ปัจจุบัน Social Media Marketing เป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงลูกค้า โดย facebook คือแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก ทำให้ธุรกิจและแบรนด์มากมายต่างทำการตลาดออนไลน์ผ่านช่องทางนี้กัน โดย Facebook มีเครื่องมือสำคัญที่จะมาช่วยคุณบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ นั่นก็คือ Facebook business manager
Facebook Business Manager หรืออีกชื่อหนึ่ง Facebook Business Suite คือ เครื่องมือที่เป็นตัวช่วยในการจัดการบัญชีธุรกิจสำหรับ Facebook ทำหน้าที่เสมือนตัวกลางช่วยบริหารจัดการบัญชีและเพจทั้งหมดที่คุณมี ทั้งการจัดการคอนเทนต์ และการตั้งค่าโฆษณาต่างๆ จึงเหมาะสำหรับเอเจนซี่ นักการตลาดออนไลน์ ธุรกิจที่มีหลายเพจต้องดูแล หรือธุรกิจที่ทำ Social Media Marketing ก็ควรศึกษาวิธีการใช้งานเอาไว้
การใช้ Facebook Business Manager จะช่วยทำให้การยิงแอด Facebook มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งตรงถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ ด้วยการสร้างกลุ่มเป้าหมายแบบ Custom Audience (กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง), Lookalike Audience (กลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ที่มีความคล้ายคลึงกับกลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้) หรือ Saved Audience (กลุ่มเป้าหมายที่ทำการบันทึกไว้ว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของธุรกิจ)
Facebook Business Manager ช่วยทำให้นักการตลาดหรือธุรกิจที่ต้องดูแลรับผิดชอบหลายเพจ หลายบัญชี สามารถดูภาพรวมในการทำการตลาดของทุกเพจได้ในที่เดียว อีกทั้งยังสามารถผูกบัญชีบัตรเครดิตที่แตกต่างกันในแต่ละเพจ ทำให้การคิดเงินต่างๆ สามารถจัดการ Asset (สินทรัพย์ดิจิทัล) ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มบัญชี Instagram (บริษัทเดียวกันกับ Facebook) ได้อีกด้วย
คุณสามารถจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงของผู้ดูแลหรือแอดมินในแต่ละเพจ เช่น ให้สมชายดูแลเพจ A และสุชาติ ดูแลเพจ B อีกทั้งยังสามารถกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงหน้าที่ต่าง ๆ ของแต่ละคนได้ด้วย เช่น ให้สิทธิ์สมชายสามารถลงคอนเทนต์ได้อย่างเดียว แต่ไม่สามารถยิงแอด facebook ของเพจ A ได้ หรือให้สิทธิ์สุชาติในการลงคอนเทนต์และยิงแอด facebook แต่ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงระบบเก็บเงินของเพจ B เป็นต้น
ธุรกิจที่มีพนักงานการตลาดจำนวนมาก หรือต้องร่วมงานกับบุคคลภายนอก เช่น ตอนจ้างเอเจนซี่มาช่วยทำการตลาด Facebook Business Manager จะมีฟีเจอร์ยืนยัน 2 ขั้นตอน (Two-Factor Authentication) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้บัญชี ในการเข้าถึงข้อมูลสำคัญต่างๆ ในการทำธุรกิจผ่าน Facebook หรือ Asset (สินทรัพย์ดิจิทัล) โดยจะสามารถตรวจสอบสิทธิ์ในการเข้าถึงของทุกคนในแต่ละเดือนได้
Facebook Business Manager มีฟีเจอร์ที่ทำให้คุณสามารถเข้าถึงเครื่องมือขั้นสูง ซึ่งจะช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้อย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น เช่น Audience Insight (ข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมาย), Campaign Planner (ฟีเจอร์ช่วยจัดการแคมเปญ) หรือ Facebook Analytics Tools (ฟีเจอร์ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลของการทำโฆษณาผ่าน Facebook แบบละเอียด)
วิธีการใช้งาน Facebook Business Manager หรือ Facebook Business Suite มีขั้นตอนการใช้งานตั้งแต่เริ่มต้น ดังนี้
สร้างบัญชี business facebook โดยไปที่ https://business.facebook.com/ แล้วคลิกที่ “Create Account” (ปุ่มฟ้ามุมขวา) เพื่อเริ่มสร้างบัญชี จากนั้นระบบจะให้ Log in เข้าสู่บัญชี Facebook
เมื่อเข้าสู่ระบบ Facebook ส่วนตัวของคุณแล้ว จะมีหน้าให้กรอกชื่อธุรกิจ ซึ่งควรตั้งด้วยชื่อแบรนด์ของคุณ เพื่อให้จดจำง่าย (แต่ไม่สามารถใส่ชื่อที่มีตัวอักษรพิเศษต่างๆ ได้)
ต่อจากนั้น ระบบจะทำการสร้างโปรไฟล์ทางธุรกิจ โดยให้คุณพิมพ์ชื่อและอีเมลลงในแบบฟอร์ม เมื่อ Sign up แล้ว ระบบจะพาไปยังหน้า Dashboard ของ Facebook Business Manager
ในหน้า Dashboard เมื่อกดสัญลักษณ์ Menu bar ตรงด้านบนซ้าย จะปรากฏเมนูต่างๆ มากมาย โดยเมนูเครื่องมือแต่ละตัว จะมีการใช้งาน ดังนี้
เริ่มต้นสร้างบัญชีโฆษณา (Ads Account) โดยไปที่ Manage Setting > Ads Accounts > Create Ads Account หรือในกรณีที่เป็นเจ้าของ Ads Account อยู่ก่อนแล้ว สามารถเลือก Claim Ad Account ได้เลย
กรอกข้อมูลต่างๆ เช่น ชื่อบัญชีโฆษณา, Time zone ธุรกิจ, สกุลเงินที่ใช้ แล้วระบบจะพาไปหน้า Add People To Test เพื่อให้คุณเพิ่มสิทธิ์คนที่จะมาดูแล Ads Account โดยสามารถกรอกชื่อ Facebook หรือ E-mail ของคนที่ต้องการจะมอบสิทธิ์ดูแลให้ลงไป
คุณสามารถตั้งค่าการเข้าถึงของสมาชิกแต่ละคน ให้มีสิทธิ์เข้าถึงส่วนต่างๆ แตกต่างกันได้ เช่น ทำได้ทุกอย่าง หรือยิงแอดได้อย่างเดียวแต่โพสต์ไม่ได้ เป็นต้น จากนั้นจะเป็นการตั้งค่าวิธีชำระเงิน ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการหักเงิน การคิดเงินต่างๆ ของ Ads Account ของคุณ
ตั้งค่าวิธีชำระเงินก่อนที่จะเริ่มทำการโฆษณา โดยคลิกข้อความเพื่อแก้ไขรายละเอียดวิธีชำระเงิน หาลิงก์ข้อความที่เขียนว่า View Payment Methods
เพิ่มวิธีชำระเงินโดยคลิกปุ่ม Add Payment Method แล้วระบบจะให้คุณใส่เลขบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต เมื่อตรวจสอบและใส่ข้อมูลเรียบร้อย ก็เป็นอันเสร็จสิ้นในขั้นตอนนี้
กลับไปที่หน้า Dashboard แล้วกดเลือก Create a New Page เพื่อสร้างเพจใหม่
เลือกประเภทเพจธุรกิจของคุณ
ระบุชื่อเพจทางธุรกิจ เลือกประเภทธุรกิจ รวมถึงต้องกรอกข้อมูลต่างๆ ให้ครบถ้วน
เมื่อคลิกที่ปุ่ม Create Page แล้ว ระบบจะลิงก์เข้าสู่ Business Manager facebook ของคุณแบบอัตโนมัติ
ทางขวามือจะมีคำว่า Assigned Assets ซึ่งจะมีตัวเลือก 2 อย่างด้านล่าง ถ้ากดเลือก pages ก็จะถูกลิงก์ไปที่เพจใหม่ของคุณเพื่อทำการแก้ไขเพิ่มรายละเอียดต่างๆ (หรือจะเลือกทำภายหลังก็ได้)
จากขั้นตอนที่แล้ว ตัวเลือกที่ 2 ของ Assigned Assets คือ Ads Accounts ซึ่งคุณสามารถเพิ่มสมาชิกทีมเข้าไปในเพจ โดยการกรอก E-mail ของสมาชิกที่ต้องการจะเพิ่มเข้าไป เลือกบทบาทการเข้าถึงว่ามีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลได้มาก-น้อยแค่ไหน รวมทั้งสามารถเลือกสมาชิกทีมคนอื่นๆ เพิ่มเข้ามาได้ (สามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขได้ตลอด)
กลับไปยังหน้า Dashboard เพื่อขอสิทธิ์การเข้าถึงบัญชีเพจและบัญชีโฆษณา แล้วเลือกหัวข้อ Ad Accounts > Add > Add an Ad Account
จะปรากฏหน้าให้ใส่ Ad Account ID โดยสามารถขอสิทธิ์เข้าถึง Ad Account อื่นๆ ของธุรกิจได้ โดยการขอ Account ID โดยอาจจะมาในรูปแบบของ Custom Code ถ้าได้ Ad Account ID มาแล้ว ก็เท่ากับว่าคุณสามารถได้สิทธิ์ในการเข้าถึง Ad Account อื่นๆ ได้ (ทั้งนี้ ถ้าเพิ่ม Ad Account ใน Business facebook แล้ว จะไม่สามารถลบออกได้)
สำหรับธุรกิจที่ต้องการให้คนนอกองค์กร เช่น เอเจนซี่รับยิงแอด เอเจนซี่รับทำการตลาด มองเห็นและสามารถเข้าถึงหน้า Facebook Business Manager ของคุณได้ ให้ไปที่ Dashboard > Partners > Partners to share assets with > Add โดยพาร์ทเนอร์ของคุณจะมี Account ID (ดูที่ Business Setting > Business info.) เมื่อได้ Account ID มาแล้ว ให้กรอก Account ID พาร์ทเนอร์แล้วกดปุ่ม Add ได้เลย
หากธุรกิจของคุณมี Instagram ก็สามารถนำมาเชื่อมต่อกับ Facebook Business Manager เพื่อทำการยิงแอด instagram หรือดูข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ ได้ โดยไปที่ Dashboard > Business Setting เมนูด้านซ้าย ให้กดเลือก Instagram Accounts > Add > ใส่ Username และ Password แล้วกด Log In เพียงเท่านี้ก็สามารถเพิ่มบัญชี Instagram ไปยัง Facebook Business Manager ของคุณได้เรียบร้อย
คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ Facebook Business Manager ได้ ด้วยวิธีแบบ Organic ที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยเราได้รวบรวมตัวอย่างมาให้ ดังนี้
จะเห็นได้ว่า การใช้งานและการเพิ่มประสิทธิภาพให้ Facebook Business Manager นั้นทรงพลังและสร้างประโยชน์มากมายหากนำใช้กับธุรกิจของคุณ ดังนั้นควรศึกษาทำความเข้าใจเอาไว้ หรือถ้าหากใครลองใช้งานดูแล้ว แต่ยังมีคำถามหรือข้อสงสัย ก็สามารถติดต่อคอร์สเรียนการใช้งาน Facebook Business Manager ที่พร้อมรับประกันคุณภาพการสอนโดยผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ในด้าน Digital Marketing และ Social Media Marketing สนใจสมัครเรียนกดที่นี่ Digital Tips
ห้ามพลาด สำหรับใครที่กำลังมีแบรนด์หรือธุรกิจที่ทำการตลาดออนไลน์ สามารถเรียนรู้การใช้งานและฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจของ Facebook Business Manager เพื่อนำมาใช้เป็นตัวช่วยในการบริหารจัดการ และปั้นธุรกิจให้เติบโตและประสบความสำเร็จตั้งแต่ตอนนี้ได้เลย
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที