วัตพล

ผู้เขียน : วัตพล

อัพเดท: 18 มี.ค. 2024 02.03 น. บทความนี้มีผู้ชม: 660911 ครั้ง

ผิวแห้งคัน ปัญหาคันยุบยิบที่รักษาให้หายได้


ปวดเรื้อรัง เส้นเอ็นอักเสบ ออฟฟิศซินโดรม รักษาได้ด้วย Shockwave

ช็อคเวฟ กายภาพ

เบื่อไหม? การที่ต้องทนทุกข์ทรมาณกับอาการปวดกล้ามเนื้อแบบไม่จบไม่สิ้น หรือลองพยายามใช้วิธีอื่นๆ ตามที่มีคนแนะนำแล้วก็ยังไม่ได้ผล ไม่รู้จะทำยังไง เลยทำได้แต่ใช้ชีวิตประจำวันไปพร้อมกับอาการปวดเหล่านั้น จนรู้สึกว่ามันไม่สดชื่นเอาส่ะเลย

การรักษาด้วยคลื่นกระแทก หรือ Shockwave เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เกิดขึ้นมาเพื่อให้คุณสะดวกสบายกว่าที่เคย เพราะนอกจากจะรักษาอาการปวดเรื้อรัง เส้นเอ็นอักเสบ หรือออฟฟิศซินโดรมได้แล้ว ยังทำให้คุณเห็นผลลัพธ์หลังการรักษาได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

ดังนั้น บทความนี้จะขอเสนอเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอย่างการทำ “คลื่นกระแทก” ไม่ว่าจะเป็นคลื่นกระแทกคืออะไร? มีกี่ประเภท? ประโยชน์ที่ได้รับจะมีอะไรบ้าง? รวมไปจนถึงข้อควรระวังในการทำ Shockwave ที่นี่ได้รวบรวมข้อมูลไว้ให้คุณแล้ว


คลื่นกระแทก (Shockwave) คืออะไร

คลื่นกระแทก (Shockwave) คือ เครื่องมือของศาสตร์ทางกายภาพบำบัดที่มีการใช้พลังงานทางฟิสิกส์ในคลื่นกระแทก ลดอาการปวดเรื้อรัง และกระตุ้นการทำงานของเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ เพื่อให้เกิดการซ่อมแซมตนเองที่บริเวณนั้นๆ 

โดยผู้เชี่ยวชาญที่ทำการรักษาด้วยคลื่นกระแทก จะส่งคลื่นเข้าไปยังบริเวณที่กล้ามเนื้อเกิดการตึงตัว หากผู้ที่มีอาการปวดน้อย กล้ามเนื้อไม่แข็งแกร็งมาก จะใช้จำนวนยิงประมาณ 500-1,000 ครั้ง ส่วนผู้ที่มีอาการปวดมานาน พิจารณาแล้วว่า กล้ามเนื้อมีอาการแข็งเกร็งมาก ผู้เชี่ยวชาญจะใช้จำนวนยิงประมาณ 1,000-5,000 ครั้ง


การรักษาด้วยคลื่นกระแทก (Shockwave Therapy)

ช็อคเวฟ คลื่นกระแทก

การรักษาด้วยคลื่นกระแทก หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Shockwave Therapy คือ การบำบัดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยผู้เชี่ยวชาญจะใช้เครื่องช็อคเวฟส่งคลื่น Shockwave Flash เข้าไปยังบริเวณที่เกิดอาการปวด คลื่นกระแทกจะทำการกระตุ้นให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นเกิดอาการบาดเจ็บอีกครั้ง(Re-Injuries) ส่งผลให้เนื้อเยื่อเกิดกระบวนการซ่อมแซมตนเอง(Re-Healing) ในที่สุด

การใช้ Shockwave มีจุดเด่น คือ การมีจำนวนครั้งในการรักษาน้อยกว่าวิธีกายภาพบำบัดรูปแบบอื่น สามารถช่วยลดอาการปวด ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อได้จริง อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์หลังการรักษาที่ชัดเจนและรวดเร็ว


การรักษาด้วยคลื่นกระแทกมีกี่ประเภท

การรักษาด้วยคลื่นกระแทก (shockwave therapy) มีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ Radial Shockwave และ Focus Shockwave โดยแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

1. Radial Shockwave

คลื่นช็อคเวฟแบบ Radial Shockwave เป็นการทำช็อคเวฟที่แผ่กระจายพลังงานออกเป็นมุมกว้าง จึงทำให้เมื่อผ่านชั้นเนื้อเยื่อลงไปแล้ว พลังงานของคลื่นจะค่อยๆลดลงตามความลึกที่เข้าไปถึง

2. Focus Shockwave

คลื่นช็อคเวฟแบบ Focus Shockwave เป็นการทำช็อคเวฟแบบเฉพาะจุด กล่าวคือ จะมีการส่งพลังงานลงไปเฉพาะจุดที่ต้องการ ทำให้พลังงานจากคลื่นช็อคเวฟลงไปยังชั้นเนื้อเยื่อได้ลึกกว่า


ประโยชน์ของการรักษาด้วยคลื่นช็อคเวฟ

เครื่องช็อคเวฟ คลื่นกระแทก

คลื่นกระแทก เป็นการรักษาที่ส่งคลื่นพลังงานลงไปถึงระดับเนื้อเยื่อ ประมาณ 3-4 เมตร ทำให้ประโยชน์ส่วนใหญ่จะเป็นผลกับเนื้อเยื่อโดยตรง ซึ่งมีประโยชน์มากมาย ดังนี้


Shockwave ช่วยรักษาอาการอะไรได้บ้าง

Shockwave ข้อห้าม

คลื่นกระแทก (Shockwave) สามารถช่วยรักษาได้ 3 อาการหลักๆ ดังนี้

1. อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง

อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เป็นอาการปวดที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน รักษาให้หายขาดได้ยากในวิธีการอื่นๆ ส่วนใหญ่มักเกิดจากการที่ใช้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นผิดท่าทางเป็นระยะเวลานาน หรือเกิดขึ้นซ้ำๆ ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นปวดไม่หาย จนกลายมาเป็นอาการปวดเรื้อรัง หรือมีการหดตัวเกิดขึ้น 

โดยอาการที่มักพบบ่อยๆ เช่น การเป็นพังผืดทับเส้นประสาท ปวดสะโพกร้าวลงขา ปวดร้าวอย่างมากบริเวณสะบักหลัง เป็นต้น

2. อาการออฟฟิศซินโดรม

อาการออฟฟิศซินโดรม เป็นอาการที่มักพบบ่อยในกลุ่มวัยทำงาน โดยเฉพาะอาชีพพนักงานออฟฟิศ ซึ่งเป็นอาชีพที่ต้องนั่งทำงานอยู่กับที่เป็นระยะเวลานาน ไม่ค่อยได้ลุกเดินเพื่อยืดกล้ามเนื้อ และในบางรายอาจเป็นออฟฟิศซินโดรมได้ เนื่องจากพฤติกรรมการนั่งผิดท่า จนเกิดการปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง หรือข้อมือขึ้น  

3. อาการเส้นเอ็นอักเสบ

อาการเส้นเอ็นอักเสบ เป็นอาการที่เกิดจากการใช้งานบริเวณนั้นมากจนเกินไป ก่อให้เกิดความตึงเครียดที่เส้นเอ็นขึ้น เมื่อเส้นเอ็นเกิดความตึงเครียดมากๆ จะส่งผลให้บริเวณนั้นเกิดอาการปวดและอักเสบ 

โดยอาการที่เกิดขึ้นได้ เช่น เอ็นข้อมืออักเสบ เอ็นหัวไหล่อักเสบจากหินปูนเกาะ เอ็นเข่าอักเสบ ปลอกหุ้มเส้นเอ็นข้อมืออักเสบ เอ็นร้อยหวายอักเสบ และเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ เป็นต้น


ผู้ที่เหมาะกับการรักษาด้วย Shockwave

การรักษาด้วยคลื่นกระแทก (Shockwave) เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการ ดังต่อไปนี้


เตรียมตัวอย่างไรก่อนเข้ารักษาด้วยคลื่น Shockwave 

หลายๆคนอาจมีข้อสงสัยว่า ถ้าต้องการเข้ารับการรักษาโดยใช้คลื่นกระแทกจะต้องเตรียมอะไรไปบ้าง ในพาร์ทนี้ เราจะมาแนะนำถึงวิธีการเตรียมตัว หรือสิ่งที่ควรปฏิบัติก่อนทำคลื่นช็อคเวฟกัน ซึ่งจะมีดังต่อไปนี้

กระบวนการรักษาด้วย Shockwave 

ช็อคเวฟกายภาพ ราคา

กระบวนการรักษาด้วย Shockwave มีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. แพทย์หรือนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญจะพูดคุยเพื่อสอบถามอาการต่างๆที่เกิดขึ้น เช็คจุดที่รู้สึกปวด
  2. ผู้เชี่ยวชาญเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อม เพื่อเริ่มทำการกายภาพบำบัดด้วยคลื่นกระแทก
  3. เริ่มทำการรักษาด้วยคลื่นกระแทก 
  4. ส่งคลื่นกระแทกเข้าสู่ชั้นเนื้อเยื่อ บริเวณกล้ามเนื้อที่มีอาการปวด
  5. พลังงานคลื่นกระตุ้นเนื้อเยื่อให้เกิดการบาดเจ็บอีกครั้ง
  6. เนื้อเยื่อดังกล่าวเกิดการซ่อมแซมตนเองใหม่
  7. อาการปวดลดลง จากการกระตุ้นให้ร่างกายลดปริมาณสารสื่อประสาทที่ส่งสัญญาณความเจ็บปวดและหลั่งสารลดความเจ็บปวด

การดูแลตัวเองหลังการทำ Shockwave

การดูแลตนเองควบคู่ไปกับการเข้ารับการรักษาด้วยคลื่นกระแทกก็สำคัญเช่นกัน เมื่อคุณได้รับการกระตุ้นด้วยคลื่นกระแทกจนเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไป เราก็จะมาบอกเคล็ดลับในการดูแลตนเองหลังจากทำเสร็จ เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดีๆในการลดความเจ็บปวดนั่นเอง ซึ่งคุณสามารถทำวิธีการต่างๆได้ ดังนี้


ผลลัพธ์ที่ได้และระยะเวลาการรักษา

การทํา shockwave ราคา

โดยปกติแล้ว การรักษาด้วยคลื่นกระแทก (Shockwave) จะมีระยะเวลาในการรักษาอยู่ที่ประมาณ 2-5 ครั้ง ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการบริเวณกล้ามเนื้อนั้น ซึ่งการรักษารูปแบบนี้ จะมีการเว้นระยะห่างประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นฟู ซ่อมแซมตนเองหลังจากที่ได้รับการกระตุ้นให้เกิดการบาดเจ็บซ้ำนั่นเอง

ผู้ที่มีระดับความรุนแรงของอาการกล้ามเนื้อน้อย ก็มักจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้หลังการรักษาทันที ส่วนผู้ที่มีระดับความรุนแรงมาก หรือมีอาการปวดเรื้อรังมานาน อาการปวดอาจไม่ได้หายไป แต่จะสามารถรู้สึกได้ว่าความรุนแรงเบาลงจากการทำคลื่นกระแทกในครั้งแรก


ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากคลื่น Shockwave

ถึงแม้ว่าการรักษาด้วยคลื่นกระแทก (shockwave therapy) จะมีข้อดีมากมาย อย่างการรักษาอาการปวดเรื้อรังได้ เห็นผลลัพธ์ได้เร็ว ใช้เวลาในการรักษาไม่นานนัก ฯลฯ แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นกับการใช้คลื่นช็อคเวฟได้ ดังนี้

โดยปกติแล้ว อาการเหล่านี้สามารถหายได้ด้วยตนเอง ภายใน 5-10 วัน คุณควรสังเกตอาการอย่างต่อเนื่อง หากเลยระยะเวลาดังกล่าว ควรรีบเข้าพบผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำแนะนำ


ข้อห้ามในการรักษาด้วยคลื่น Shockwave

เครื่องช็อคเวฟ

การทำคลื่นกระแทก (Shockwave) มีข้อควรระวังดังต่อไปนี้

ข้อควรระวังในการรักษาด้วยคลื่นกระแทก


ใครไม่เหมาะกับการทำ Shockwave

ผู้ที่ไม่เหมาะกับการทำคลื่นกระแทก (Shockwave) มีดังต่อไปนี้


รักษาด้วย Shockwave ที่ไหนดี

ช็อคเวฟ

“รักษาด้วย Shockwave ที่ไหนดี?” การเลือกสถานพยาบาลที่ดี ควรมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้

  1. สถานพยาบาลมีความสะอาด มีมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยชัดเจน
  2. มีเทคโนโลยีคลื่นกระแทกที่พร้อมใช้งาน
  3. ดูแลโดยแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความรู้ มีความน่าเชื่อถือ และมีใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง
  4. ราคามีความสมเหตุสมผลกับการบริการ
  5. เดินทางสะดวก ปลอดภัยทั้งในแง่ของการเดินทางและการบริการ

ข้อสรุป

คลื่นกระแทก(Shockwave) เป็นเทคโนโลยีทางศาสตร์กายภาพบำบัดที่ใช้พลังงานของคลื่นกระแทกในการเข้าสู่เนื้อเยื่อบริเวณที่ปวดเรื้อรัง กระตุ้นให้เกิดการบาดเจ็บซ้ำ เพื่อให้เนื้อเยื่อเริ่มกระบวนการซ่อมแซมตนเองใหม่ จึงทำให้วิธีการนี้สามารถบรรเทาอาการปวดเมื่อยเรื้อรัง ออฟฟิศซินโดรม หรือการอักเสบของเส้นเอ็นต่างๆได้ 

หากสนใจเข้ารับการรักษา ควรพิจารณาสถานพยาบาลตามคำแนะนำเบื้องต้น เพื่อที่จะได้รักษาอย่างถูกวิธี มีความปลอดภัยและไม่ทำให้อาการรุนแรงขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง


 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที