การเรียนต่อปอโทเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่สนใจต่อยอดทางการศึกษา สายอาชีพ หรือสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มฐานเงินเดือน แต่ทำไมต้องเป็นที่อเมริกาล่ะ บทความนี้รวบรวมมาให้แล้วว่า เรียนต่อปริญญาโทอเมริกามีข้อดีอย่างไร และก่อนที่จะไปเจาะลึกข้อมูลเรื่องการเรียนต่อปริญญาโทอเมริกา เรามาศึกษาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของการเรียนต่อปริญญาโทกันก่อนดีกว่า
ปริญญาโทนั้นริเริ่มเมื่อยุคกลางหรือราว ๆ ศตวรรษที่ 18 ในสมัยนั้นการที่จะเป็นครูหรือหมอถือว่ามีความรู้ความสามารถในระดับสูง ผู้ที่ประกอบอาชีพครูหรือหมอจะได้รับใบอนุญาตการสอน ปริญญาโทจึงคล้ายกับใบรับรองการประกอบอาชีพอย่างหนึ่ง
ส่วนในสหรัฐอเมริกานั้น ปริญญาโทริเริ่มที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกานั่นเอง ฮาร์วาร์ดนั้นถือเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงระดับโลก อยู่ในเครือของไอวีลีก (Ivy League) ที่รวบรวมมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านต่าง ๆ 8 สถาบันในอเมริกาไว้ในเครือเดียวกัน แต่หากคุณไม่ได้ต้องการจะเข้าเรียนในเครือไอวีลีก ก็มีมหาลัยอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงให้เลือกมากมายไม่แพ้กัน
ศิษย์เก่าคนไทยที่เรียนจบปริญญาโทอเมริกาก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คุณอาชว์-อรุษ นักวาดนามปากกา Apolar ที่วาดปกครบรอบ 20 ปี แฮร์รี่ พอตเตอร์ ฉบับภาษาไทย หรือนักแสดงอย่างคุณว่าน-รัชชุ ที่ฝากผลงานที่น่าจดจำไว้มากมายใน season change หรือ ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ว่าทำไมเราควรมาเรียนต่ออเมริกา นอกจากนี้ ข้อดีของการเรียนต่อปอโทที่อเมริกายังมีอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดรับความหลากหลายทางเชื้อชาติ การเปิดรับความคิดใหม่ ๆ เพราะอเมริกาขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่เปิดกว้างทางความคิด ทำให้ผู้ที่มาเรียนต่อได้รับประสบการณ์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย และยังมีทุนมากมายมอบให้ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยขนาดเล็กหรือใหญ่
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าอยากเรียนต่อปริญญาโทอเมริกา คราวนี้เรามาดูกันว่ามีเกณฑ์หรือปัจจัยอะไรที่ต้องใช้พิจารณาเพื่อไปเรียนต่อโทที่นี่ และมีอะไรที่ผู้สมัตรต้องเตรียมกันบ้าง
แน่นอนว่าสาขาและมหาวิทยาลัยที่จะไปเรียนต่อปอโทเป็นสิ่งแรกที่ควรนำมาพิจารณา เพราะช่วยให้เราเลือกได้ว่าควรไปอยู่เมืองไหน และมหาวิทยาลัยที่เราจะเลือกนั้นมีชื่อเสียงด้านที่เราจะทำการศึกษาต่อรึเปล่า
เมื่อเลือกมหาวิทยาลัยและสาขาที่ต้องการเรียนต่อได้แล้ว ก็ควรดูว่าทางมหาวิทยาลัยมีการบังคับเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำรึเปล่า เพราะบางมหาวิทยาลัยหรือบางสาขาวิชา จะมีเกณฑ์ขั้นต่ำของเกรดเฉลี่ยจากปริญญาตรี เป็นตัวกำหนดในการพิจารณาการเข้าเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกา
จดหมายแนะนำตัว (Letter of recommendation): จดหมายที่เขียนแนะนำตัวผู้สมัคร ควรมี 2 ฉบับจากอาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่ผู้สมัครเคยศึกษา 1 ฉบับ และจากเจ้านายที่ผู้สมัครทำงานด้วย 1 ฉบับ หากไม่มีประสบการณ์ทำงาน ก็สามารถให้อาจารย์คนละท่านเขียนแนะนำตัวผู้สมัครอย่างละ 1 ฉบับก็ได้ ซึ่งจดหมายนี้จะเป็นการบอกเล่าถึงศักยภาพในตอนเรียนหรือตอนทำงานของผู้สมัครนั่นเอง
เรียงความแนะนำตัว (Statement of Purpose หรือ SOP): คล้ายกับจดหมายแนะนำตัวแต่คราวนี้ผู้สมัครจะต้องเป็นคนเขียนเอง เนื้อหาคร่าว ๆ ก็ควรจะมีประวัติของผู้สมัครพอสังเขป แรงจูงใจในการเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยและสาขา รวมถึงการวางแผนการทำงานหรืออนาคตหลังจบการศึกษา เป็นต้น
คะแนนสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ: ไม่ว่าจะเป็น TOEFL, IELTS, GMAT, GRE หรือคะแนนสอบวัดระดับอื่น ๆ ที่ทางมหาลัยต้องการ
ค่าใช้จ่ายก็เป็นสิ่งที่ควรคำนึงสำหรับคนที่จะไปเรียนต่อเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะขึ้นอยู่กับเมืองและรัฐที่เลือก รวมทั้งรูปแบบมหาวิทยาลัยว่าเป็นมหาลัยรัฐหรือเอกชน รวมถึงสาขาที่เลือกเรียน แต่ค่าใช้จ่ายสำหรับการเรียนต่อปริญญาโทอเมริกาคร่าว ๆ นั้นจะอยู่ที่ราว ๆ 700,000 - 900,000 บาท ต่อปี รวมค่ากินอยู่และค่าใช้จ่ายทั่วไป ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับและค่าทำวีซ่า
ในบางมหาวิทยาลัยอาจมีการขอเอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติมเช่น Resume หรือ CV เพื่อดูประสบการณ์การทำงาน หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่เลือกเรียนต่อตามที่ทางมหาวิทยาลัยและสาขานั้น ๆ ต้องการ ซึ่งผู้สมัครสามารถดูจาก requirements ของสาขาที่เราเลือกได้เลย
ข้อนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญต่อการสมัครเรียนต่อปอโทเช่นกัน มหาวิทยาลัยส่วนมากมักจะมีการสอบสัมภาษณ์ ทั้งนี้เพื่อดูว่าทัศนคติ ความคิด ทักษะการสื่อสารของผู้สมัครเป็นอย่างไร เหมาะสมกับการเรียนที่สาขานั้น ๆ หรือไม่ ผู้สมัครจึงต้องเตรียมตัวให้ดี เพราะถือว่าเป็นด่านสุดท้ายก่อนที่มหาวิทยาลัยจะรับเข้าเป็นนักศึกษา
การไปเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกามักขึ้นชื่อในด้านธุรกิจ การบริหาร แต่ก็ไม่ใช่ว่าการเรียนต่อด้านกฎหมาย หรือด้านศิลปะนั้นจะไม่มีชื่อเสียงเท่า เพียงแต่คนมักเลือกเรียนต่อด้านธุรกิจมากกว่าเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม แต่ละหลักสูตรก็จะมีการเรียนการสอนแตกต่างกันไปรวมถึงทั้งระยะเวลา ซึ่งส่วนมากจะเป็น 2 ปี แต่การต่อปอโทอเมริกาบางสาขาก็มีแบบ 1ปี - 1ปีครึ่งเช่นกัน คราวนี้เรามาดูหลักสูตรปริญญาโทที่อเมริกากันบ้างดีกว่าว่ามีสาขาอะไรบ้าง
MBA (Master of Business Administration) สำหรับสายบริหารธุรกิจ เน้นการเรียนการสอนแบบภาพรวมให้ผู้เรียนนำไปต่อยอดในด้านต่าง ๆ ของสายอาชีพได้ ขนาดห้องเรียนจะไม่เกิน 15 คน เน้นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและทำความรู้จักมากกว่า โดยวิชาที่เรียนก็จะมี
MSc (Master of Science) สำหรับสายนี้จะมุ่งเน้นไปที่วิชาใดวิชาหนึ่งโดยเฉพาะ ไม่ได้เน้นเรียนภาพรวมเหมือนหลักสูตร MBA และขนาดห้องเรียนจะมีขนาดใหญ่กว่าสายบริหารเพราะเน้นปฏิบัติมากกว่าแต่ก็ยังต้องศึกษาทฤษฎีอยู่ ได้แก่
MFA (Master of Fine Arts) สายนี้มุ่งเน้นไปทางศิลปะต่าง ๆ จะไม่เน้นเรียนทฤษฎีเท่าไหร่ แต่เน้นพัฒนาไอเดียผลงานของผู้เรียน แนะนำแนวทางการต่อยอดของผลงานและการฝึกฝนในการทำงาน
การสมัครเข้าเรียนต่อปริญญาโทอเมริกานั้นไม่ยาก หากว่าคุณมีเอกสารที่ทางมหาวิทยาลัยต้องการครบแล้วก็สามารถทำการยื่นสมัครโดยตรงได้เลย เพียงแต่ควรยื่นก่อนปิดรับสมัครอย่างน้อย 6-7 เดือน และแน่นอนว่าหลายคนคงมีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเรียนปริญญาโทที่อเมริกา เราจึงรวบรวมคำถามที่พบบ่อยมาเพื่อไขข้อข้องใจให้หลาย ๆ คน
หากคุณกลัวว่าเกรดตอนปริญญาตรีไม่ถึงเกณฑ์ เราขอแนะนำโปรแกรม Pathway หรือ Pre-Master ตัวช่วยที่จะทำให้โอกาสการไปเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกามีมากขึ้น โปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมที่จะช่วยปรับพื้นฐานก่อนเรียนให้กับให้ผู้เรียนที่มีคุณสมบัติไม่ตรงตามเกณฑ์การรับตรง ได้เรียนต่อปอโทตามที่ตั้งใจ ส่วนมากจะใช้เวลาเรียนแค่ 1 ปี การเตรียมเอกสารก็จะน้อยกว่าแบบรับตรงซึ่งได้แก่
ผู้ที่สนใจเรียนต่อปริญญาโทอเมริกาสามารถเริ่มได้ตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆ ไปจนถึง 40 ปี แต่ในบางมหาลัยอาจจำกัดอายุไม่เกินที่ 45 ปี หรือไม่จำกัดอายุเลยก็มีเช่นกัน
หลายคนคงสงสัยข้อนี้ไม่น้อย เพราะเชื่อว่าทุกคนคงอยากมีเงินเก็บเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างที่เรียนกัน หากคุณถือวีซ่า F-1 คุณสามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ โดยมีกำหนดชั่วดมงการทำงานอยู่ที่ ไม่เกิน 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ การทำงานพาร์ทไทม์นี้จะต้องเป็นการทำงานภายในมหาวิทยาลัยเท่านั้น และจะได้รับค่าแรงขั้นต่ำตามที่กฎหมายชองรัฐนั้น ๆ บังคับ
แน่นอนว่าสามารถทำได้ โดยการทำงานหลังเรียนจบจะถือว่าเป็นการฝึกงานหรือที่เรียนกันว่า OTP (Optional Practical Training) ซึ่งการ OPT จะมีรูปแบบดังนี้
การเรียนต่อปริญญาโทอเมริกานั้นไม่จำเป็นต้องมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ทุกอย่างก็ได้ เพราะมหาลัยที่มี pathway หรือ pre-master program นั้นมีมากมาย สามารถช่วยให้เราเข้าเรียนต่อโทด้านที่ต้องการได้อย่างสบาย เราขอเสนอ 5 รายชื่อมหาวิทยาลัยที่มีโปรแกรมนี้ พร้อมทั้งแบ่งตามสาขาที่มีชื่อเสียง
หากตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทอเมริกา เลือกสาขาและมหาวิทยาลัยแล้วแต่คุณสมบัติบางอย่างไม่ตรงตามเกณฑ์ก็หายห่วงได้ เพราะปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยและสถาบันหลายแห่งที่มีโปรแกรม pathways และใช้เวลาไม่นาน ยิ่งหากเกรดเฉลี่ยหรือผลสอบวัดระดับอย่างใดอย่างหนึ่งดี ก็ไม่ต้องใช้เวลาเรียนถึง 1 ปี
ที่เหลือก็แค่เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเรียน การปรับตัวทั้งด้านการใช้ชีวิตในสังคมใหม่ ๆ อาหารการกิน และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอเมริกา
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที