เคยสงสัยกันไหมครับว่าการที่เรามักพบโฆษณาอยู่บ่อยครั้งตาม Facebook Google หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ นั้น พยายามจะนำเสนอสินค้าหรือบริการเพื่อกระตุ้นและดึงดูดความสนใจของพวกเราอยู่เสมอ จนนำไปสู่การพิจารณาและตัดสินเลือกซื้อสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ในทันที ซึ่งกลยุทธ์นั้นก็คือ Remarketing นั่นเอง แล้ว Remarketing คืออะไร? และ Retargeting คืออะไร? ซึ่งในบทความนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักเจ้ากลยุทธ์นี้ไปพร้อม ๆ กัน
Remarketing เปรียบเสมือนการพยายามเปลี่ยน “คนที่มีโอกาสเป็นลูกค้า” ให้เป็น “ลูกค้า” ให้ได้มากที่สุดโดยการใช้โฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Google Ads หรือเว็บไซต์ขายสินค้าบริการอื่น ๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำการซื้อสินค้าในขณะนั้น แต่ก็มีโอกาสสูงมากที่กลุ่มเป้าหมายจะกลับมาเมื่อถูกกระตุ้นด้วยโฆษณาจนนำไปสู่การสร้าง Conversion (สั่งซื้อ) หรือการกลับมาซื้ออีกซ้ำ ๆ (Retention) ในอนาคตก็เป็นได้
ถึงแม้หลาย ๆ คนจะบอกว่า Remarketing กับ Retargeting นั้นมีความหมายคล้ายคลึงกัน ทำงานเหมือนกัน ก็คือการเพิ่มโอกาสการขายให้แก่ธุรกิจมากขึ้น แต่จริง ๆ แล้ว มีความแตกต่างระหว่างกันอยู่มากเลยทีเดียว เพราะ Retargeting คือการยิงโฆษณาไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายโดยอ้างอิงจากคุกกี้ที่จะมีส่วนในการช่วยให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาซื้อสินค้าหรือใช้บริการ และในส่วนของ Remarketing คือการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อนำไปทำการตลาดและให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาซื้อสินค้าหรือใช้บริการ
Remarketing เป็นอีกวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์หรือธุรกิจของคุณนั่นเอง ซึ่งความสำคัญของการทำกลยุทธ์นี้ จะส่งผลดีต่อแบรนด์หรือธุรกิจของคุณเพราะประโยชน์เหล่านี้
จากประโยชน์เหล่านี้ จึงทำให้บริษัทต่าง ๆ นำกลยุทธ์นี้มาใช้อย่างแพร่หลาย ช่วยเพิ่มยอดขายได้คุ้มค่าอย่างมากในปัจจุบัน
การทำ Remarketing เป็นส่วนหนึ่งของการทำ Marketing Funnel ที่นักการตลาดมักจะนำมาใช้ในทำการตลาดเพื่อ “ย้ำความสนใจ” หรือ “กระตุ้นให้เกิดความต้องการ” ไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยการส่งโฆษณาไปตอกย้ำ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย นอกจากนี้ยังทำให้สามารถเก็บข้อมูล ติดตามกลุ่มเป้าหมาย หรือติดตามพฤติกรรมความสนใจของลูกค้าได้อีกด้วย
โดยในการทำ Remarketing ไม่ได้มีเพียงแค่วิธีเดียวเท่านั้น ซึ่งเราได้รวบรวมประเภทของกลยุทธ์นี้ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรมาทั้ง 6 ประเภทดังนี้
การทำ Standard Remarketing มีการใช้อย่างกว้างขวาง เราสามารถสร้างโฆษณาเพื่อแสดงให้กับคนที่เคยเข้ามาในเว็บไซต์ของเราแล้ว เมื่อใช้แพลตฟอร์มสร้างโฆษณาหลาย ๆ แบบ การใช้เงื่อนไขและตัวกรองบางอย่างทำให้คุณสามารถกำหนดเวลาและวิธีที่ผู้คนเห็นโฆษณาเหล่านี้ได้
การทำ Dynamic Remarketing คือ การแสดงข้อมูลตามสินค้าหรือบริการในหน้าเว็บที่ลูกค้าได้ดูในขณะที่อยู่ในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันบนมือถือ ซึ่งจะนำเสนอโฆษณาที่ปรับเปลี่ยนในแบบของคุณมากขึ้นซึ่งเมื่อคู่กับส่วนลดหรือข้อเสนอพิเศษมักทำให้เกิดการคลิกและอัตรา Conversion ที่สูงขึ้นตามแท็กที่คุณกำหนดเองในเว็บไซต์
การทำ RLSA คือ การโฆษณาแบบเสียค่าใช้จ่ายในรูปแบบคุกกี้ มีรูปแบบการทำงานโดยการติดตามการเข้าชมหน้าเฉพาะบนเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งทั่วไปแล้วการทำ Remarketing ประเภทนี้จะแสดงอยู่เหนือการจัดอันดับทั่วไปทำให้มีประสิทธิภาพในการดึงดูดการคลิกที่สูงมาก
การทำ Video Remarketing คือ แนวคิดที่เรียบง่ายและไม่ซับซ้อน เพราะอยู๋ในรูปแบบของเนื้อหาวิดีโอ โดยทั่วไปแล้ว YouTube ถือเป็นช่องทางที่ง่ายที่สุดสำหรับการกำหนดเป้าหมายใหม่ประเภทนี้ ใน Google Ads คุณสามารถตั้งค่าโฆษณาวิดีโอด้วยวิธีเดียวกับที่คุณตั้งค่าโฆษณาบนเครือข่ายการค้นหาหรือแบบดิสเพลย์
การทำ Email Remarketing คือ แนวคิดที่ยอดเยี่ยม เนื่องจากการโฆษณารูปแบบนี้จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพราะจะเป็นการทำการตลาดผ่านอีเมล ซึ่งคุณสามารถส่งโปรโมชั่นเพื่อแจ้งเตือนความจำและกระตุ้นให้เกิดความต้องการไปยังผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้ากับคุณ จนนำไปสู่ปิดการขายสินค้าหรือบริการในที่สุด
ในการทำ Remarketing ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ อาจมีมีรายละเอียดและลักษณะที่แตกต่างกันไป โดยมีดังนี้
Facebook Remarketing คือ การทำโฆษณาซ้ำไปหากลุ่มเป้าหมายที่อาจเคยเข้าเว็บไซต์ของเรา เคยเห็นโพสต์บางประเภทของเราหรือทำอะไรบางอย่างเพื่อย้ำความสนใจของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของร้าน รวมทั้งกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าที่ร้านผ่านคอนเทนต์ของร้าน ซึ่งได้แก่ เนื้อหา รูปภาพ และวิดีโอ เป็นต้น
Google Remarketing คือ การแสดงโฆษณาแบบติดตามที่จะทำให้คนที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณในทันที หรือผู้ใช้งานได้ออกจากเว็บไซต์โดยไม่ได้ซื้ออะไรเลย ซึ่งตัว Remarketing จะช่วยให้ลูกค้าที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณเห็นการแสดงโฆษณา Banner ตามเว็บไซต์พันธมิตรต่าง ๆ ใน Google เพื่อกระตุ้นให้เกิดความต้องการในการซื้อสินค้าหรือบริการนั้น ๆ
เครื่องมือติดตามการทำ Remarketing นั้น อาจไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าหรือใช้บริการเลยในทันที แต่จะทำให้ผู้เยี่ยมชมมีส่วนร่วมและนึกถึงแบรนด์เป็นอันดับแรก โดยจะมี 2 แพลตฟอร์มหลัก ๆ ที่สามารถใช้กลยุทธ์นี้ได้เลยทันที มีดังนี้
Google Remarketing คือ การนำเสนอวิธีที่ทำให้ผู้เผยแพร่โฆษณาสร้างรายได้จากเนื้อหาออนไลน์ของ Adsense ทำงานโดยการจับคู่โฆษณากับเว็บไซต์ของคุณ โดยพิจารณาจากเนื้อหาและผู้เข้าชมเว็บไซต์ ผู้ลงโฆษณาที่ต้องการโปรโมตผลิตภัณฑ์ของตนจะเป็นผู้สร้างโฆษณาและจ่ายเงิน และเนื่องจากผู้ลงโฆษณาเหล่านี้จ่ายเงินไม่เท่ากันสำหรับโฆษณาแต่ละรายการ เงินที่คุณได้รับจึงแตกต่างกันออกไปด้วย
Facebook Ads นำเสนอวิธีที่ทำให้ผู้เผยแพร่โฆษณาสร้างรายได้จากเนื้อหาออนไลน์ เพื่อช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าตามกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ เช่น ช่วยเพิ่มการมองเห็นของสินค้าหรือบริการ การสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ และการเพิ่มช่องทางให้กับยอดขาย ซึ่งการทำโฆษณาผ่านช่องทาง Facebook นั้นยังรวมไปถึง Instagram และ Whatsapp ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทแม่ไปเรียบร้อยแล้ว
การ Remarketing เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณ ซึ่งมีประโยชน์ดังนี้
การกำหนดเป้าหมายของการทำ Remarketing นั้น สามารถเป็นไปได้หลากหลายรูปแบบ เราจึงขอยกตัวอย่างที่เป็นรูปแบบหลัก ๆ ที่ใครอาจเคยพบเจอ มีดังนี้
อย่างที่ผู้อ่านทุกท่านทราบกันดีว่าพฤติกรรมการตัดสินใจของผู้บริโภคในปัจจุบันค่อนข้างหลากหลาย และแตกต่างกันออกไป ก็อาจทำให้หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าช่วงเวลาไหนของธุรกิจที่ควรจะหันมาใช้กลยุทธ์ Remarketing มากที่สุดก็คือ ในจังหวะที่ธุรกิจของคุณต้องการที่จะปิดการขายสินค้าหรือบริการนั้น ๆ โดยทำการยื่นข้อเสนอพิเศษให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เคยเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อหรือใช้ของพวกเขา จนนำไปสู่การปิดขายหรือใช้บริการในที่สุด
หากธุรกิจของคุณต้องการเพิ่มโอกาสในการปิดการขายให้มากขึ้น การเลือกใช้กลยุทธ์อย่าง Remarketing อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เป็นประโยชน์ที่มีประสิทธิภาพอย่างมากในการทำธุรกิจ แต่ทั้งนี้กลยุทธ์นี้ก็ไม่ต่างอะไรกับกลยุทธ์อื่น ๆ เพราะต้องอาศัยเวลาในการศึกษาทำความเข้าใจก่อนว่ามีการทำงานอย่างไร รูปแบบการจัดวางโฆษณาควรเป็นลักษณะไหนถึงจะเหมาะที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่ธุรกิจได้ตั้งวางเอาไว้
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที