โบท็อกเยอรมัน ยี่ห้อ Xeomin คือ โบท็อกของประเทศเยอรมันยี่ห้อหนึ่ง ที่คลินิกเสริมความงานนิยมใช้ฉีดปรับรูปหน้า ลดริ้วรอยกันอย่างมาก หลายคนที่สนใจอยากฉีดโบท็อกซ์เยอรมันเพราะเคยได้ยินมาว่าเหมาะกับคนที่ดื้อโบท็อก วันนี้เรามาทำความรู้จักกันแบบละเอียดก่อนจะตัดสินใจเลือกยี่ห้อโบท็อกที่เหมาะสมค่ะ
โบท็อก Xeomin คือ แบรนด์หนึ่งของโบท็อกซ์จากเยอรมัน เป็นโบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิด เอ (Botulinum toxin type A) สกัดจากแบคทีเรียชื่อ คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum)
หลังจากฉีดโบท็อกไปแล้ว จะมีผลออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ส่งผลให้การทำงานของมัดกล้ามเนื้อลดลงเป็นการชั่วคราว ใบหน้าดูเรียวขึ้น และช่วยในเรื่องริ้วรอยให้ดูลดน้อยลงด้วย สิ่งที่แพทย์แนะนำให้ทำเป็นอย่างแรกในคนที่ต้องการหน้าเด็กและปรับรูปหน้าให้เรียวสวย จึงเป็นการฉีดโบท็อก
โบท็อกซ์เยอรมันยี่ห้อ Xeomin ผลิตโดยบริษัทในประเทศเยอรมนีที่มีชื่อว่า MERZ PHARMA GMBH & CO. KGaA
โบท็อกเยอรมัน แบรนด์ Xeomin ผ่านการรับรองจาก U.S. FDA ของประเทศสหรัฐอเมริกา ในค.ศ. 2011 มั่นใจได้ในความปลอดภัยค่ะ ได้รับการนำเข้ามาในไทยโดยบริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย จำกัด (Merz Aesthetics) อีกทั้งเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2016 โบท็อก Xeomin ได้ผ่าน อย. ไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อ้างอิงจากผลการวิจัย เมื่อทดลองฉีดโบท็อกเยอรมันยี่ห้อ Xeomin ในกลุ่มทดลอง ปรากฎว่า
• 99.4% ไม่พบการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารต้านโบท็อก (NAbs)
• 0.6% พบว่าร่างกายมีการสร้างสารต้านโบท็อก แต่โบท็อกยังสามารถออกฤทธิ์ได้ดี
จากการทดลองนี้ สามารถสรุปได้ว่า ไม่พบตัวอย่างการทดลองใดที่มีการแสดงออกว่าเกิดการดื้อโบท็อก Xeomin เราจึงสามารถเลือกใช้ได้อย่างมั่นใจค่ะ
โบท็อก Xeomin ฉีดแล้วให้ผลลัพธ์ที่ดีในเคสคนไข้ดื้อยา ที่เคยหยุดการฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี
โบท็อก Xeomin พัฒนาขึ้นโดยนำข้อดีของ โบท็อก Allergan (อเมริกา) มารวมกับข้อดีของโบท็อก Dysport (อังกฤษ) เข้าด้วยกัน หากกล่าวถึงประสิทธิภาพและคุณสมบัติ จึงถือได้ว่าเทียบเท่ากันค่ะ
การตัดสินใจเลือกโบท็อกตัวไหนดี ไม่ว่าจะเป็น โบท็อกซ์เยอรมัน เกาหลี อังกฤษ หรืออเมริกา เราควรทราบคุณสมบัติและจุดเด่นของ botox แต่ละตัวก่อนค่ะ
โบท็อกเยอรมันตัวนี้ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องการดื้อโบท็อกซ์
นิยมฉีดโบท็อก Xeomin เพื่อลดริ้วรอยตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้า อาทิ รอยตีนกา ริ้วรอยใต้ตาขนาดเล็ก รอยย่นตรงหน้าผาก ระหว่างคิ้ว อีกทั้งยังใช้ฉีดเพื่อลดกราม ลดโหนกแก้ม ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นได้อีกด้วย
โบท็อกเกาหลี Aestox / Nabota
ทั้ง 2 ยี่ห้อของโบท็อกจากประเทศเกาหลีนี้ ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพเทียบเทียบเท่ากับโบท็อกจากสหรัฐอเมริกา แต่ราคาถูกกว่าเป็นเท่าตัว คนจึงนิยมฉีดกันเยอะเพราะเป็น botox ที่มีความคุ้มค่า คุ้มราคาค่ะ
• โบท็อกยี่ห้อ Aestox ส่วนใหญ่นิยมใช้ฉีดเพื่อช่วยในเรื่องการลดริ้วรอย ทำให้หน้าใส กระตุ้นคอลลาเจน ใช้ฉีดเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวสวย ให้กรอบหน้าชัดเจนขึ้น และใช้ฉีดเพื่อลดน่อง ทำให้ขาเรียวขึ้น
• โบท็อกยี่ห้อ Nabota เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกแบบเร่งด่วน เพราะออกฤทธิ์ไวที่สุด อาทิ โบท็อกลดกราม โบท็อกลดริ้วรอย เห็นผลไวเพียงแต่ระยะเวลาที่ผลลัพธ์คงอยู่จะสั้นกว่าเล็กน้อยค่ะ
โบท็อกอเมริกา Allergan
แม้จะเป็นโบท็อกที่มีราคาสูง แต่ก็ให้ผลการรักษาที่แม่นยำที่สุด เพราะตัวยากระจายตัวแคบที่สุดเมื่อเทียบกับโบท็อกยี่ห้ออื่น ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติ หน้าไม่แข็ง ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน และที่สำคัญคือ โอกาสดื้อโบท็อกน้อยที่สุดค่ะ
โบท็อกอังกฤษ Dysport
โบท็อกยี่ห้อ Dysport จากประเทศอังกฤษนี้จะเหมาะกับการฉีดเพื่อลิฟกรอบหน้าให้ชัดเจนขึ้น ด้วยเทคนิค Dermolift โดยไม่ต้องผ่าตัดดึงหน้า ฉีดแล้วจะช่วยเรื่องการยกกระชับผิว ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังใช้ฉีดเพื่อลดน่อง ลดกล้ามแขน ลดเหงื่อบริเวณฝ่ามือและรักแร้ได้เช่นกัน
เราอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับคนที่ฉีดโบท็อกแล้วไม่เห็นผลการเปลี่ยนแปลง ฉีดแล้วหน้าไม่เรียวลงไปกว่าเดิม หรือริ้วรอยไม่ลดลง อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นจากภาวะดื้อโบท็อกซ์ ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ได้แก่
• บางคนเห็นแก่โบท็อกราคาถูก ไปเจอเข้ากับโบท็อกปลอม ที่ไม่ผ่านอย. และไม่ได้มาตรฐาน
• เกิดจากร่างกายของคนไข้ กระตุ้นให้เกิดภูมิต้านทานต่อต้านตัวยาโบท็อกที่ฉีดเข้าไป ส่งผลให้การฉีดครั้งถัด ๆ ไปไม่ได้ผล หรือที่คนส่วนใหญ่มักเรียกกันว่า “ภาวะดื้อโบท็อก”
• เกิดจากการฉีดโบท็อกในปริมาณมาก
• ฉีดโบท็อกถี่เกินไป ระยะเวลาที่เว้นช่วงห่างไม่มากพอ
• ฉีดโบท็อกแล้วไม่เห็นผลการเปลี่ยนแปลง
• ฉีดโบท็อกแล้วไม่ได้ผลลัพธ์ดังที่คาดหวังไว้
• เมื่อมีภาวะดื้อโบท็อกอาจต้องใช้ตัวยา botox ในปริมาณที่มากขึ้น ค่าใช้จ่ายจึงสูงขึ้น
• กว่าจะสามารถกลับไปฉีดโบท็อกได้ใหม่ ต้องรอให้เวลาผ่านไปประมาณ 3-5 ปี เป็นอย่างน้อย
จากประสบการณ์ของหมอแล้ว โบท็อกซ์เยอรมัน แบรนด์ Xeomin จะให้ผลลัพธ์ดีสำหรับเคสที่มีภาวะดื้อโบท็อกซ์ค่ะ ทั้งนี้ หากอยากจะป้องกันภาวะดื้อโบท็อก เราควรเลือกฉีดโบท็อกในคลินิกที่ได้มาตรฐาน เชื่อถือได้ ฉีดโดยคุณหมอที่มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า มีเทคนิคการฉีดโบท็อกที่แม่นยำ เลือกใช้โบท็อกแท้เท่านั้น ฉีดในปริมาณยูนิตที่เหมาะสมกับปัญหาที่ต้องการแก้ไข
แต่ละจุดที่จะฉีดโบท็อกจะใช้ตัวยาไม่เท่ากัน การจะฉีดโบท็อกเยอรมัน กี่ยูนิตดีนั้น ต้องพิจารณาหลาย ๆ ปัจจัยประกอบกัน เพื่อคำนวณออกมาเป็นจำนวนยูนิตที่เหมาะสม เช่น ต้องการฉีดทั่วหน้า หรือฉีดตรงริ้วรอยขนาดเล็กในบริเวณที่ไม่กว้างมากนัก
และเพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าเป็นการฉีดโบท็อกแท้ ในเคสที่ฉีดโบท็อกในปริมาณไม่ถึง 100 Unit สามารถชวนเพื่อนมาช่วรหารยูนิตให้ครบ 100 ยูนิต เพื่อเปิดโบท็อกขวดใหม่เลยค่ะ
ฉีดโบท็อกเยอรมัน เพื่อลดกราม ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น (ฉีดทั่วหน้า) : ฉีดโบท็อกเยอรมัน ยี่ห้อ Xeomin ปริมาณ 100 U ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 18,000.- บาท
การเลือกฉีดโบท็อกให้เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละคน เช่น ปรับรูปหน้า ลดกราม ลดริ้วรอยตามจุดต่าง ๆ หลายคนอาจยังไม่มั่นใจว่าควรเลือกใช้โบท็อกยี่ห้อไหนดี จะเลือกโบท็อกซ์เยอรมัน หรือโบท็อกของประเทศอื่น ๆ ดีกว่ากัน? แนะนำให้เข้าไปปรึกษาแพทย์ที่คลินิกที่ได้มาตรฐานดูก่อนค่ะ แพทย์จะช่วยประเมินใบหน้า ซักถามประวัติว่าเคยดื้อโบท็อกมาก่อนหรือไม่ เพื่อแนะนำยี่ห้อโบท็อกที่เหมาะสมที่สุด
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที