง อ่อนเยาว์ ริ้วรอยต่างๆ แลดูจางลงอีกด้วย
ก่อนทำ Gentle Yag ควรจะต้องดูแลผิวบริเวณอย่างดี เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยควรเตรียมตัวดังนี้
เพื่อที่จะให้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพ และไม่เกิดอาการข้างเคียงอื่นๆตามมา หลังจากรักษาควรจะต้องดูแลตัวเองดังนี้
อ่านต่อบทความ https://mekoclinic.com/blog/gentle-yag-meko-clinic/
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที