การซื้อบ้านในปัจจุบัน คนส่วนมากคงไม่มีใครมีเงินพอที่จะซื้อสดใช่ไหมครับ ส่วนมากก็จะกู้ยืมเงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อมาซื้อบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ซึ่งในระหว่างระยะเวลาของสินเชื่อบ้านล้วนมีดอกเบี้ยทั้งสิ้น ถือเป็นเรื่องปกติในการกู้ยืมครับ และดอกเบี้ยบ้านนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของค่าผ่อนชำระหนี้ที่เราจะต้องจ่ายทุก ๆ เดือนอีกด้วย
ดังนั้นการคิดดอกเบี้ยบ้านจึงเป็นขั้นตอนสำคัญในการเลือกกู้บ้านหรือสินเชื่อที่มีผลต่อความถูกต้องของความต้องการทางการเงินของเราในระยะยาว ดอกเบี้ยมีผลต่อราคาของสินเชื่อทั้งหมดที่เราจะจ่ายในระยะเวลาหลายปี ดังนั้นเราควรพิจารณาให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจเลือกกู้บ้าน ส่วนวิธีคิดดอกเบี้ยบ้านนั้นจะสำคัญอย่างไร และสามารถช่วยอะไรเราได้บ้างมาอ่านไปพร้อม ๆ กันเลยครับ
การคิดดอกเบี้ยบ้าน คือ กระบวนการที่ใช้เพื่อหาจำนวนเงินที่เราต้องจ่ายในรูปแบบดอกเบี้ยต่อเงินกู้บ้านของเรา นั่นคือเงินดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายในระหว่างระยะเวลาที่ถือครองสินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ยบ้านคำนวณตามอัตราดอกเบี้ยที่เราตกลงกับสถาบันการเงินที่กู้ยืมเงินจากและยอดเงินกู้ที่ยังคงค้างชำระในแต่ละเดือน การคำนวณจำนวนเงินที่ต้องจ่ายในรูปแบบดอกเบี้ยต่อสินเชื่อที่ใช้เพื่อซื้อบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ ดอกเบี้ยบ้านเป็นราคาที่เราจะต้องจ่ายให้กับสถาบันการเงินหรือธนาคารที่กู้ยืมเงินจากในการชำระหนี้ของบ้านของเรานั่นเอง
การวางแผนคำนวณดอกเบี้ยบ้านสำคัญอย่างมากเนื่องจากมีผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของเราและการเลือกกู้บ้านของเรา การวางแผนคำนวณดอกเบี้ยบ้านมีความสำคัญ ดังนี้
การวางแผนคำนวณดอกเบี้ยบ้านช่วยให้สามารถควบคุมการเงินของเราและทำให้เราสามารถตัดสินใจเลือกสินเชื่อบ้านและการบริหารการเงินในระยะยาวอย่างมีข้อมูลและถูกต้อง ทำให้มีความมั่นคงในการตัดสินใจทางการเงินของเราและลดความเครียดทางการเงินในระยะยาวได้ด้วยครับ
การเลือกประเภทดอกเบี้ยบ้านเป็นส่วนสำคัญในการเลือกกู้บ้านและมีความสำคัญมากในการบริหารการเงินของเรา การเลือกประเภทดอกเบี้ยบ้านขึ้นอยู่กับสถานะทางการเงินและความเสี่ยงทางการเงินของเรา หากต้องการความมั่นคงและสามารถวางแผนการเงินได้ง่าย อัตราดอกเบี้ยคงที่เป็นทางเลือกที่ดี แต่หากเราพร้อมรับความเสี่ยงและหวังที่จะได้รับประโยชน์จากการลดลงของอัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยลอยตัวอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ รายละเอียดมีดังต่อไปนี้
อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate Loan) คือประเภทของสินเชื่อบ้านที่มีอัตราดอกเบี้ยที่คงที่ตลอดระยะเวลาของสัญญากู้ นี่หมายความว่าอัตราดอกเบี้ยในสินเชื่อบ้านนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลาที่ถือสัญญากู้ เราจะต้องชำระค่าดอกเบี้ยในสินเชื่อบ้านในจำนวนเงินที่คงที่ทุกเดือนตลอดระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา (เช่น 15 ปี, 30 ปี) ไม่ว่าอัตราดอกเบี้ยทางตลาดจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร
ข้อดีของอัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate Loan)
ข้อดีของดอกเบี้ยคงที่คือทำให้เราสามารถวางแผนการเงินได้ง่าย เนื่องจากดอกเบี้ยจะคงที่เท่าเดิมตลอดอายุสัญญาไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย เราจะไม่ต้องกังวลเพราะดอกเบี้ยของเราจะไม่ขึ้นตามครับ
ข้อควรระวังของอัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate Loan)
สำหรับดอกเบี้ยคงที่ คนมีบ้านอาจต้องระวังและตรวจสอบให้ดี ๆ เพราะดอกเบี้ยบ้านจะคงที่แค่ใน 3 ปีแรกพอเข้าปีที่ 4 ดอกเบี้ยจะปรับเป็นแบบลอยตัวในทันที ดังนั้นตรงนี้จึงควรระวังให้ดี ๆ และรีไฟแนนซ์บ้านทุก ๆ 3 ปีเพื่อให้ดอกเบี้ยกลับมาเป็นแบบคงที่เหมือนเดิมครับ
อัตราดอกเบี้ยลอยตัว หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลงตามเงื่อนไขทางการเงินหรือตลาดการเงิน อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถปรับเปลี่ยนตลอดระยะเวลาของสินเชื่อ โดยการปรับอัตราดอกเบี้ยเกี่ยวข้องกับดัชนีหรืออ้างอิงทางการเงินที่กำหนดโดยสถาบันการเงินหรือหน่วยงานการเงิน
MRR (Mortgage Reference Rate), MLR (Prime Rate or Cost of Funds Index), และ MOR (Market Index Rate) เป็นอัตราดอกเบี้ยหรือดัชนีที่สำคัญในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยในสินเชื่อบ้านแบบลอยตัว (Floating Rate Loan) หรือสินเชื่อบ้านที่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยตามเงื่อนไขและตลาดการเงิน ความสำคัญของเหล่านี้อยู่ในการกำหนดระดับอัตราดอกเบี้ยในสินเชื่อบ้านและมีผลต่อผู้กู้ในด้านต่อไป
1.MRR (Mortgage Reference Rate)
2.MLR (Prime Rate or Cost of Funds Index)
3.MOR (Market Index Rate)
ความสำคัญของ MRR, MLR, และ MOR อยู่ในการกำหนดระดับอัตราดอกเบี้ยในสินเชื่อบ้านและมีผลต่อผู้กู้ การเลือกสินเชื่อบ้านที่ใช้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวควรพิจารณาดัชนีที่ใช้ในสินเชื่อและการปรับเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้นตามดัชนีเหล่านี้เพื่อให้ผู้กู้สามารถวางแผนการเงินและจ่ายค่าดอกเบี้ยอย่างมีข้อมูลและถูกต้องในระยะยาว
การเปรียบเทียบดอกเบี้ยบ้านในแต่ละธนาคารมีความสำคัญอย่างมากในกระบวนการเลือกสินเชื่อบ้านและการเงินส่วนบุคคลของเรา ดอกเบี้ยบ้านมีผลต่อค่าใช้จ่ายรายเดือนของเราและค่าใช้จ่ายทั้งหมดในระยะยาวของสัญญากู้ ข้อมูลดอกเบี้ยบ้านมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและต้องการการอัปเดตที่ถูกต้องตามเวลาปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยบ้านของแต่ละธนาคารสามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของธนาคารหรือโทรติดต่อธนาคารเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยบ้านและเงื่อนไขการกู้ยืม
ในการคิดดอกเบี้ยของธนาคารจะมีธนาคารแห่งประเทศไทยจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อที่อยู่อาศัยของแต่ละธนาคารไม่ว่าจะเป็น MLR MRR หรือ MOR เพื่อให้แต่ละธนาคารนำไปคิดคำนวณอัตราดอกเบี้ย โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยของธนาคารใหญ่ 8 ธนาคารดังนี้
การวางแผนคำนวณดอกเบี้ยบ้านเป็นกระบวนการที่สำคัญเมื่อเรากำลังตัดสินใจเรื่องการกู้ยืมเงินสำหรับซื้อบ้านหรือสินทรัพย์อื่น ๆ กระบวนการนี้จะช่วยให้เราเข้าใจค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อบ้านและเป็นวิธีที่ดีในการวางแผนการเงินของเราให้ดีขึ้น ตัวอย่างของวิธีการวางแผนคำนวณดอกเบี้ยบ้าน ดังนี้
ในกรณีที่เรากู้ยืมเงินซื้อบ้านที่มูลค่า 1,000,000 บาทจากธนาคาร โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ที่ 3.00% ต่อปี และชำระเป็นงวดเดือนละ 10,000 บาท โดยเริ่มชำระเงินเดือนแรกในเดือนมกราคม เราสามารถคำนวณดอกเบี้ยและเงินต้นคงเหลือในแต่ละงวดได้ดังนี้:
เดือนมกราคม
ดังนั้น ในเดือนมกราคมเราจะจ่ายดอกเบี้ยเดือนแรก 2,465 บาทและตัดเงินต้น 10,000 - 2,465 = 7,535 บาท
เพราะฉะนั้นเงินต้นคงเหลือ = 992,465 บาท
เดือนกุมภาพันธ์
ดังนั้น ในเดือนกุมภาพันธ์เราจะจ่ายดอกเบี้ยเดือน 2,447 บาทและตัดเงินต้น 10,000 - 2,447 = 7,553 บาท
เพราะฉะนั้นเงินต้นคงเหลือ = 984,912 บาท
ค่าดอกเบี้ยและเงินต้นคงเหลือจะเปลี่ยนแปลงในแต่ละเดือนตามยอดเงินต้นที่ชำระ โดยการชำระเงินต้นเพิ่มขึ้นในแต่ละเดือนจะทำให้ดอกเบี้ยที่จ่ายลดลง และเงินต้นคงเหลือลดลงตามด้วย ต้องทำการคำนวณแต่ละเดือนเพื่อดูว่าเงินต้นคงเหลือและค่าดอกเบี้ยที่จ่ายเป็นอย่างไรในแต่ละเดือนถัดไป
การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของภาครัฐเป็นการดำเนินนโยบายทางการเงินหรือนโยบายเศรษฐกิจที่เป้าหมายในการควบคุมหรือปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยในประเทศหรือภาครัฐเพื่อส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรวมหรือส่วนหนึ่งของประเทศ นโยบายดอกเบี้ยนโยบายสามารถทำได้โดยใช้วิธีการต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และสภาวะเศรษฐกิจ
นโยบายดอกเบี้ยนโยบายของภาครัฐสามารถมีผลกระทบต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจอย่างมาก ผลกระทบเหล่านี้อาจมีทั้งผลบวกและผลลบ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และการดำเนินการของภาครัฐ นี่คือบางผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของภาครัฐมีผลกระทบต่อการเงินและเศรษฐกิจทั่วไป แต่ผลกระทบขึ้นอยู่กับการดำเนินการและวัตถุประสงค์ของภาครัฐในแต่ละรอบการปรับเปลี่ยนนโยบายดังกล่าว
วิธีคิดดอกเบี้ยบ้านช่วยให้เรามีความเข้าใจและความรู้ที่ดีเกี่ยวกับดอกเบี้ยบ้านและสินเชื่อที่กำลังกู้ยืม นอกจากนี้ยังช่วยให้เราดำเนินการในการเลือกและการบริหารการเงินของได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว การคิดดอกเบี้ยบ้านช่วยให้เรามีข้อมูลและความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับสินเชื่อที่เรากำลังสนใจ การเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและคำนวณดอกเบี้ยบ้านช่วยให้เราหากู้เงินในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุด การคำนวณดอกเบี้ยช่วยในการวางแผนการเงิน ทำให้เรารู้ว่าเราจะต้องจ่ายเท่าไรในแต่ละเดือน และช่วยในการจัดการงบประมาณของเรา
เราสามารถเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารหรือสถาบันการเงินต่าง ๆ และเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเรา การคำนวณดอกเบี้ยช่วยให้เราเข้าใจถึงโครงสร้างของสินเชื่อและวิธีการชำระเงิน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนหรือข้อผิดพลาดในการบริหารการเงิน เราสามารถวางแผนอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยคำนวณดอกเบี้ยบ้าน เช่น เมื่อสิ้นสุดสัญญากู้ยืมเงิน เราจะมีทรัพย์สินในมือเท่าไร หรือว่าเราสามารถเลื่อนเวลาการชำระเงินได้เมื่อเงินเดือนเพิ่มขึ้น เป็นต้น ดังนั้น การคิดดอกเบี้ยบ้านเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมและการวางแผนการเงินของเราในอนาคต
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที