การตลาดในยุคปัจจุบันขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ทำให้นักธุรกิจหรือนักการตลาดทั่วโลกต่างตระหนักถึงศักยภาพของ Martech ว่ามีความสำคัญอย่างไรต่อการทำธุรกิจ Marketing Technology หรือ Martech คือ เทคโนโลยีทางการตลาด เป็นซอฟต์แวร์ (Software) เครื่องมือ (Tool) หรือระบบ (Platform) ที่พัฒนาขึ้นโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการช่วยวางแผน ดำเนินการ และวัดผล เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ด้านกิจกรรมทางการตลาด (Marketing)
ปัจจุบัน MarTech ถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีจำนวนมากมายให้นักการตลาดได้เลือกใช้ โดยสามารถจัดหมวดหมู่ได้หลายวิธี และแยกรูปแบบการทำงานออกไปได้อีกหลายประเภท ในที่นี้เราจะขอจัดประเภทตาม “เงื่อนไขการตลาด และ จัดประเภทตาม MarTech Map หรือ “Marketing Technology Landscape 2022”
การแบ่ง MarTech ตาม “เงื่อนไขการตลาด” สามารถจัดได้ 4 รูปแบบ คือ
หรือหากยึดตาม MarTech Map ซึ่งเป็น “Marketing Technology Landscape 2022” ซึ่งจัดทำขึ้นโดย www.chiefmartech.com จะสามารถแบ่ง Martech ได้ 6 ประเภท คือ
Data (เทคโนโลยีด้านการวิเคราะห์ข้อมูล)
Management (เทคโนโลยีด้านการบริหารจัดการภายในองค์กร)
ด้วย Marketing Technology ที่มีมากมาย เราสามารถผสมผสานการใช้งานร่วมกันของ Martech ได้หลากหลาย โดยการจัดกลุ่มนี้เรียกว่า ‘Martech Stack’ ซึ่งถ้าหาก Martech Stack ที่เราเลือกใช้มีความสอดคล้องและทำงานได้อย่างต่อเนื่องกัน ก็จะกลายเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ทางการตลาด ที่จะทำให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
ดังนั้น การเลือก Marketing Technology ที่เหมาะสม ให้ตอบโจทย์ทางธุรกิจที่อาจแตกต่างกันในแต่ละแบรนด์หรือองค์กรจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ควรพิจารณาให้ดีเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ในการลงทุนมากที่สุด
Marketing Technology หรือ Martech คือ เทคโนโลยีทางการตลาด เป็นซอฟต์แวร์ (Software) เครื่องมือ (Tool) หรือระบบ (Platform) ที่พัฒนาขึ้นโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการช่วยวางแผน ดำเนินการ และวัดผล เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ด้านกิจกรรมทางการตลาด (Marketing)
Mar tech คือ เครื่องมือด้านการตลาดแบบอัตโนมัติที่ช่วยจัดการกับข้อมูล (Data) ที่มีจำนวนมหาศาลในโลกดิจิทัล และนำข้อมูลเหล่านั้นมาสร้างประโยชน์เพื่อพัฒนาธุรกิจ เช่น ช่วยเรื่องการจัดการแคมเปญทางการตลาด สื่อสารกับลูกค้าได้หลากหลายรูปแบบ วัดผลอย่างแม่นยำขึ้น ตลอดจนสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดอื่นๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ทางการตลาดได้
ด้วยเหตุนี้ Martech จึงเป็นประโยชน์และมีความสำคัญในการช่วยให้การทำการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเนื่องจาก Marketing Technology นั้นมีมากมาย เราจึงสามารถผสมผสานการใช้งานร่วมกันของ Martech ได้หลากหลาย ซึ่งการจัดกลุ่มนี้เรียกว่า ‘Martech Stack’
‘Martech Stack’ ประกอบไปด้วยเครื่องมือเทคโนโลยีทางการตลาดหลายอย่างนำมาประยุกต์ใช้งานร่วมกัน ซึ่งถ้าหากเครื่องมือเหล่านั้นมีความสอดคล้องและเกิดกระบวนการทำงานร่วมกันที่ต่อเนื่อง ก็จะกลายเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ทางการตลาด ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ดึงดูดลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมกับธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
ปัจจุบัน MarTech ถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีจำนวนมากมายให้นักการตลาดได้เลือกใช้ โดยสามารถจัดหมวดหมู่ได้หลายวิธี และแยกรูปแบบการทำงานออกไปได้อีกหลายประเภท ซึ่งในที่นี้จะขอจัดประเภทตาม “เงื่อนไขการตลาด และ แบ่งประเภทตาม MarTech Map หรือ “Marketing Technology Landscape 2022”
การแบ่ง MarTech ตาม “เงื่อนไขการตลาด” สามารถจัดได้ 4 รูปแบบ คือ
1. Management (การจัดการ)
การจัดการ (Management) เป็น MarTech ประเภทต่างๆ ซึ่งรวมถึงการจัดการคอนเทนต์ (content management), องค์กรผู้จำหน่าย (vendor organization) , การจัดการผลิตภัณฑ์ (product management), การจัดทำงบประมาณ (budgeting), การบริหารคนเก่งที่มีพรสวรรค์ (talent management) และอื่นๆ
2. Social optimization (การเพิ่มประสิทธิภาพทางสังคม)
การเพิ่มประสิทธิภาพทางสังคม (Social optimization) เป็นการจัดระเบียบและวัดกลยุทธ์ของโซเชียลมีเดีย รวมถึงการจัดการอินฟลูเอนเซอร์ (influencer management), User-generated content (หรือย่อว่า UGC คือ คอนเทนต์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้บริโภค), Customer Relationship Management (หรือย่อว่า CRM คือ ระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์) และอื่นๆ ซึ่งจะช่วยเชื่อมต่อกับสังคมออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. Campaign reach (การเข้าถึงแคมเปญ)
Campaign reach จะช่วยให้การดำเนินการแคมเปญของแบรนด์เข้าถึงผู้ชมผ่านรีมาร์เก็ตติ้ง (Remarketing) ได้ โดยโซลูชั่นเหล่านี้จะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) และธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Customer : B2C) และสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ
4. Insight generation (ความเข้าใจเชิงลึกในแต่ละเจเนอเรชั่น)
การวิเคราะห์และสร้างความเข้าใจข้อมูลเชิงลึกในแต่ละเจเนอเรชั่นจากแหล่งที่มาต่างๆ จะช่วยสร้างความเข้าใจแคมเปญ (campaign), ประสิทธิภาพของโซเชียลมีเดีย (social media performance) และกลยุทธ์ทางการตลาด (marketing strategy) ผ่านการสร้างสรรค์และนำเสนอเนื้อหา (content marketing) และวิธีการส่งข้อความการตลาดไปยังลูกค้าผ่านอีเมล (Email Marketing) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หรือถ้ายึดตาม MarTech Map หรือ “Marketing Technology Landscape 2022” ที่จัดทำขึ้นโดย www.chiefmartech.com จะมีการแบ่ง Martech ไว้ 6 ประเภท ประกอบด้วย
เทคโนโลยีด้านการโฆษณาและโปรโมชั่น ซึ่งออกแบบมาเพื่อประโยชน์ด้านโฆษณาและกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ตัวอย่างเช่น
เทคโนโลยีด้านการสร้างคอนเทนต์และมอบประสบการณ์ เช่น
เทคโนโลยีด้านสื่อสังคมออนไลน์และการสร้างความสัมพันธ์ เช่น
เทคโนโลยีด้านการขาย ที่ช่วยในด้าน e-Commerce และ Sale เช่น
เทคโนโลยีด้านการวิเคราะห์ข้อมูล ตัวอย่างเช่น
เทคโนโลยีด้านการบริหารจัดการภายในองค์กร ตัวอย่างเช่น
การทำ Digital Marketing ในปัจจุบันขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี การตลาดยุคใหม่ เช่น Metaverse, Martech จึงกำลังเป็นที่น่าจับตาอยู่ในขณะนี้ ว่าจะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการทำธุรกิจในอนาคต โดยเฉพาะบริษัทที่ใช้ Martech นั้นมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การใช้ Martech จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยทำให้การทำงานของนักการตลาดมีประสิทธิภาพ ตรงกลุ่มเป้าหมาย และตรงตามความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งประโยชน์มากมายของ Marketing Technology ตัวอย่างเช่น
1. เข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา
Martech ส่วนใหญ่จะเป็นการให้บริการในด้านซอฟต์แวร์ Software as a service (SaaS) อยู่บนระบบ Cloud service มากกว่า On-Premise ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของแชร์หรือเชื่อมต่อข้อมูล
2. ช่วยปรับปรุงแผนการตลาด
Marketing Technology ช่วยจัดเก็บ วิเคราะห์ข้อมูล และนำเสนอออกมาเป็นชุดข้อมูลที่เห็นเป็นภาพรวมต่างๆ สามารถดูผลตอบรับและพฤติกรรมของลูกค้า ดูประสิทธิภาพของคู่แข่ง รวมถึงวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน (SWOT) ซึ่งสามารถนำไปสร้างหรือปรับปรุงแผนการตลาดต่อไปได้
3. สร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า
Martech จะช่วยยกระดับประสบการณ์ที่ดีระหว่างแบรนด์และลูกค้า โดยสามารถช่วยรวบรวมข้อมูล แยกความต้องการของลูกค้าแต่ละคน เพิ่มโอกาสในการทำให้ลูกค้าพึงพอใจ และทำการตลาดให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
4. ประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพของงานด้วยระบบอัตโนมัติ
เนื่องจาก Martech มีประสิทธิภาพสูงในการจัดกระบวนการรูปแบบอัตโนมัติ จึงช่วยในเรื่องของการทุ่นแรง ทำให้ทั้งประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกสบาย อีกทั้งยังสร้างโอกาสในการเข้าถึงตลาดและกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การจะแยก ‘MarTech’ กับ ‘AdTech’ นั้น ก็เหมือนการหาความแตกต่างระหว่าง ‘การตลาด’ และ ‘การโฆษณา’ ที่อาจทำให้เกิดความสับสน แต่จริงๆ แล้วมันมีความแตกต่างกันทั้งด้านบทบาทและแพลตฟอร์ม
AdTech ย่อมาจาก Advertising Technology (เทคโนโลยีทางการโฆษณา) เป็น Tools และ Software ซึ่งถูกสร้างมาช่วยให้นักการตลาดดิจิทัล ส่งโฆษณาได้ตรงกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น เพื่อสร้างอิมแพคในการโน้มน้าวพฤติกรรมของผู้ซื้อ
แพลตฟอร์มของ AdTech เช่น แพลตฟอร์มด้านอุปสงค์ (Demand Side Platforms : DSPs) แพลตฟอร์มด้านอุปทาน (Supply Side Platforms : SSPs) และการแลกเปลี่ยนโฆษณา ( Ad Exchange) เป็นต้น
ในขณะที่ MarTech ถูกใช้เพื่อสร้าง ดำเนินการ จัดการแคมเปญ ตลอดจนการดำเนินงานทางการตลาดอื่นๆ เป็นการธิบายการใช้ Software ในการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship Management : CRM) เครื่องมือการจัดการโซเชียลมีเดีย (Social Media Management Tools) โซลูชันการตลาดผ่านอีเมล (Email Marketing Solutions) และอื่นๆ
ตัวอย่าง MarTech Tools ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งมีประโยชน์ต่อนักการตลาดที่สนใจนำ Marketing Technology Tools มาเป็นตัวช่วยในการทำการตลาดในยุคปัจจุบัน มีตัวอย่างเช่น
Google Analytics คือ เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ และเก็บข้อมูลสถิติของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางในการเข้าถึง ลักษณะและพฤติกรรม รวมทั้งสถิติการเข้าชมในแต่ละหน้าเว็บไซต์ เพื่อช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถนำมาข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้มาใช้วิเคราะห์ วางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด พร้อมวัดผลได้อย่างแม่นยำ
Parabola.io คือ เครื่องมือทางการตลาดที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานแบบดึง รวม และแปลงข้อมูล สร้างการทำงานอัตโนมัติในการเชื่อมต่อ ดึงข้อมูลจากที่ต่างๆ มารวบรวมและแปลงเป็นกลุ่มไว้ในที่เดียวกัน เช่น ให้อยู่ในรูปแบบของ Google Sheets ซึ่งช่วยให้การนำข้อมูลมาใช้งานได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น
โดยสามารถกำหนด Workflow ใน Parabola.io ให้ทำงานต่อแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาจากงานข้อมูลที่ต้องทำเอง อีกทั้งยังสามารถตั้งกำหนดการและแชร์ให้กับคนในทีมได้อีกด้วย
Microsoft Power BI หรือ Power BI คือ เครื่องมือในการวิเคราะห์และประมวลข้อมูลธุรกิจ ประเภท Business Intelligence มีความสามารถในการแปลงข้อมูลปกติให้เป็นข้อมูลเชิงลึก ซึ่งช่วยในการตัดสินใจ วิเคราะห์ผล และเฝ้าติดตามต่างๆ และสามารถสร้างรายงานให้อยู่ในรูปแบบของภาพนิ่ง (Data Visualization) ไปจนถึงจัดข้อมูลที่ต้องการแสดงเป็นชุด Dashboard
Google Optimize คือเครื่องมือที่ช่วยทดลองหน้าเว็บไซต์รูปแบบต่างๆ ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ และแจ้งเราว่ารูปแบบใดเป็นรูปแบบที่ดีที่สุด ซึ่งจะทำให้เราได้เห็นและปรับปรุงหน้าตาของเว็บไซต์ให้ดึงดูดต่อผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
