การตลาดดิจิทัล อาจจะเป็นคำที่ไม่ค่อยคุ้นหูนัก แต่ถ้าเป็น ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง ( Digital marketing ) ก็จะเริ่มคุ้นหูขึ้นมาทันที เราจะเริ่มต้นจากคำว่า Marketing ที่มีความหมายว่า การตลาด คือการวางแผนการขาย การโฆษณา เพื่อให้ได้ยอดขายและเพิ่มลูกค้าให้กับธุรกิจ อีกทั้งการตลาดคือการวางแผนที่ทำให้คนรู้จักสินค้า และแบรนด์ โดยผ่านสื่อต่างๆ
ในขณะที่คำว่า Digital คือ ในที่นี้เราให้ความหมายถึง ระบบดิจิทัลที่ทำงานอยู่กับอุปกรณ์ต่างๆ เช่นคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟน Digital marketing ก็คือการตลาดเชิงดิจิทัล ที่ใช้เพิ่มผลกำไรและลูกค้าผ่านสื่อดิจิทัลอย่าง คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟน ผ่านการวางแผนและกลยุทธ์ นั่นเอง
ในยุคที่ผู้คนมีพฤติกรรมบริโภคที่เปลี่ยนไป เมื่อพูดถึงความหมายขอ Digital marketing ที่สอดคล้องกันแล้ว จะเห็นได้ว่าการวางแผนการตลาดรูปแบบดิจิทัล มีความสำคัญมากแค่ไหนในปัจจุบัน เพราะการมีสื่อ Social Media หรือแพลตฟอร์มต่างๆ เป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยผู้ใช้งานจำนวนมาก มีการเข้าถึง และเชื่อมต่อแพลตฟอร์มต่อแพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดายจากออนไลน์ ทำให้การทำการตลาดสามารถครอบคลุมได้ถึงกัน ถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการขาย และมีการเก็บข้อมูลที่แม่นยำ
เมื่อเราได้รู้ว่า การตลาดคืออะไร และความหมายของการตลาดดิจิทัล (Digital marketing) ไปแล้ว เราจะมาเรียนรู้เพิ่มเติมถึงความสำคัญให้มากขึ้น โดยการยกตัวอย่าง Digital marketing ให้เข้าใจมากขึ้น สมมุติเรามีหน้าร้านที่เป็นร้านขายเสื้อผ้า และเรามีช่องทาง ทางการตลาดนั่นคือหน้าร้าน การที่เราจะทำให้ได้ผลกำไรมากขึ้นอันดับแรก คือการให้ผู้บริโภครู้จักสินค้าและหน้าร้านของเราให้มากขึ้นก่อน ด้วยวิธีการตะโกนเรียกลูกค้า หรือให้พนักงานออกไปแจกใบปลิว หรือให้โปรโมชั่นและของสมนาคุณเพื่อให้เกิดการกระจายชื่อเสียงของร้านแบบปากต่อปาก
และการที่มี Digital marketing เข้ามามีส่วนร่วมในร้าน ก็เหมือนเรามีกระบอกเสียงที่สามารถตะโกนชื่อร้านและขายของได้กว้างขึ้น เข้าถึงได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์ม Social Media, Website, E-mail, Search Engine, หรือร้านค้าออนไลน์ ยิ่งไปกว่านั้น Digital marketing ยังเข้าถึงผู้บริโภคที่เจาะจงได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นเพศ ช่วงวัย ความต้องการ ทำให้งบประมาณที่จ่ายไปคุ้มค่ากว่าการทำการตลาดประเภทอื่น และมีการแสดงผลที่แม่นยำ ทำให้สามารถเก็บข้อมูลเพื่อนำไปพัฒนาแนวทางต่อได้ ในแง่ของด้านองค์ประกอบ หรือวิธีการใช้งานเพื่อทำ Digital marketing ก็มีมากมายหลายวิธี ทำให้เลือกแนวทางการทำตลาดได้กว้างขวางและสร้างสรรค์ไปอีก
กระบวนการ Digital marketing เป็นอย่างไร
ขั้นตอนแต่ละขั้นของการทำ Digital marketing จะแตกต่างกันด้วยวิธีการ และกระบวนการ โดยแต่ละแนวทาง ก็ล้วนแล้วแต่ใช้วัตถุดิบเดียวกันคือ สื่อออนไลน์และดิจิทัล แต่การเข้าถึงสิ่งเหล่านี้ในแง่ของ Digital marketing จะจำแนกกระบวนการตามเครื่องมือ และช่องทางอย่างชัดเจนดังนี้
อธิบายง่ายๆ คือการเรียกคนเข้าชมเว็บไซต์จากการค้นหา Keyword หรือที่เรียกว่า Organic Traffic เทคนิคนี้จะทำให้เพิ่มยอดเข้าชม ซึ่งเป็นวิธีทำ Digital marketing บนเว็บไซต์ และทำให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกบนหน้าค้นหา Google เช่นการใส่ชื่อสินค้าหรือประเภทคำว่า เสื้อผ้ามือสอง และนำไปทำเป็น SEO ให้คนที่ค้นหาคำว่า เสื้อผ้ามือสอง เห็นเว็บไซต์ของเราเป็นอันดับแรก
เป็นอีกเครื่องมือทางการตลาด ที่เป็นการทำ Digital marketing แบบซื้อหน้าแรกของ Google ในหน้าที่เราลือกใช้ Keyword ค้นหา โดยจะมีการเก็บเงินจากการคลิกที่ลิงค์ตามที่ปรากฏในหน้าแรก สังเกตง่ายๆจากการค้นหาข้อมูล หากเจอหัวข้อแรกๆ และมีคำว่า Ad อยู่หน้าลิงค์ แสดงว่านั่นคือ PPC นั่นเอง และในแง่ของการตลาด วิธีการนี้เป็นวิธีการโฆษณาเรียกลูกค้าได้รวดเร็ว แต่ก็แลกมาด้วยงบประมาณที่สูงในการทำ Digital marketing
คือการสร้างเว็บไซต์ ให้เหมือนเป็นหน้าร้านของเราอีกหนึ่งที่ ในแง่ของ Digital marketing นั้น ความสำคัญของเว็บไซต์คือการช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ และเป็นการสร้างตัวตนให้กับแบรนด์และร้านค้า ให้ผู้เข้าชมได้เข้าใจในคลิกเดียวได้ แถมเรามีอิสระในการสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการตั้งร้านขายของออนไลน์ หรือสร้าง Digital media อีกทั้งการมีเว็บไซต์ก็เป็นการนำไปต่อยอดทำ SEO และ PCC ได้นั่นเอง
เป็นการโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มโซเชียล เป็นการทำ Digital marketing ที่นิยมมาก ด้วยความที่แพลตฟอร์มเหล่านี้ เต็มไปด้วยผู้ใช้งานจำนวนมาก และมีระบบที่มีข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้งานจาก Algorithm ทำให้ได้ผู้บริโภคที่เข้ากับธุรกิจของเรา อีกทั้งยังมีระบบส่งเสริมการขาย เช่นการแชท และการตั้งสินค้าให้สามารถลิงค์กับแพลตฟอร์มอื่นได้
เป็นการทำการตลาดแบบออนไลน์ ที่นิยมทำกันอย่างกว้างขวาง และทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย สร้าง Engagement ได้มีประสิทธิภาพ อธิบายง่ายๆ คือการนำเสนอเนื้อหาเพื่อการขาย ทำให้ผู้รับสารเข้าใจสิ่งที่จะสื่อได้อย่างง่ายดาย ในการทำ Digital marketing วิธีนี้เป็นวิธีที่เหมาะแก่การเข้าถึงได้ดี ไม่ว่าจะเป็น วิดีโอ, บทความ, ภาพ ซึ่งเป็นสื่อที่ทำให้คนสนใจได้ไม่ยาก
อย่างที่เคยกล่าวไว้ ว่าปัจจุบันผู้คนใช้เวลาอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน มากกว่าสมัยก่อน นั่นทำให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตและดูสื่อเปลี่ยนไป Audience หรือผู้ชมก็เลือกดู Content ออนไลน์กันหมด การตลาดดิจิทัล หรือ Digital marketing ก็ต้องก้าวตามผู้บริโภคเหมือนกัน
เหตุผลที่ Digital marketing ลดค่าใช้จ่ายได้ เพราะเราสามารถจัดสรรงบประมาณที่มีอยู่กับการทำการตลาดได้กว้าง และสามารถเพิ่มลดรายละเอียดได้อย่างแม่นยำ
แน่นอนว่าการที่มีผู้ใช้บนแพลตฟอร์มที่เราทำ Digital marketing ก็ทำให้เข้าถึงได้มาก ข้อดีของข้อนี้คือการที่เราสามารถรู้ได้ถึงจำนวนของผู้ใช้งานก่อนลงทุนได้ ทำให้ได้ผลตอบรับที่แน่นอน
นี่เป็นเหตุผลของผู้คนที่ใช้อินเทอร์เน็ต การตลาดก็เช่นกัน Digital marketing สามารถนำประโยชน์ส่วนนี้มาใช้ได้
ระบบหลังบ้านของการทำ Digital marketing ส่วนใหญ่มีการแสดงผลได้ชัดเจน เช่นการยิง Ad บนโซเชียลมิเดีย ทำให้การเจาะเข้าไปที่กลุ่มผู้บริโภคที่สนใจในสินค้าจริงๆ มากกว่า Traditional marketing
เมื่อธุรกิจเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น ก็ยิ่งทำให้เกิดการซื้อ เกิดการบริโภค และนั่นเป็นผลลัพธ์สำคัญของการทำ Digital marketing
เปรียบเทียบให้อย่างเข้าใจได้ง่าย คือ Online marketing คือการตลาดที่ใช้ในส่วนของออนไลน์ เช่นพวก Social media, E-mail หรือเว็บไซต์ที่ใช้ Internet แต่ Digital marketing คือภาพที่ใหญ่กว่า เป็นได้ทั้ง ออนไลน์ และออฟไลน์ เพราะคำว่า Digital คือการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆเป็นดิจิทัล เช่นหนังสือ ไปเป็น E-book หรือเปลี่ยนจาก เงินธนบัตรเป็น Wallet
มีช่องทางมากมายผ่าน Website และ Social Media ที่มีระบบรองรับการทำ Digital marketing ก็สามารถทำได้หมด
Facebook มีเพจและระบบที่สามารถทำหน้าร้าน หรือธุรกิจได้ อีกทั้งยังเชื่อมโยงระบบหลังบ้านกับ Instagram อีกด้วย
เป็นแพลตฟอร์มที่มีคนใช้กันทั่วโลก ระบบการรีทวีต และ Hashtag ก็เป็นระบบที่ทำให้สามารถกระจายตลาดออกไปได้ง่าย
เป็นอีกแพลตฟอร์มที่กำลังเป็นที่นิยมทั่วโลก สามารถอัปโหลดสื่อเพื่อทำ Digital marketing ได้
การสร้างเว็บไซต์ส่วนตัว ก็มีขอบเขตในการสร้างที่กว้างขวาง จะใส่อะไรก็ได้ และเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ตัวธุรกิจในการทำ Digital marketing
เป็นแหล่งกระจายข่าวสารที่เยี่ยมต่อการติดตามลูกค้า และทำโปรโมชั่นที่ต้องการได้ เพราะ E-mail มีความเป็นส่วนตัวสูง และมีการตอบกลับระหว่างลูกค้าได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
การใช้เครื่องมือที่ได้รับความนิยมเหล่านี้ เป็นการการันตีว่า เมื่อใช้งานเพื่อทำ Digital marketing จะทำให้ใช้งานได้สะดวกรวดเร็ว และลดทอนความผิดพลาดของเราเองและระบบได้ โดยเราจะเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า “Martech” Marketing Technology
Google มีครอบคลุมทุกอย่างผู้ประกอบการต้องการไม่ว่าจะเป็น Google Analytics, Google Adwords, Google tag manager หรือ Google Search Console และอื่นๆที่ช่วยอำนวยความสะดวก
สามารถสร้างเพจ ที่มีไว้ใช้ทำ Content และ สื่อต่างๆบน Facebook สามารถทำได้ง่าย และมีข้อมูลของลูกค้าและผู้เข้าชมอย่างละเอียด ทำให้สามารถทำ Digital marketing ได้อย่างตรงจุด
เป็น Web Analytics Tool ที่ช่วยวิเคราะห์และปรับปรุงเว็บไซต์
สามารถทำ Digital marketing สายต่างๆได้ด้วยเครื่องมือการสร้างเว็บไซต์ และมีฐานข้อมูลเป็นของตัวเอง
เป็นเครื่องมือตัวช่วยแบบครบวงจร สามารถเก็บข้อมูลและประมวลผลพฤติกรรมของผู้บริโภค สามารถทำ Inbound Marketing ได้
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การทำ Digital Marketing มีความสำคัญแค่ไหน เพราะสมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์ เป็นเหมือนปัจจัยที่ทุกคนต้องมีไปแล้ว เราจึงต้องทำการตลาดดิจิทัล เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับสินค้าและธุรกิจ ซึ่งเรารับรองได้เลยว่า การทำ Digital Marketing จะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที