ถึงแม้ว่าตอนนี้ดอกเบี้ยจะไม่น่ารักสักเท่าไหร่ แต่หลายคนก็ยังคงมองหาวิธีการกู้ซื้อบ้านกันอยู่ เพราะที่อยู่อาศัยคือปัจจัย 4 ไม่ว่าดอกเบี้ยจะเป็นยังไง แต่เราก็ยังคงต้องการมีบ้านเอาไว้อยู่อาศัยอยู่ดี สำหรับใครที่เป็นมือใหม่กำลังศึกษาเกี่ยวกับการกู้บ้าน ยังไม่รู้ว่าขั้นตอนและวิธีการทำเรื่องกู้บ้านเป็นอย่างไร เราจะพาทุกคนไปสรุปรวมทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับสินเชื่อบ้านกัน
หากจะให้อธิบายแบบง่าย ๆ เกี่ยวกับการกู้ซื้อบ้าน คือการที่เราอยากมีบ้านสักหลังหนึ่ง แต่ว่าเราไม่มีเงินสดหลักล้านมากพอที่จะซื้อบ้านได้ เราเลยไปขอกู้ธนาคารซื้อบ้านเพื่อนำเอาเงินสดจากธนาคารไปให้เจ้าของบ้าน จากนั้นเราก็จะมีบ้านเอาไว้อยู่อาศัย แล้วเราก็ต้องผ่อนชำระหนี้สินคืนให้กับธนาคารที่เราไปกู้มา สินเชื่อบ้านที่ให้บริการจึงเป็นสินเชื่อที่มีวัตถุประสงค์ให้คนนำเอาเงินที่ได้รับจากการกู้ยืมไปซื้อบ้านเท่านั้น
ซึ่งธนาคารไม่ได้ให้เรากู้เปล่า ๆ เพราะพวกเขาเป็นสถาบันการเงินที่ทำธุรกิจ เวลาที่เรากู้ซื้อบ้านเราเลยต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการกู้ด้วย อย่างเช่น ค่าธรรมเนียม ค่าประเมินสินทรัพย์ หรือที่ต้องเจอกันทุกคนก็คือดอกเบี้ยบ้านนั่นเอง มันจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเวลาที่ดอกเบี้ยขึ้น คนที่กำลังผ่อนสินเชื่อบ้านอยู่เลยได้รับผลกระทบไปแบบเต็ม ๆ
เพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังเตรียมตัวกู้ซื้อบ้านหลังแรก ยังไม่รู้เลยว่ามีอะไรที่เราควรรู้ก่อนตัดสินใจยื่นกู้บ้าน มีอะไรที่เราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษบ้าง เราได้รวบรวมคำตอบของทุกข้อสงสัยเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนี้
เป็นปัจจัยที่มีความสำคัญมากที่สุดในการซื้อบ้าน เพราะมันเป็นทรัพย์สินที่เราต้องใช้เวลาในการเก็บเงิน หรือผ่อนชำระยาวนานมากกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น เราจึงต้องประเมินตนเองก่อนว่ารายได้และค่าใช้จ่ายต่อเดือนของเรา เมื่อหักลบกันแล้ว มีความสามารถมากพอในการแบกรับภาระหนี้สินระยะยาวตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปหรือเปล่า แล้วในระหว่างนั้นเราจะสามารถเก็บเงินได้หรือไม่
ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านเราต้องดูก่อนว่าวัตถุประสงค์ที่แท้จริงในการมีบ้านของเราคืออะไร เราต้องการซื้อไว้อยู่เอง ซื้อให้ครอบครัว หรือจะซื้อเอาไว้ปล่อยเช่า เพราะแต่ละวัตถุประสงค์ก็จะมีวิธีการตัดสินใจเลือกซื้อและยื่นกู้แตกต่างกันด้วย
สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบ นั่นก็คือการกู้คนเดียว เราต้องแบกรับภาระหนี้สินทั้งหมดตามลำพัง กับแบบที่ 2 ก็คือการกู้ร่วม เราสามารถนำเอาคนในครอบครัวหรือคนรักที่จดทะเบียนสมรสแล้วมากู้ร่วมกันได้ แต่ปัญหาก็คือถ้าเป็นบ้านหลังแรกและกู้ร่วม เมื่อจะซื้อบ้านหลังที่ 2 เราอาจจะไม่ได้ดอกเบี้ยที่ประหยัดเหมือนบ้านหลังแรกเสียทีเดียว เป็นข้อควรระวังที่ต้องตัดสินใจเอาไว้ให้ดี
นอกจากเราจะต้องพิจารณาข้อควรรู้ก่อนที่จะซื้อบ้านแล้ว ยังมีข้อควรระวังที่เป็นหมายเหตุว่าเราอาจจะยังไม่พร้อมสำหรับการซื้อบ้าน ดังนี้
แน่นอนว่าธนาคารคงไม่ปล่อยสินเชื่อให้กับทุกคนที่มากู้ซื้อบ้าน ดังนั้นก่อนที่เราจะยื่นกู้ เราก็ต้องพิจารณาตัวเองก่อนว่าเรามีคุณสมบัติตรงตามความต้องการของธนาคารในการกู้ซื้อบ้านหรือไม่ รวมถึงคุณสมบัติส่วนตัวของเราเองจะสามารถผ่อนชำระหนี้สินบ้านที่ยาวนานนับ 10 ปีได้หรือไม่ คุณสมบัติที่ต้องพิจารณา มีดังนี้
คุณสมบัติของธนาคาร
คุณสมบัติส่วนตัว
มาเข้าสู่ช่วงเวลาที่มีความสำคัญมากที่สุดในการกู้ซื้อบ้าน นั่นก็คือการเรียนรู้ขั้นตอนการกู้ซื้อบ้านนั่นเอง ถึงแม้ว่าขั้นตอนของมันอาจจะไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากการขอสินเชื่อประเภทอื่นสักเท่าไหร่ และความจริงแล้วเราสามารถไปถามพนักงานที่หน้าเคาน์เตอร์ได้เลย แต่มันจะดีกว่าหากเราศึกษามาเป็นอย่างดี ไปติดต่อธนาคารแล้วเอกสารครบถ้วน เพราะมันจะยิ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเราได้มากขึ้นกว่าเดิม สำหรับขั้นตอนโดยสังเขปมีดังนี้
แต่ละธนาคารก็มีข้อมูลและเงื่อนไขการขอสินเชื่อที่แตกต่างกันออกไป เราต้องศึกษากันโดยละเอียด โดยเฉพาะโปรโมชัน เพราะมันคือสิ่งที่จะช่วยให้ช่วงแรกเราผ่อนสบายขึ้นกว่าเดิม เปรียบเทียบดูว่าธนาคารไหนที่ตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุด
ใครที่มีธนาคารในดวงใจเรียบร้อยแล้ว สิ่งต่อมาที่เราจะต้องทำก็คือการตรวจสอบดูว่าธนาคารวางเงื่อนไขผู้กู้ไว้ยังไงบ้าง บางธนาคารอาจมีการกำหนดเงินเดือน บางธนาคารอาจไม่กำหนด แต่จะพิจารณาวงเงินกู้จากเงินเดือนของเรา บางแห่งอาจพิจารณาดูว่าเราทำงานมาแล้วกี่ปี เปลี่ยนงานมาแล้วกี่ที่ ติดเครดิตบูโรหรือเปล่า เราต้องพิจารณาดูว่าเราตรงกับเงื่อนไขของธนาคารหรือไม่ หากตรงแล้วก็สามารถทำตามขั้นตอนต่อไปได้เลย แต่หากยังไม่ตรงก็ต้องไปดูว่ามีตรงไหนที่เราต้องจัดการกับมันบ้าง อย่างเช่นหากเราทำงานมายังไม่ถึง 1 ปี เราอาจจะต้องรอให้ครบ 1 ปีก่อนแล้วค่อยยื่นขอสินเชื่อ
ขั้นตอนนี้จะเข้าสู่การเตรียมเอกสารซึ่งจะประกอบไปด้วยเอกสารส่วนตัวของเราและเอกสารแสดงรายได้ ส่วนใหญ่มักจะขอเอกสารทั่วไปอย่างสำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล เอกสารเกี่ยวข้องกับที่ดินและบ้านของเรา หนังสือรับรองเงินเดือน รายการเดินบัญชีย้อนหลังตามที่ธนาคารกำหนด หลังจากที่เราเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้วก็สามารถนำเอาเอกสารไปยื่นกับธนาคารที่เราต้องการจะขอสินเชื่อได้เลย หากเอกสารครบ การดำเนินการก็จะรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม
แต่ละธนาคารมีระยะเวลาในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อที่ไม่เท่ากัน บางธนาคารอาจส่งคนมาประเมินราคาสินทรัพย์อย่างรวดเร็วภายใน 2-3 วัน บางธนาคารได้รับความนิยมหน่อยอาจใช้เวลานานเป็นสัปดาห์ หลังจากที่ธนาคารอนุมัติสินเชื่อให้กับเราเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะโทรมานัดหมายให้เราเข้าไปทำสัญญาเงินกู้ เราก็จะได้เงินนำเอามาซื้อบ้าน เมื่อซื้อบ้านแล้วก็ต้องไปทำสัญญาจดจำนองกับธนาคาร เพราะบ้านที่กู้มาจะเป็นกรรมสิทธิ์ของธนาคารก่อนจนกว่าเราจะผ่อนชำระหมด
อย่างที่เราบอกไปข้างต้นว่าการกู้ซื้อบ้านของแต่ละธนาคารก็จะมีเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้แตกต่างกัน เช่นเดียวกับเรื่องเงินเดือนขั้นต่ำในการยื่นกู้ บางธนาคารไม่บอกด้วยซ้ำว่าต้องเงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะสามารถยื่นกู้ซื้อบ้านได้ หลายคนอาจเคยเห็นข้อมูลผ่านตามาบ้างว่าต้องมีเงินเดือนตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไปสำหรับมนุษย์เงินเดือนถึงจะสามารถกู้ได้ ดังนั้น เราเลยต้องพิจารณาตัวเองว่าเงินเดือนของเราสามารถซื้อบ้านในราคาเท่าไหร่ได้โดยที่จะไม่กระทบสภาพคล่องของเรา
โดยปกติแล้วเราจะแนะนำให้จำนวนผ่อนแต่ละงวดตั้งแต่งวดแรกจนถึงงวดสุดท้าย เมื่อคำนวณแล้วจะต้องเป็นเงินไม่เกินไปกว่า 1 ใน 3 ของรายได้สุทธิในแต่ละเดือน รายได้สุทธิเป็นรายได้ที่เราจะได้รับเท่ากันทุกเดือนเท่านั้น เพราะฉะนั้น เราจะไม่นับรวมเงินโอที ค่าคอมมิชชั่น หรือรายได้พิเศษอื่นๆ ที่มีโอกาสจะได้บ้างไม่ได้บ้าง
นอกจากนั้นรายได้ของเรายังต้องนำไปหักลบกับค่าใช้จ่ายแล้วด้วย เพื่อให้การผ่อนบ้านของเราไม่กระทบต่อการใช้ชีวิต อย่างเช่นหากเรามีเงินเดือน 30,000 บาท ทุกวันนี้ใช้จ่ายไปทั้งหมด 15,000 บาท เหลือเงินเก็บอีก 15,000 บาท เราสามารถกู้ได้โดยต้องผ่อนชำระเดือนละไม่เกิน 12,000 บาท เพื่อให้เรายังคงสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ และในขณะเดียวกันเองก็ยังคงมีเงินเก็บเอาไว้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่
เข้าสู่ขั้นตอนที่น่าปวดหัวมากที่สุดในการกู้ซื้อบ้าน นั่นก็คือพิจารณาว่ากู้ซื้อบ้านธนาคารไหนดี เพราะเดี๋ยวนี้ในประเทศไทยของเรามีธนาคารมากมายที่บริการสินเชื่อบ้าน และแต่ละธนาคารก็มีโปรโมชันที่ออกมาดึงดูดใจเราเต็มไปหมด เราเลยจากเน้นสิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกธนาคารสำหรับการขอสินเชื่อบ้านกันว่ามีอะไรบ้าง
การกู้ซื้อบ้านเป็นหนึ่งในอีเวนท์ใหญ่ของชีวิตวัยทำงานและสร้างเนื้อสร้างตัวที่หลายคนกำลังจะเผชิญ ความจริงแล้วมันไม่ได้น่ากลัวหรือมีขั้นตอนที่สลับซับซ้อนอะไรมากมาย ขอเพียงแค่เราพิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่าสินเชื่อและธนาคารที่เราไปขอตอบโจทย์ความต้องการของเราหรือไม่ คุ้มค่าหรือเปล่า และเราสามารถผ่อนไหวหรือไม่ มันก็จะช่วยลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้แล้ว
ส่วนขั้นตอนความยุ่งยากทั้งหลาย หากใครไม่อยากเผชิญหน้ากับมัน เราขอแนะนำให้ใช้บริการสินเชื่อของ Refinn เลย เพราะเราให้บริการตั้งแต่ต้นจนจบ รวบรวมข้อมูลสินเชื่อทั้งหมดเอาไว้ในที่เดียว ให้ทุกคนได้ศึกษาและพิจารณาง่ายดายมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ต้องไปหาข้อมูลแล้วเอามาเปรียบเทียบเอง อยากขอสินเชื่อตัวไหนก็สามารถขอผ่าน Refinn ได้เลยอีกต่างหาก แค่เตรียมเอกสารเท่านั้น เพียงแค่นี้การซื้อบ้านก็จะไม่ใช่เรื่องที่น่าปวดหัวอีกต่อไปแล้ว
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที