หลายคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจ นักการตลาด หรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ น่าจะเคยได้ยินคำว่า Engagement หรือ Engagement Facebook กันมาบ้าง แต่บางคนอาจจะยังไม่ทราบว่าจริงๆแล้ว Engagement คืออะไร แล้วมีผลอย่างไรกับธุรกิจของคุณ ซึ่งจริงๆแล้ว Engagement นับว่าเป็นหนึ่งสิ่งที่สำคัญต่อธุรกิจ ที่จะช่วยส่งเสริมการขายเพิ่มยอดขาย และสร้างกำไรให้กับธุรกิจของคุณได้
โดยบทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Engagement คืออะไร มีความสำคัญกับธุรกิจอย่างไร พร้อมทั้งขั้นตอนการทำ Engagement Marketing ให้มีประสิทธิภาพที่จะส่งผลดีและช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างก้าวกระโดด แบบที่คุณอาจจะคาดไม่ถึง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!
Engagement คืออะไรกันแน่ ? ความหมายตรงตัวของคำว่า Engagement แปลว่า การหมั้นหมาย หรือ ความผูกพัน ซึ่งความหมายทางการตลาด Engagement คือ การทำให้ลูกค้าหรือคนที่มีแนวโน้มที่จะกลายมาเป็นลูกค้าในอนาคตเกิดความผูกพันกับธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณ หรือที่หลายคนเรียกกว่า Customer Engagement ซึ่งการที่จะทำให้เกิดความผูกพัน หรือ Engagement เป็นการให้ลูกค้าหรือคนที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้ามีส่วนร่วมกับแบรนด์ โดยผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น Comment, Like, Click และ Share เป็นต้น
ในปัจจุบันมีหลายแบรนด์ที่ทำการตลาดออนไลน์บนแพลตฟอร์มอย่าง Facebook ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จำเป็นต้องรู้จักกับ Engagement Facebook เพราะจะช่วยให้แบรนด์ของคุณเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ Engagement Facebook คือ การที่แบรนด์สร้างสื่อหรือคอนเทนต์ที่ต้องการจะสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายขึ้นมา และเมื่อกลุ่มเป้าหมายของคุณมีการ Comment, Like, Click หรือ Share สิ่งนั้นจะเรียกว่า Engagement Facebook ในที่นี้สื่อและคอนเทนต์สามารถเป็นได้ทั้ง รูปภาพ วิดีโอ เกม และอื่นๆ
ทั้งนี้ยอด Engagement Facebook สามารถช่วยให้นักการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจสามารถนำไปวิเคราะห์ต่อได้ว่าคอนเทนต์แบบใด โพสแบบใด ที่จะช่วยตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และช่วยส่งเสริมยอดขายได้
หลังจากที่ได้รู้จักความหมายของ Engagement Facebook คืออะไรไปกันแล้ว เรามาดูเหตุผลว่าทำไมธุรกิจในปัจจุบันควรมี Engagement Marketing กันดีกว่า
การที่แบรนด์หรือธุรกิจของคุณทำ Engagement Marketing จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักแบรนด์มากยิ่งขึ้น และเป็นส่งเสริมการขายอีกหนึ่งช่องทาง ซึ่งการที่ทำ Engagement Marketing เป็นการนำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงประเด็น และเฉพาะกลุ่ม ในช่วงเวลาและช่องทางที่กลุ่มเป้าหมายต้องการมากที่สุด โดยที่การทำ Engagement Marketing จะทำให้เข้าใจความต้องการของลูกค้ามากขึ้น และทำให้คุณสามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า
ในปัจจุบันที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ได้รับโฆษณา 4,000 - 10,000 ข้อความต่อวัน ทำให้เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่ชอบ แต่ไม่ได้หมายความว่ากลุ่มเป้าหมายจะไม่ชอบโฆษณาหรือการขายไปแล้ว เพียงแต่ผู้บริโภคต้องการการขายที่แตกต่างจากเดิม พร้อมทั้งตรงกับความต้องการของตัวเอง ซึ่งของดีของ Engagement Marketing ได้แก่
เพราะ Action ต่างๆ บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมีหลายอย่างที่นับว่าคือ Engagement และสามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนการตลาดได้ ซึ่งในปัจจุบันสามารถแบ่งประเภท Engagement ออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่
1. วิเคราะห์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ด้วย Data ที่แม่นยำ
ขั้นตอนแรกก่อนที่คุณจะทำคอนเทนต์หรือแคมเปญต่างๆ คุณควรมีการวิเคราะห์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ผ่าน Personalized Marketing โดยวิเคราะห์จากพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ว่า ต้องการอะไร มีปัญหาอะไร ความชื่นชอบ ไลฟ์สไตล์ และอะไรที่จะช่วยแก้ไขปัญหาได้
2. ปรับปรุง Brand voice หรือ ภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เหมาะสม
ภาพลักษณ์ของแบรนด์นับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ โดยภาพลักษณ์ของแบรนด์จะช่วยเสริมให้ธุรกิจของคุณดูน่าสนใจ ทั้งนี้ถ้าหากธุรกิจของคุณเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีปัญหาสุขภาพ ภาพลักษณ์ของแบรนด์จำเป็นต้องดูเป็นผู้ใหญ่ มีความรู้ และน่าเชื่อถือ เป็นต้น
3. วางแผนและกลยุทธ์เพื่อทำ Engagement
การวางแผ่นเพื่อทำ Engagement คุณจำเป็นต้องเริ่มตั้งแต่กำหนดวัตถุประสงค์ในการทำจนไปถึงรายละเอียด Action Plan ต่างๆ ว่าคอนเทนต์หรือแคมเปญที่แบรนด์จะทำมีอะไรบ้าง นอกจากนี้อย่าลืมกำเนิดตัวชี้วัดด้วย
4. กำหนดวันและเวลา
หลังจากที่คุณวางแผนและกลยุทธ์เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการกำหนดวันและเวลาเพื่อให้ได้วันและเวลาที่ในช่วงที่ดีที่สุด ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การทำ Engagement เพื่อให้ทีมของคุณเผยแพร่คอนเทนต์หรือแคมเปญ ในเวลาช่วงที่ดีที่สุด
5. ปรับปรุงแคมเปญ
ในขั้นตอนนี้เป็นการปรับปรุงแคมเปญหรือคอนเทนต์ให้เหมาะสมและตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายของคุณ ซึ่งถ้าแคมเปญของคุณมีคุณภาพและตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายยอด Engagement จะค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจเลยทีเดียว
สำหรับบางธุรกิจคุณอาจจะทำ Engagement Marketing อยู่แล้ว คุณสามารถนำคำแนะนำต่อไปนี้ไปปรับใช้เพื่อให้ Engagement Marketing ของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
อาจจะพูดได้ว่าทั้ง Engagement Marketing และ Interaction Marketing มีวัตถุประสงค์เดียวกัน เนื่องจากทั้งสองคำนี้เป็นการทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ลูกค้าเกิดความผูกพันกับแบรนด์ ซึ่งผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งสอง
การทำ Engagement Marketing เป็นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์และลูกค้า ทำให้ลูกค้าประทับใจและจดจำแบรนด์ได้ เพื่อทำให้เกิดการซื้อซ้ำ การแนะนำแบรนด์ หรือ การบอกเล่าให้แก่คนใกล้ตัว ในปัจจุบัน Engagement Marketing อีกหนึ่งช่องทางที่สามารถช่วยสร้างการรับรู้และส่งเสริมการขาย ให้แบรนด์หรือธุรกิจของคุณเติบโตแบบก้าวกระโดดได้
ซึ่ง Engagement Marketing เป็นการสร้างความผูกพันกับกลุ่มเป้าหมายผ่านการทำแคมเปญต่างๆ ของแบรนด์ เช่น รูปภาพ คลิปสั้น วิดีโอเบื้องหลัง ข้อความ เกม และอื่นๆ อีกมากมาย โดย Engagement หมายถึง การกดไลค์ กดแชร์ หรือคลิกสั่งซื้อสินค้า
ยิ่งยอด Engagement ของคุณเยอะมากเท่าไหร่ โอกาสในการขาย ยอดขาย และกำไร ก็มีโอกาสที่จะเพิ่มมากตามขึ้นไปด้วย นอกจากนี้การทำ Engagement Marketing ยังทำให้นักการตลาดหรือเจ้าของแบรนด์หลายๆ คนนำข้อมูลดาต้าต่างๆ มาวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าเพื่อทำคอนเทนต์หรือโฆษณาที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มลูกค้าได้ในระยะยาว
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที