Cassie

ผู้เขียน : Cassie

อัพเดท: 30 มิ.ย. 2022 14.05 น. บทความนี้มีผู้ชม: 447 ครั้ง


สำหรับใครที่สนใจอยากลองเปิดคาเฟ่เป็นของตัวเอง ต้องบอกเลยว่า ?ตู้แช่เค้ก? นั้นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหนึ่งชิ้นที่เราจะขาดไปไม่ได้เลย เพราะนอกจากจะช่วยให้เราสามารถรักษาความสดใหม่ของเค้กหรือเบเกอรี่ได้ดีกว่าการใช้ตู้เย็นทั่วไปแล้ว การได้เห็นเค้กของจริงในตู้ยังช่วยดึงดูดให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าจากร้านของเราได้ง่ายและรวดเร็วมากกว่าการดูรูปในเมนู
และเพื่อเป็นการพาว่าที่ผู้ประกอบการร้านคาเฟ่ไปทำความรู้จักกับเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนี้กันให้มากขึ้น วันนี้เราจึงได้ลองรวบรวม 3 วิธีเลือกตู้แช่เค้กให้ตอบโจทย์กับร้านค้ามาบอกต่อทุกคนกัน ส่วนรายละเอียดทั้งหมดจะเป็นยังไง ถ้าใครพร้อมแล้ว อย่ามัวรอช้า รีบตามไปดูกันเลย


3 เคล็ดลับในการเลือกตู้แช่เค้กให้คุ้มค่ามากที่สุด

สำหรับใครที่สนใจอยากลองเปิดคาเฟ่เป็นของตัวเอง ต้องบอกเลยว่า “ตู้แช่เค้ก” นั้นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหนึ่งชิ้นที่เราจะขาดไปไม่ได้เลย เพราะนอกจากจะช่วยให้เราสามารถรักษาความสดใหม่ของเค้กหรือเบเกอรี่ได้ดีกว่าการใช้ตู้เย็นทั่วไปแล้ว การได้เห็นเค้กของจริงในตู้ยังช่วยดึงดูดให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าจากร้านของเราได้ง่ายและรวดเร็วมากกว่าการดูรูปในเมนู

และเพื่อเป็นการพาว่าที่ผู้ประกอบการร้านคาเฟ่ไปทำความรู้จักกับเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนี้กันให้มากขึ้น วันนี้เราจึงได้ลองรวบรวม 3 วิธีเลือกตู้แช่เค้กให้ตอบโจทย์กับร้านค้ามาบอกต่อทุกคนกัน ส่วนรายละเอียดทั้งหมดจะเป็นยังไง ถ้าใครพร้อมแล้ว อย่ามัวรอช้า รีบตามไปดูกันเลย

 

 

เลือกจากวัสดุของตู้

 

         เวลาที่เราเลือกซื้อสินค้าอะไรสักชิ้น แน่นอนว่าเราก็ย่อมต้องอยากให้สินค้าชิ้นนั้นอยู่กับเราได้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่นเดียวกันกับ ตู้แช่เค้ก ที่หากเราซื้อตู้ที่ทำจากวัสดุที่ไม่มีความคงทน แน่นอนว่าโอกาสที่เครื่องจะพังไวก็ย่อมมีสูงกว่าการที่เราเลือกตู้เค้กที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงตั้งแต่แรก โดยในบรรดาตู้แช่ทั้งหมดที่มีวางขายตามท้องตลาดทั่วไป ตู้แช่สเตนเลสนับว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์เรื่องความคงทนได้มากที่สุด เพราะทนสนิมถึงแม้จะผ่านการใช้งานมานาน

 

นอกเหนือไปจากวัสดุที่นำมาผลิตตู้แล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่เราควรให้ความสำคัญก็คือประเภทกระจกของตู้แช่เค้ก ซึ่งหากเป็นไปได้เราอยากจะให้ทุกคนเลือกตู้ที่มีกระจกสองชั้นเพราะสามารถช่วยป้องกันการเกิดฝ้าไอน้ำได้ดีกว่าตู้ที่มีกระจกเพียงชั้นเดียวที่มักจะมีฝ้าไอน้ำขึ้นจนทำให้ลูกค้ามองเห็นเค้กหรือเบเกอรี่ของเราได้ไม่ชัดเจน

 

เลือกจากจำนวนและประเภทของสินค้า

 

         ในปัจจุบันเราสามารถแบ่งความกว้างหน้าตู้ออกได้เป็น 6 ขนาด ได้แก่ 70, 90, 100, 120, 150 และตู้สั่งทำพิเศษ โดยวิธีเลือกตู้แช่ให้เหมาะสมคือการเลือกซื้อตู้ตามจำนวนของสินค้าที่เราจำหน่าย หากร้านไหนมีเค้กหรือเบเกอรี่หลายเมนู เราก็อาจจะต้องเลือกตู้ที่มีขนาดใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันหากร้านของเรามีเค้กหรือเบเกอรี่เพียงไม่กี่ชิ้น การเลือกตู้ที่มีขนาดเล็กถือว่าเป็นตัวเลือกที่จะช่วยให้เราสามารถประหยัดทั้งพื้นที่และค่าไฟได้อย่างตรงจุด

 

เลือกระบบทำความเย็นให้เหมาะสม

 

         การเลือกตู้ที่มีระบบทำความเย็นเหมาะสมกับการเก็บเค้กหรือเบเกอรี่นั้นนับว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เราควรจะใส่ใจ เพราะหากเราเลือกตู้แช่เค้กที่มีระบบทำความเย็นไม่มีเหมาะสมกับการเก็บเค้กหรือเบเกอรี่ สินค้าของเราก็อาจจะเสียรูป หรืออาจจะแข็งเกินไปจนทำให้เสียรสชาติได้ โดยระบบทำความเย็นที่เหมาะกับการเก็บอาหารประเภทเค้กหรือเบเกอรี่นั้นจะต้องเป็นตู้ที่มีระบบควบคุมความเย็นแบบดิจิตอลที่มีเราสามารถปรับอุณหภูมิได้เอง และมีสเกลความเย็นหลายระดับเพื่อให้เราสามารถเก็บเค้กหรือเบเกอรี่ที่ต้องการอุณหภูมิต่างกันไว้ในตู้ได้

 

 

 

 

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที