วัตพล

ผู้เขียน : วัตพล

อัพเดท: 18 มี.ค. 2024 02.03 น. บทความนี้มีผู้ชม: 672061 ครั้ง

ผิวแห้งคัน ปัญหาคันยุบยิบที่รักษาให้หายได้


สิวเม็ดข้าวสารกับสิวหิน แตกต่างกันอย่างไร มีวิธีรักษาไหม

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไม่ว่าจะอยู่ในยุคสมัยใดค่านิยมความงามโดยส่วนใหญ่ก็คือการมีใบหน้าที่เรียบเนียนปราศจากสิวหรือสิ่งแปลกปลอม นั่นจึงทำให้ผู้ที่มีสิวอยู่บนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นสิวชนิดใดก็ตาม ล้วนหมดความมั่นใจไปตาม ๆ กัน

โดยเหล่าสิวเจ้าปัญหานี้ก็มีอยู่มากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวหัวดำ สิวไม่มีหัว สิวหัวหนอง สิวหิน สิวข้าวสาร รวมไปถึงสิวเสี้ยน ซึ่งสิวแต่ละชนิดก็จะมีลักษณะและสาเหตุการเกิดที่แตกต่างกันออกไป หรือในบางชนิดอาจบ่งบอกได้ถึงสุขภาพร่างกายได้อีกด้วย

และในบทความนี้เราจะมาพูดกันถึงสิวเม็ดข้าวสาร หรือที่บางคนอาจเรียกกันว่าสิวข้าวสารนั่นเอง โดยเราจะได้ทำความรู้จักทั้งลักษณะหน้าตา บริเวณที่มักจะเกิด หรือแม้แต่วิธีในการดูแลรักษาสิวข้าวสาร

สิวเม็ดข้าวสารกับสิวหินแตกต่างกันอย่างไร มีวิธีรักษาไหม

สิวหัวข้าวสาร คือ (Milia)

สิวหัวข้าวสาร หรือสิวข้าวสารคือสิวที่สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย แม้แต่เด็กทารกแรกเกิดก็สามารถพบเจอสิวหัวข้าวสารได้เช่นกัน โดยสิวหัวข้าวสารนั้นสามารถที่จะหายไปเองได้ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือนเท่านั้น 

แต่ในกรณีที่เป็นสิวเม็ดข้าวสารมานานเกินกว่า 3 เดือนขึ้นไปนั้นอาจจำเป็นที่จะต้องเข้าพบแพทย์เพื่อทำการตรวจและรักษาอย่างถูกวิธีต่อไป

โดยลักษณะหน้าตาของสิวหัวข้าวสารนั้นจะเป็นสิวที่มีขนาด 1-2 มิลลิเมตร มีลักษณะเป็นเม็ดแข็ง และมีสีขาว หรือในบางครั้งก็อาจมีสีเหลืองได้เช่นกัน 

สิวเม็ดข้าวสาร ไม่ใช่สิวหิน

หลาย ๆ คนอาจมีความเข้าใจที่ผิดว่าสิวเม็ดข้าวสารและสิวหินเป็นสิวชนิดเดียวกัน ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่เลย ทั้งสิวข้าวสารและสิวหินนั้นเป็นสิวคนละชนิดกัน โดยแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้างนั้นเรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลย

สิวเม็ดข้าวสาร (Milia)

สิวหัวข้าวสารเป็นซีสต์ไขมันใต้ผิวหนังที่ได้มีการสะสมของเคราตินอยู่ภายใน โดยจะมีขนาดประมาณ 1-2 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย และมักจะเกิดขึ้นในบริเวณใบหน้า แก้ม หน้าผาก จมูก หรือเปลือกตา นอกจากนี้ในบางคนอาจมีอาการคันร่วมด้วย

สิวเม็ดข้าวสาร

สิวหิน (Syringoma) 

สิวหินเป็นเนื้องอกของต่อมเหงื่อ โดยจะมีขนาดประมาณ 1-3 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถพบได้มากในคนเอเชียหรือผู้ที่มีผิวสีเข้ม ที่มีอายุอยู่ในช่วงวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้น และมักจะเกิดขึ้นในบริเวณใต้ตา เปลือกตา โหนกแก้ม จมูก หรือแผ่นหลัง ซึ่งสิวหินจะไม่มีอาการคันหรือเจ็บ

สิวหัวข้าวสารเกิดจากอะไร

สำหรับสาเหตุของสิวหัวข้าวสารเกิดจากอะไรนั้นอาจยังไม่สามารถที่จะระบุได้อย่างแน่ชัด แต่โดยส่วนใหญ่แล้วก็อาจเป็นไปได้ว่าสิวเม็ดข้าวสารเกิดจากการที่ต่อมไขมันและรูขุมขนถูกรบกวน หรือการสะสมของเส้นใยเคราตินบริเวณใต้ผิวหนัง

แต่ว่านอกจากนี้แล้วการเกิดสิวเม็ดข้าวสารก็อาจมีสาเหตุดังนี้ได้เช่นกัน

บริเวณที่มักเกิดสิวข้าวสาร

ในส่วนของบริเวณหรือตำแหน่งที่มักจะเกิดสิวหัวข้าวสารนั้นส่วนใหญ่แล้วจะพบอยู่ที่ส่วนต่าง ๆ บนใบหน้า ได้แก่ สิวเม็ดข้าวสารใต้ตา สิวเม็ดข้าวสารเปลือกตา สิวเม็ดข้าวสารแก้ม สิวเม็ดข้าวสารหน้าผาก สิวเม็ดข้าวสารจมูก และสิวเม็ดข้าวสารคาง เป็นต้น

แต่ก็ยังสามารถที่จะพบได้บนส่วนอื่น ๆ ของร่างกายหรือบริเวณที่ผิวถูกแดดเผาไหม้ เกิดการเสียดสี หรือเกิดบาดแผลต่าง ๆ ก็ได้เช่นกัน

บริเวณที่มักเกิดสิวเม็ดข้าวสาร

สิวข้าวสาร มีลักษณะแบบใดบ้าง

ในสิวเม็ดข้าวสาร หรือสิวข้าวสารนั้นจะสามารถแบ่งตามลักษณะออกได้เป็น 4 ชนิดด้วยกัน ดังนี้

สิวหัวข้าวสารแบบราบเป็นสิวที่เกิดจากการติดเชื้อ สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่มักพบได้มากในหมู่ผู้หญิงวัยกลางคน โดยสิวหัวข้าวสารแบบราบมักจะเกิดในบริเวณเปลือกตา แก้ม กราม และหลังหู ซึ่งจะมีลักษณะเป็นก้อนยาวแข็งแบบราบ

สิวหัวข้าวสารแบบแผลเป็นเป็นสิวที่เกิดจากการได้รับบาดเจ็บบริเวณผิวหนัง หรือการที่ต่อมไขมันและรูขุมขนถูกรบกวน โดยสิวหัวข้าวสารแบบแผลเป็นมักจะเกิดในบริเวณหลังมือ และนิ้วมือ

สิวหัวข้าวสารแบบแตกได้เป็นสิวที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วมักจะเกิดขึ้นในปริมาณที่มาก และจะมีอาการคันร่วมด้วย ซึ่งสิวหัวข้าวสารแบบแตกได้นั้นใช้ระยะเวลาในการรักษาที่ค่อนข้างนาน นอกจากนี้เมื่อสิวแตกแล้วก็อาจกลายเป็นแผลเป็นอีกด้วย โดยสิวหัวข้าวสารแบบแตกได้มักจะเกิดในบริเวณใบหน้า ลำตัวช่วงบน และแขนช่วงบน

สิวหัวข้าวสารที่เกิดจากยาเป็นสิวที่เกิดจากการใช้ยาบางชนิดเป็นระยะเวลานาน ๆ เช่น ยาไฮโดรควิโนน ยาฟลูออโรยูราซิล หรือครีมสเตอรอยด์

วิธีดูแลรักษาสิวเม็ดข้าวสาร

ในเมื่อสิวเม็ดข้าวสารเหล่านี้มาพรากความมั่นใจไปจากใครหลายคน หัวข้อนี้จึงจะมาแนะนำวิธีรักษาสิวเม็ดข้าวสารเพื่อที่จะกู้คืนความมั่นใจของทุกคนกลับมา แล้ววิธีรักษาสิวข้าวสารมีอะไรกันบ้างนั้น เรามาดูกันเลย!

การกดสิว

สำหรับวิธีแก้สิวเม็ดข้าวสารด้วยการกดสิวนั้นจะเป็นการใช้เข็มเจาะที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วมาเปิดหัวสิวข้าวสาร หลังจากนั้นจึงค่อยนำอุปกรณ์กดสิวมากดและรีดให้สิวหัวข้าวสารออกมาจนหมด 

โดยการรักษาสิวหัวข้าวสารด้วยวิธีนี้นั้นจำเป็นที่จะต้องให้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญทำเท่านั้น เพราะหากทำเองอาจเป็นรอยแผลหรือเกิดการติดเชื้อได้

การกดสิว

การเลเซอร์สิวข้าวสาร

การรักษาด้วยการเลเซอร์สิวข้าวสารนั้นเป็นวิธีรักษาสิวหัวข้าวสารที่รวดเร็วและมีความสะดวกมากที่สุด แต่ก็แลกมากับค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง 

โดยการเลเซอร์สิวหัวข้าวสารนั้นควรที่จะเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ รวมไปถึงมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา เนื่องจากก่อนที่จะทำการรักษาได้จำเป็นต้องตรวจสอบสภาพของผิวเสียก่อนว่าสามารถทำการเลเซอร์ได้หรือไม่

การใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว 

วิธีการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหรือโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของ AHA หรือ BHA นั้นเป็นการทำความสะอาดรูขุมขน และช่วยในการผลัดเซลล์ผิวบนใบหน้า ซึ่งจะทำให้สิวหัวข้าวสารหลุดออกมาเร็วยิ่งขึ้น 

แต่ว่าการรักษาสิวหัวข้าวสารด้วยวิธีนี้นั้นไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาค่อนข้างมาก 

รักษาความสะอาดใบหน้า

การรักษาความสะอาดบนใบหน้าก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการดูแลรักษาสิวหัวข้าวสาร เนื่องจากเป็นการขจัดเซลล์ผิว ไขมัน และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน 

โดยสามารถเลือกใช้เป็น Bioderma Sebium H2O Cleansing หรือ Bioderma Sebium Gel Moussant ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่จะช่วยทำความสะอาดได้อย่างหมดจด ควบคุมความมันบนใบหน้า และยังยับยั้งแบคทีเรียต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดสิวอีกด้วย

รักษาความสะอาดใบหน้า

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนกับผิวหน้า

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีความอ่อนโยนกับผิวหน้าก็เป็นวิธีในการรักษาสิวหัวข้าวสารเช่นกัน เนื่องจากการใช้ผลิตภัณฑ์บางชนิดที่มีส่วนผสมของสเตอรอยด์หรือสารเคมีอื่น ๆ ที่ไม่อ่อนโยนต่อผิวนั้นอาจเป็นการรบกวนต่อมไขมันและรูขุมขน หรือกระตุ้นให้เกิดสิวหัวข้าวสารขึ้นมาได้

โดยสามารถเลือกใช้เป็น Bioderma Sebium Lotion หรือ Bioderma Sebium Pore Refiner ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่นอกจากจะอ่อนโยนต่อผิวแล้ว ยังช่วยลดความมันบนใบหน้า ลดการสะสมของไขมันและเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ เพื่อไม่ให้เกิดรูขุมขนอุดตันจนทำให้เกิดสิวอีกด้วย

ข้อสรุปของสิวเม็ดข้าวสาร

ถึงแม้ว่าสิวเม็ดข้าวสารและสิวหินนั้นจะมีลักษณะหน้าตาที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน อีกทั้งยังสร้างความรำคาญและลดทอนความมั่นใจของผู้ที่เป็นไม่ต่างจากกัน แต่สิวทั้ง 2 ชื่อนี้ก็ไม่ใช่ชนิดเดียวกัน เพราะนอกจากจะแตกต่างกันที่บริเวณจุดเกิดแล้ว ยังเกิดจากสิ่งที่ต่างกันอีกด้วย

สิวข้าวสารนั้นแม้ว่าจะไม่ได้มีอาการรุนแรงหรืออันตรายใด ๆ อย่างที่เจอในสิวบางชนิด แต่ก็ควรที่จะหมั่นดูแลและรักษาให้ดี เพื่อให้สิวหัวข้าวสารเหล่านี้หลุดออกหรือหายไปโดยเร็ว หรือถ้าหากว่าผ่านมาหลายเดือนแล้วสิวหัวข้าวสารยังคงอยู่ ก็ควรเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสมที่สุด


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที