20ข้อต้องรู้ เรื่องร้อยไหม

หลักๆ แล้ว การร้อยไหม จะช่วยใน 3 ด้าน ดังนี้ค่ะ

• ยกกระชับ ช่วยให้หน้าเรียวตึง มีกรอบหน้าที่ชัดเจน แก้มไม่หย่อนคล้อย เนื่องจากการร้อยไหมคือการนำเส้นไหมเข้าไปใต้ผิวหนัง ให้เส้นไหมเกี่ยวเนื้อเยื่อและยกใบหน้าให้ตึงขึ้นมา
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ช่วยให้ผิวแน่นและเต่งตึง เพราะการที่เส้นไหมถูกเกี่ยวขึ้นที่ชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น
• ผิวกระชับ หน้าแน่น ลดเหนียง

การร้อยไหมไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้ผลที่น่าพอใจเหมือนกันหมด เพราะร้อยไหมจะเหมาะกับคนมีอายุ 25 ปีขึ้นไป เนื่องจากผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อยไม่เต่งตึง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเสื่อมสภาพของคอลลาเจนใต้ผิวหนัง หรือไม่ได้บำรุงใบหน้าดีเท่าที่ควร ทำให้ผิวหลวม ไม่แน่น จนหย่อนคล้อยในที่สุด อาจทำให้หน้าไม่กระชับเท่าที่ควร และหากเป็นคนที่อายุเยอะมากๆ ที่ผิวไม่มีความแข็งแรงเพียงพอ ในการสร้างคอลลาเจนขึ้นมารอบๆ ตัวไหมได้ ก็จะไม่เห็นผลเท่าที่ควรค่ะ

การร้อยไหมเหมาะกับคนที่มีปัญหาริ้วรอย ผิวหน้าหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัดเจน แก้มพอง และมีกระเปาะแก้ม  เพราะหลักการทำงานของการร้อยไหม คือการทำให้ผิวสร้างคอลลาเจนขึ้นมาพันรอบๆ เส้นไหม แล้วก็ช่วยผยุงผิว ให้กระชับขึ้นค่ะ

เส้นไหมโดยทั่วไปที่ใช้ในการ ร้อยไหม แบ่งออกเป็น 2 ประเภท และมีวัตถุประสงค์การใช้แตกต่างกันดังนี้ค่ะ

• ไหมเรียบ หรือไหม PDO จะมีลักษณะเป็นเส้นไหมสั้นๆ ความยาวไม่เกิน 10 เซนติเมตร ตัวเส้นไหมจะเรียบ ไม่มีเงี่ยงแยกออกมา
• ไหมก้าง หรือไหมเงี่ยง จะมีลักษณะเส้นที่ค่อนข้างใหญ่ เส้นไหมจะเป็นเงี่ยง จะมีทั้งรุ่นเงี่ยง 1 ทิศทางและ 2 ทิศทาง ซึ่งเงี่ยงจะช่วยในการล็อคเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง และพยุงให้ยกตึงยิ่งขึ้น

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการ ร้อยไหม เรียบและไหมก้าง โดยปกติสามารถทำพร้อมกันในครั้งเดียวได้ เพราะไหมทั้ง 2 ชนิดจะช่วยเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกัน

อาการบวมอาจเป็นผลข้างเคียงร้อยไหมที่เกิดขึ้นได้ปกติค่ะ โดยจะบวมหลังจากร้อยไหม 3-4 ชั่วโมง อาจบวมมากหรือน้อยหรือไม่มีเลย จะขึ้นอยู่กับเทคนิคของคุณหมอโดยตรง รวมถึงชนิดและจำนวนของไหมและลักษณะเฉพาะของคนไข้แต่ละคนด้วยค่ะ ซึ่งโดยปกติแล้วคุณหมอที่ Sowon Clinic จะแนะนำด้านการประคบหลัง ร้อยไหม ให้ทุกเคส ถ้าประคบอย่างสม่ำเสมอและถูกจุดจะบวมและช้ำน้อยมากๆ จนมองแทบไม่ออกเลยค่ะ

หลายคนคงสงสัยว่าร้อยไหม กี่วันเห็นผล? ต้องรอนานไหม? ความจริงแล้วการร้อยไหมสามารถเห็นผลได้ทันทีหลังทำ จากนั้นจะค่อยๆ เห็นผลชัดเจนขึ้นตามลำดับ และใบหน้าจะเข้าที่ได้รูปชัดเจนที่สุดในช่วงประมาณ 1 เดือนค่ะ

มีหลากหลายเสียงที่บอกว่าไปร้อยไหมมาแล้ว ทำไมไม่เห็นผล จริงๆ แล้วร้อยไหมเป็นหัตถการที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนทันทีหลังทำ หากต้องการร้อยไหมให้เห็นผล การเลือกคุณหมอที่มีประสบการณ์สำคัญมากๆ เพราะคุณหมอจะต้องเป็นคนกำหนดประเภทของไหมและจำนวนเส้นไหมให้ถูกต้อง ประกอบกับใช้เทคนิค กำหนดทิศทาง แรงดึง ร้อยไหม ให้เหมาะสม เห็นผลที่สุดตามปัญหาที่ต้องการจะแก้ไขในส่วนต่างๆ ของใบหน้า  ทำให้บริเวณที่หย่อนคล้อยกลับมาตึงกระชับ เรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติทันทีค่ะ

ต้องทำความเข้าใจว่าร้อยไหม นอกจากจะช่วยดึงผิวให้ยกกระชับและยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ซึ่งพังผืดใต้ผิวหนังก็คือแผลเป็นใต้ผิวหนังเกิดจากการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังนั่นเองค่ะ และการสร้างพังผืดใต้ผิวหนังในตำแหน่งที่เหมาะสมนั้นจะทำให้ผิวภายนอกดูเปล่งปลั่ง ตึงกระชับ

*ระวัง* ในกรณีที่แพทย์ ร้อยไหม ไม่มีประสบการณ์หรือทำผิดวิธี เช่น ร้อยไหม เข้าไปตื้นเกินไปจะทำให้เกิดพังผืดที่ไม่พึงประสงค์ในบริเวณผิวหนังชั้นบนขึ้นได้ ทำให้มองเห็นเป็นคลื่นๆ บนผิวด้านนอกคล้ายแผลเป็น

ทั้งสองสาเหตุนี้เกิดจากแพทย์มีความเชี่ยวชาญไม่พอค่ะ

รอยบุ๋ม เกิดจากการที่แพทย์อาจดึงเส้นไหมตึงเกินไปในขณะที่ร้อย ผิวที่ถูกดึงตึงมาก ๆ จึงบุ๋มลงไปจนเป็นร่อง และเสี่ยงต่อการทำให้เส้นไหมขาดง่ายเวลาขยับกล้ามเนื้อบนในหน้าแรงเกินไปด้วย

รอยนูน เกิดจากการที่แพทย์ร้อยไหมเข้าไปใต้ผิวหนังตื้นเกิน ปกติแล้วการร้อยไหมจะต้องร้อยเข้าไปใต้ชั้นไขมันซึ่งเป็นที่อยู่ของคอลลาเจน เมื่อแพทย์ร้อยตื้นเกินไปจึงทำให้เห็นเส้นไหมนูนออกมา หรือที่หลายคนเห็นว่าเป็นรอน เป็นคลื่นนั่นเองค่ะ

สำหรับคนที่แก้มตอบรู้สึกว่าตัวเองหน้าโทรม หน้าแก่ ร้อยไหมสามารถแก้ได้ค่ะ สำหรับคนที่มีแก้มมีความหย่อนคล้อย เนื้อแก้มส่วนล่างมาก ใช้การร้อยไหมก้างปลา ช่วยดึงยกกระชับแก้มที่หย่อน ทำให้แก้มด้านข้างเต็มขึ้น ลดแก้มตอบได้

ได้ค่ะ แต่ว่าเป็นจะไม่ค่อยแนะนำให้ทำ เพราะเป็นการแก้ปัญหาแบบไม่ตรงจุด และทำให้ผลลัพธ์ไม่ค่อยสวยค่ะ เพราะเนื้อบริเวณร่องแก้มที่เราดึงไปจะไปอยู่บริเวณตรงโหนกแก้ม แล้วทำให้หน้าดูเหลี่ยมขึ้น โหนกใหญ่ขึ้น แนะนำให้แก้ปัญหาร่องแก้มด้วยการเติมฟิลเลอร์ดีกว่าค่ะ

ร้อยไหมสามารถทำควบคู่กับ โบท๊อกซ์ (Botox) และเมโสแฟต (meso fat) ได้ค่ะ ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เนื่องจากทำงานกันคนละอย่างและคนละชั้นผิว สามารถทำพร้อมกันได้ในวันเดียวกันได้เลย ซึ่งจะมีข้อที่ตรงที่ทั้ง 2 จะช่วยเสริมผลลัพธ์ซึ่งกันและกัน ให้หน้าเรียว เป๊ะ มากขึ้น

ร้อยไหม สามารถช่วยลดและกระชับเหนียงได้จริงค่ะ โดยจะใช้ไหมเรียบในการร้อย ซึ่งไหมละลายสามารถกระตุ้นให้ร่างกายเราสร้าง elastin ทำให้ผิวบริเวณที่ร้อยเกิดการหดกระชับได้ และถ้าร้อยในชั้นไขมันจะช่วยเร่งการสลายไขมันจึงเป็นการเก็บไขมันบริเวณเหนียง และยกผิวหนังที่หย่อนคล้อยให้หน้าเรียว เหนียงหายได้ค่ะ

• ร้อยไหมก้าง มีฤทธิ์ในการยกกระชับดึงใบหน้าให้เรียวตึง อยู่ได้นาน 8 เดือน – 1 ปี ซึ่งการร้อยไหมก้างทั่วไปสามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปี หากเป็นไหม Diamond จะสามารถอยู่ได้นานตั้งแต่ 2-5 ปี ซึ่งทำให้ลดอัตราการร้อยซ้ำได้ค่ะ
• ร้อยไหมเรียบ มีฤทธิ์ช่วยให้ผิวแน่นเฟิร์ม กระตุ้นการสร้างคอลเลาเจนใต้ผิว อยู่ได้นาน 4 – 6 เดือน

หลังร้อยไหมควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด งดสูบบุหรี่ งดนวดหน้าหรือทรีทเม้นต์ ในระยะ 14 วันหลังทำ หรืออย่างน้อย 48 ชม. เพื่อลดอาการบวม ป้องกันการอักเสบ โดยเฉพาะบุหรี่และแอลกอฮอล์ที่เป็นตัวการทำร้ายผิวให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้นค่ะ

เนื่องจากเส้นไหมที่ใช้ร้อยไหมเป็นไหมละลาย ซึ่งตัวไหมจะเริ่มละลายที่ 1 เดือน และละลายหมดที่ 3 เดือน และยังออกฤทธิ์ต่อเนื่องตามชนิดของไหม และการดูแลตนเอง ดังนั้นจึงไม่เป็นอันตรายค่ะ หากพบว่าปัญหาเริ่มกลับมาและรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มหย่อนคล้อยไม่เต่งตึงแล้วสามารถกลับมาร้อยได้เลยค่ะ

ที่ Sowon Clinic ราคาร้อยไหมจะอยู่ที่ 7,900 บาทค่ะ โดยเราคัดสรรเส้นไหมที่ได้มาตรฐานสากล ปลอดภัย ผ่านการรับรองจาก อย. พร้อมกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ที่จะช่วยวิเคราะห์ประเมินปัญหาบนใบหน้าและแก้ไขได้อย่างตรงจุด ทำให้หลังจากร้อยไหม แล้วคนไข้จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันทีและชัดเจนที่สุด

สุดท้ายแล้ว ร้อยไหม เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่อยากแนะนำให้ทำจริงๆ สำหรับคนที่มีปัญหาในข้างต้น หากต้องการ ร้อยไหม แต่ยังลังเลกลัวจะไม่เห็นผลอยู่ บอกเลยว่าไม่ต้องกังวลเลยค่ะ ที่ Sowon Clinic เรามีบริการร้อยไหมโดย คุณหมอมากประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ หากสนใจอยากปรึกษาเพิ่มเติม ทักมาได้เลยค่ะ เราพร้อมให้คำปรึกษาฟรี การันตีด้วยรีวิว รับรองได้เลยว่าเห็นผลตามที่ต้องการแน่นอน