รู้จักกับประกันสุขภาพ ประเภทผู้ป่วยนอก OPD คืออะไร และประกันสุขภาพประเภทผู้ป่วยใน IPD คืออะไร เป็นประกันสุขภาพแบบไหน มีความสำคัญอย่างไร
การเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องด้วยการใช้ชีวิตในปัจจุบัน มีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หรือปัญหาด้านสุขภาพที่เกิดจากสภาพอากาศที่เป็นพิษ ส่งผลให้ต้องมีการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูง การมีประกันสุขภาพ opd, ipd ติดตัวไว้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนค่ารักษาไปได้มาก โดยจะมาแนะนำให้ความรู้เกี่ยวกับประกันสุขภาพ 2 ประเภทคือ ประกันสุขภาพ OPD กับ IPD คืออะไร เพราะเหตุใดจึงมีความสำคัญ
ประกันสุขภาพ opd คือ opd ย่อมาจาก OUT-PATIENT-DEPARTMENT หมายถึงผู้ป่วยนอก เป็นคำเรียกผู้ป่วยนอกที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เป็นผู้ป่วยประเภทที่ไม่ต้องพักฟื้น มีอาการเจ็บป่วยที่ไม่รุนแรง หรือเกิดอุบัติทั่วไป สามารถรักษาได้ในระยะเวลาไม่เกิน 6 ชั่วโมง เช่น ไข้หวัดทั่วไป, โรคกระเพาะ, ผดผื่นที่เกิดจากการแพ้, แผลมีดบาด, แผลถลอกทั่วไป เป็นต้น ซึ่งการรักษานั้นมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอาการ และโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษา โดยมีค่าใช้จ่ายคือ ค่าคำปรึกษาจากแพทย์, ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป, ค่ายาชนิดต่าง ๆ
ประกันสุขภาพ opd นั้นเป็นประกันรูปแบบที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ป่วยนอกทั้งหมด โดยที่ไม่ต้องสำรองจ่าย ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายได้ยามเจ็บป่วยได้เป็นอย่างมาก ประกันสุขภาพ ประเภท opd จึงเหมาะกับทุกคน เพราะอาการเจ็บป่วยเหล่านี้ อาจเกิดได้กับทุกคนเป็นเรื่องปกติ
ประกันสุขภาพ ipd คือ ipd ย่อมาจากคำว่า IN-PATIENT-DEPARTMENT เป็นคำที่ใช่เรียกผู้ป่วยใน ผู้ป่วยใน คือ ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาพยาบาล ที่ได้รับการวินิจฉัยการแพทย์ว่าใช้เวลาได้รับการรักษาต่อเนื่องมากกว่า 6 ชั่วโมง หรือต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล โดยเกิดจากสาเหตุที่ร้ายแรงเช่น แขน-ขาหัก, ผู้ป่วยผ่าตัด, ไข้หวัดชนิดรุนแรง เป็นต้น ซึ่งมีค่าหลายอย่างมากกว่าผู้ป่วยนอก คือ ค่าคำปรึกษาแพทย์, ค่าห้องพักในโรงพยาบาล, ค่าห้องผ่าตัด, ค่าธรรมเนียมการผ่าตัด, ค่าเอกซเรย์, ค่าตรวจทางเคมี, ค่ายา เป็นต้น ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก
การมีประกันสุขภาพ ipd เอาไว้ก่อนก็จะสามารถช่วยเหลือลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้มาก ซึ่งรวมถึงมีค่าชดเชยจากการนอนรักษาอีกด้วย โดยประกันสุขภาพประเภท ipd เป็นประกันที่เหมาะกับผู้ที่ต้องทำงานในความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุสูง ผู้ที่เดินทางบ่อย รวมเด็ก และผู้สูงอายุก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน
จะเห็นได้ว่าประกันสุขภาพ opd และ ipd มีการรักษาที่ช่วยในการลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาเป็นหลัก โดยมีข้อแตกต่างกันคือ การรักษาในรูปแบบผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยใน ซึ่งมีค่าใช้จ่าย และการรักษาที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับอาการการเจ็บป่วย โดยก่อนที่จะเลือกทำประกันสุขภาพ OPD กับ IPD ควรเลือกแบบไหนดี ถึงจะเหมาะกับคุณ ควรมีการพิจารณาจาก 5 หัวข้อเหล่านี้
พิจารณาแผนประกันสุขภาพ
การตรวจสอบข้อมูลกรมธรรม์เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกก่อนการทำประกันสุขภาพ OPD กับ IPD เพราะประกันสุขภาพนั้นมีการให้บริการจากหลายบริษัท ซึ่งมีกรมธรรม์ หรือแบบแผนที่ให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกันเช่น ค่ารักษา, ค่าห้องพัก, ค่าชดเชยรายได้ ซึ่งควรเลือกในแบบที่ตรงตามความตั้งใจของคุณมากที่สุด
พิจารณาค่าเบี้ยประกัน
ตรวจสอบเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน ให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายของคุณ เพราะการซื้อประกันสุขภาพ opd ipd นั้นมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันตามสัญญา เพราะถ้าหากจ่ายไม่ครบจะต้องเสียเงินค่าเวนคืนประกันที่มีค่าใช้จ่ายมาก หากผิดสัญญา จึงต้องควรเลือกทำประกันที่มีเบี้ยประกันราคาสอดคล้องกับรายได้ ไม่ให้กระทบต่อรายรับ รายจ่ายของคุณ
พิจารณาจากโรงพยาบาลที่เข้าร่วม
ในการเลือกทำประกันสุขภาพ OPD กับ IPD จากบริษัทต่าง ๆ จะมีคู่สัญญากับโรงพยาบาลที่แตกต่างกัน ซึ่งควรเลือกแบบแผนประกันที่มีคู่สัญญากับโรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือมีคู่สัญญาเยอะ เพื่อช่วยให้การเดินทางไปรับการรักษาได้สะดวก รวดเร็วมากที่สุด
พิจารณาจากผู้ให้บริการ
ในปัจจุบันการทำประกันสุขภาพ OPD กับ IPD สามารถทำได้ง่าย โดยมีผู้ให้บริการ หรือตัวแทนต่าง ๆ มากมายหลายบริษัท โดยสามารถทำได้ทั้งรูปแบบโทรติดต่อเพื่อทำประกันสุขภาพโดยตรง หรือสมัครผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ จึงต้องเลือกผู้ให้บริการที่ดี ที่สามารถช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาต่าง ๆ เกี่ยวกับประกันสุขภาพได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เมื่อพิจารณาจากหัวข้อต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว ในการเลือกระหว่างประกันสุขภาพ OPD กับ IPD ควรเลือกแบบใดถึงจะเหมาะ ต้องดูด้วยว่าคุณ หรือผู้ที่ต้องการทำประกันสุขภาพ มีความเสี่ยงที่จะที่เกิดปัญหามากน้อยเพียงใด เพราะว่าเบี้ยประกันของประกันทั้ง 2 ชนิดนี้มีราคาที่แตกต่างกัน ซึ่งถ้าหากเป็นผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกเดินทางไปที่ไหน และต้องการจ่ายเบี้ยประกันที่น้อยกว่าควรเลือก ประกันสุขภาพ opd และถ้าเป็นผู้ที่เดินทางบ่อย อาจต้องการความคุ้มครองที่มากกว่าควรเลือกประกันสุขภาพ ipd
เพียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่าประกันสุขภาพ OPD กับ IPD คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าประกันสุขภาพนั้นมีความสำคัญอย่างมากกับชีวิตของทุกคนในปัจจุบัน เพราะการเจ็บป่วยแต่ละครั้งนั้นต้องมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มากมายตั้งแต่ ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป, ค่ายารักษา ที่ต้องจ่าย และสำหรับบางคนที่ต้องทำงานรายวัน หากเจ็บป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาลหลายวันอาจทำให้เสียรายได้หลัก ซึ่งประกันสุขภาพ ipd นั้นจะมีค่าชดเชยหากต้องนอนพักฟื้นเป็นเวลาหลายวัน ทำให้ไม่ต้องเสียค่ารักษา และรายได้ระหว่างทำการพักฟื้น
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที