ในปัจจุบันการขายสินค้าออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะสามารถเข้าถึงผู้คนจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย และด้วยเหตุนี้เอง จำนวนร้านค้าออนไลน์จึงเกิดขึ้นมาเป็นจำนวนมากตามไปด้วย ทำให้การแข่งขันกันสูงขึ้นตามไปด้วย ถ้าร้านไหนไม่มีจุดเด่น ก็อาจจะขายสินค้าไม่ได้เลยทีเดียว จึงจำเป็นที่จะต้องเอาระบบ CRM มาช่วย
CRM คืออะไร สามารถทำอะไรได้บ้าง แล้วผู้ประกอบธุรกิจจำเป็นจะต้องใช้จริงหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ ไปเริ่มกันเลย
สำหรับผู้ที่ยังมีคำถามว่า CRM คืออะไร โดย CRM ย่อมาจาก Customer Relationship Management หรือเราจะเรียกได้ว่า CRM คือระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งทำหน้าที่เก็บข้อมูลของลูกค้า ตัวอย่าง crm คือเก็บรวบรวมข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรม รวมไปถึงความสนใจของลูกค้าต่อสินค้าต่าง ๆ ในเวลานั้น เพื่อจะนำข้อมูลนั้นไปใช้ในการโฆษณา โปรโมทต่าง ๆ ต่อไป
เราจะมาอธิบายขั้นตอนที่จะเป็นการนำระบบ CRM มาใช้ เพื่อเพิ่มยอดขายให้แก่ธุรกิจของท่านมากขึ้น
1. สร้างการรับรู้ถึงแบรนด์
เป็นขั้นตอนที่ต้องการทำให้ลูกค้าใหม่ หรือคนทั่วไปได้รู้จักถึงแบรนด์ของเรา จากนั้นจึงนำระบบ CRM มาใช้ดูว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นอย่างไรกับสิ่งที่เรานำเสนอไป เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ให้ได้ผลมากที่สุด การที่เราโปรโมทในวิธีใด ได้ผลมากที่สุด
2. เปิดโอกาสในการขาย
นอกจากทำการแนะนำแบรนด์สินค้าซึ่งเป็นเพียงจุดเริ่มต้นแล้วนั้น การทำให้ลูกค้ามีส่วนก็เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นจึงต้องนำระบบ CRM เพื่อวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภค และปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคที่เกิดขึ้น เช่นช่องทางติดต่อกับลูกค้าเป็นต้น
3. ใช้ประโยชน์จากระบบ CRM เพื่อมาพัฒนาเพิ่มลูกค้า
เมื่อคุณได้กระตุ้นการรู้จักในวงกว้าง กระตุ้นความสนใจ รวมถึงการมีส่วนร่วมของลูกค้าแล้ว ถ้าลูกค้ายังคงไม่ซื้อสินค้า เราจะนำระบบ CRM มาวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค ว่าสนใจอะไร จากนั้นจึงพัฒนาสินค้า หรือจัดโปรโมชั่นเพื่อให้เกิดการซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น
4.สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่แข็งแกร่ง
นอกจากลูกค้าซื้อสินค้าแล้ว ระบบ CRM ยังคงเก็บข้อมูล พฤติกรรมของลูกค้าต่อไป เพื่อที่จะเปลี่ยนลูกค้าขาจร มาเป็นลูกค้าประจำ โดยระบบ CRM จะช่วยให้ลูกค้าซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง อันมาจากการเพิ่มประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายจากการนำข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคมาใช้
5. ขายให้ลูกค้าประจำมากขึ้น
จากการขายสินค้าในอดีตจะถูกเก็บไว้ด้วยระบบ CRM สามารถให้ผู้ผลิตสินค้ามีโอกาสขายสินค้าชิ้นเดิม หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในอนาคตได้จากข้อมูลที่เก็บมา นอกจากนี้ยังสามารถมอบข้อเสนอที่น่าสนใจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการซื้อสินค้าที่มากขึ้น
ระบบ CRM เป็นระบบที่นิยมใช้งานกันอยู่ทั่วไปในหลาย ๆ องค์กร เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขายให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นระบบที่ได้รับความนิยม จึงถูกแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับองค์กร ธุรกิจต่าง ๆ ดังนี้ด้วยเหตุนี้
B2B ย่อมาจาก Business to Business คือการเก็บรวบรวมสรุปต่าง ๆ ขององค์กรเป็นหลัก ตัวอย่างได้แก่ ปริมาณสินค้าที่ได้ ความต้องการของตลาด โปรโมชั่นต่าง ๆ ที่จัดไปมีผลต่อยอดการซื้อหรือไม่ พฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างไร ก่อนนำมาวิเคราะห์เพื่อให้สามารถวางแผนการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
B2C ย่อมาจาก Business to Consumer คือการเก็บข้อมูลพื้นฐานของลูกค้ารายบุคคล ไม่ว่าจะเป็นชื่อ อายุ เพศเป็นต้น ซึ่งจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลความต้องการรายบุคคล ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในร้านค้า ร้านอาหาร เป็นต้น
เนื่องจากระบบ CRM คือระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งทำหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลพฤติกรรม ความสนใจของลูกค้า ซึ่งเหมาะสมกับผู้ที่ประกอบกิจการต่าง ๆ ทั่วไป เพราะเมื่อมีระบบนี้ เราจะสามารถสังเกตพฤติกรรม ความสนใจ และความต้องการของลูกค้าได้ จากนั้นจึงนำไปวิเคราะห์ และพัฒนาต่อยอดสินค้า รวมถึงวิธีทำการตลาดให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าต่อไป
สำหรับใครที่กำลังศึกษาระบบ CRM เราขอแนะนำ Rocket Loyalty CRM เพราะทางเว็บเปิดโอกาสให้ผู้สนใจสามารถทดลองใช้ระบบ CRM ได้ฟรี พร้อมทั้งบริการอย่างครบครัน ทั้งระบบเชื่อมช่องทางออกไลน์ต่าง ๆ ไว้ในที่เดียว สะดวกในการส่งและตอบข้อความ แบ่งกลุ่มลูกค้าตามเป้าหมาย ระบบสมาชิก และอื่น ๆ อีกมากมาย เข้าไปทดสอบกันได้เลย
ประโยชน์ ของ CRM มีดังต่อไปนี้
ด้วยระบบ CRM ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งทำการเก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร ทั้งยังบันทึกพฤติกรรม ความสนใจของลูกค้าได้อีกด้วย
เนื่องจากเป็นเรื่องยาก ที่สินค้าของเราจะตอบโจทย์ความต้องการของคนทุกคน ดังนั้นระบบ CRM จะช่วยแบ่งกลุ่มคนเป้าหมายที่สนใจสินค้าออกมา เพื่อที่คุณจะสามารถสร้างโฆษณาที่เหมาะสมกับลูกค้า
นอกจากการหาลูกค้าใหม่แล้ว การรักษาลูกค้าเก่าถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ ระบบ CRM จะคอยแจ้งเตือนคุณในการติดต่อกับลูกค้า เพื่อไม่ให้ลูกค้ารู้สึกว่าถูกมองข้าม ไม่สนใจ
ด้วยระบบ CRM คอยเก็บข้อมูลพฤติกรรม ความสนใจ รวมถึงความต้องการต่าง ๆ ของลูกค้า ทำให้เป็นการง่ายที่คุณจะออกแบบ พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมไปถึงจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ กระตุ้นการซื้อของลูกค้าอีกด้วย
เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการติดต่อกับลูกค้า ระบบ CRM ก็มีการทำแบบฟอร์มเตรียมไว้ให้สำหรับการติดต่อกับลูกค้า สำหรับอีเมลยังสามารถตั้งเวลาในการส่งได้อีกด้วย
เนื่องจากกฎหมายความเป็นส่วนตัว ระบบ CRM ก็ได้จัดการส่วนนี้อย่างเป็นระบบ พร้อมจัดเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัย
สำหรับผู้ที่ประกอบกิจการต่าง ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ การนำระบบ CRM มาใช้ จะช่วยให้ท่านทราบถึงพฤติกรรม ความสนใจ รวมไปถึงความต้องการของลูกค้าได้ ซึ่งผู้ประกอบกิจการสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นไปวิเคราะห์ เพื่อพัฒนาสินค้า รวมไปถึงออกแบบโฆษณาให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะสามารถช่วยเพิ่มยอดขายให้กิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที