btu คือ หน่วยที่ใช้วัดค่าของพลังงานความร้อนตามมาตรฐานสากลที่มีการใช้ในระบบเครื่องเย็นและเครื่องปรับอากาศ ถ้าต้องการอธิบายให้เข้าใจมากขึ้น BTU ก็คือหน่วยวัดค่าความเย็นของแอร์ หรือหน่วยที่ใช้หาปริมาณความร้อนในระบบเครื่องทำความเย็น โดยหน่วยที่นิยมใช้เปรียบเทียบกับ BTU คือ “ตัน”โดย 1 ตันจะเท่ากับ 12,000 BTU ต่อชั่วโมง เมื่อทราบความหมายของหน่วย BTU ก็จะสามารถเลือกใช้ขนาดของ BTU แอร์ให้เหมาะกับพื้นที่สำหรับติดแอร์ได้อย่างถูกต้อง
การเลือกใช้ BTU ให้เหมาะสมนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงานและยืดอายุการใช้งานของแอร์ ในกรณีที่ขนาดแอร์ BTU มากจะช่วยให้การสร้างความเย็นมีมากขึ้นและทำให้แอร์ทำความเย็นในพื้นที่ที่กว้างกว่าเดิมได้ แต่ถ้าขนาดแอร์ BTUนั้น น้อยเกินไปไม่เหมาะกับขนาดของพื้นที่จะส่งผลให้มีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น ทำความเย็นได้ไม่พอ แอร์ชำรุดได้ง่ายและใช้พลังงานสูงขึ้น โดยหมายความว่าค่าไฟจะมากขึ้นนั่นเอง
ถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากสำหรับการเลือก BTU (บีทียู) แอร์ โดยเลือกขนาดแอร์ btu ให้พอดีกับขนาดพื้นที่ที่ต้องการติดตั้งจะช่วยให้แอร์ทำความเย็นได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้แอร์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้นและช่วยประหยัดไฟอีกด้วย ถ้าใช้ขนาด BTU แอร์ที่ไม่เหมาะสมจะทำให้มีปัญหาหลายอย่างตามมาได้ เช่น แอร์เสีย แอร์ต้องใช้พลังงานมากขึ้น เป็นต้น ดังนั้นการเลือกขนาดบีทียูจึงมีความจำเป็นและควรมีการคำนวณขนาด BTU แอร์ สำหรับการติดตั้ง ถ้าติดตั้งแอร์ซึ่งมีขนาดบีทียูสูงเกินไป เช่น ห้องหนึ่งต้องการใช้เครื่องปรับอากาศขนาด 36,000 BTU แต่ถ้าติดตั้งแอร์ขนาด 30,000 BTU จะส่งผลให้อุณหภูมิภายในห้องลดลงอย่างรวดเร็ว และเย็นมากเกินไปซึ่งทำให้คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานอย่างหนักทำให้แอร์มีอายุการใช้งานที่น้อยลง
แต่ถ้าห้องมีพื้นที่ขนาดกว้างและมีแสงแดดส่องมาที่ห้องเสมอ จะต้องเลือกใช้ขนาดบีทียูแอร์มากกว่าปกติ เพราะถ้าติดตั้งแอร์ซึ่งมีบีทียูน้อยเกินไป จะทำให้ไม่สามารถทำความเย็นได้ตามที่ต้องการและแอร์จะทำงานหนักมากขึ้น เนื่องจากไม่สามารถทำความเย็นได้ตามอุณหภูมิที่มีการตั้งค่าไว้ส่งผลให้ใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลืองและอายุการใช้งานของแอร์จะสั้นลง เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ขนาด BTU แอร์ให้เหมาะสมจะช่วยให้แอร์สามารถใช้งานได้ยาวนานและช่วยประหยัดพลังงานได้มากขึ้น เช่น
Btu ย่อมาจาก British Thermal Unit ซึ่งก็คือหน่วยซึ่งใช้วัดค่าปริมาณความร้อนภายในระบบเครื่องเย็นและเครื่องปรับอากาศ ความร้อน 1 BTU ก็คือการทำให้อุณหภูมิปริมาณของความร้อนซึ่งทำให้น้ำ 1 ปอนด์เพิ่มขึ้นหรือลดลงมา 1 องศาฟาเรนไฮด์
โดยหน่วยที่มีการนิยมใช้เพื่อหาปริมาณความร้อนของระบบเครื่องทำความเย็นเรียกว่า ตัน (TON) โดยแอร์ 1 ตันเท่ากับ 12,000 btu
ตัวของเครื่องปรับอากาศจะมีการวัดกำลังความเย็นหรือการถ่ายเทความร้อนให้ออกไปจากห้องปรับอากาศโดยใช้หน่วยบีทียูต่อชั่วโมง (BTU/hr) โดยจะเท่ากับหน่วยวัตต์ในระบบสากล
ตารางเปรียบเทียบการทำความเย็นระหว่างหน่วยตัน (Ton) และบีทียู (BTU)
หากห้องหนึ่งต้องการที่จะติดแอร์เพียง12,000 BTU แต่ถ้าติดแอร์ 24,000BTU ไปจะทำให้เครื่องปรับอากาศไม่สามารถทำงานได้อย่างสม่ำเสมอจะเกิดการตัดต่อบ่อยจนรู้สึกได้ว่าอุณหภูมิของห้องมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยส่งผลให้รู้สึกไม่สบายตัวเวลาอยู่ในห้องและเสียค่าไฟมากกว่าเดิม
หากขนาดของห้องควรจะติดแอร์เพียง 24,000 BTU แต่ถ้าติดแอร์12,000BTU จะทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักมากขึ้น โดยสาเหตุมาจากแอร์ไม่สามารถทำอุณหภูมิห้องได้ตามที่ตั้งไว้ส่งผลให้ทำความเย็นได้ช้าและคอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนัก ด้วยเหตุนี้ทำให้ต้องเสียค่าไฟมากกว่าเดิม
เพราะฉะนั้นต้องเลือกขนาดของแอร์ให้เหมาะสมโดยใช้การคำนวณจากหลายๆอย่าง เช่น ห้องโดนแสงแดดหรือไม่, ใช้งานแอร์เวลากลางวันหรือกลางคืน, คนอยู่ภายในห้องเยอะหรือไม่, มีการเปิดเข้า-ออกห้องตลอดหรือไม่ เป็นต้น
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที