วัตพล

ผู้เขียน : วัตพล

อัพเดท: 18 มี.ค. 2024 02.03 น. บทความนี้มีผู้ชม: 673345 ครั้ง

ผิวแห้งคัน ปัญหาคันยุบยิบที่รักษาให้หายได้


ฟิลเลอร์เพื่อผิวที่อ่อนเยาว์

ฉีดฟิลเลอร์ให้ผิวหน้า

ในบางครั้ง ผู้คนมักจะตั้งคำถามเกี่ยวกับความงาม ที่เต็มไปด้วยปัญหาร้อยแปดพันเก้า เพื่อหาทั้งสาเหตุและวิธีแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยบนใบหน้า ผิวที่หมองคล้ำ แห้ง และใบหน้าที่ไม่กระชับ ซึ่งการใช้สกินแคร์บางครั้งอาจจะยังไม่พอ หรือแก้ปัญหาได้ช้าเกินไป การฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นทางเลือกที่เรียกได้ว่า เป็นทางด่วน ทางลัด แต่ไม่ใช่ทางลัดที่ให้ผลเสียเลย ซึ่งบทความนี้ จะอธิบายถึงรายละเอียดของฟิลเลอร์ (Filler) ว่าเป็นอย่างไร Filler คืออะไร ให้ทุกคนได้มั่นใจและตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น


การฉีดฟิลเลอร์คืออะไร ให้ผลอย่างไรบ้าง

Filler คือกระบวนการทางการแพทย์ ด้วยการฉีดสาร Hyaluronic Acid ที่เป็นสารสกัดที่มีคุณสมบัติให้ผิวมีสุขภาพที่ดี ให้ผิวอิ่มน้ำ ลดเลือนรอยหมองคล้ำ เติมเต็มความชุ่มชื้นให้สภาพผิวที่แห้ง สามารถลดริ้วรอยที่จุดต่างๆบนใบหน้า ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย เติมเต็มร่องลึก ซึ่ง Hyaluronic Acid เป็นสารสกัดที่มีความปลอดภัยสูงระดับโลกจากงานวิจัย อีกคุณสมบัติหนึ่งของการฉีดฟิลเลอร์คือการปรับรูปหน้า กระชับรูปหน้าให้ดูสวย และหล่อสมวัย

ซึ่ง Hyaluronic จะทำปฏิกิริยาจับตัวกับน้ำและพองขึ้นเป็นเจล ให้ผลที่ดีดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ และเป็นสารที่ได้รับรองความปลอดภัยจากอย.ประเทศไทย รวมถึงการนำมาประกอบเป็นฟิลเลอร์ด้วย


ประเภทสารของฟิลเลอร์ จำแนกเป็นอะไรบ้าง ให้ผลแบบไหน

ประเภทฟิลเลอร์

สารเติมเต็มในการฉีด Filler ที่มีการใช้กัน ล้วนแล้วแต่เป็นการกลบจุดด้อยของสารบางชนิดในด้านเวลาการย่อยสลาย เสริมจุดเด่นด้านการคงอยู่บนชั้นผิว ทำให้การฉีดฟิลเลอร์ให้ประสิทธิผลที่ดีมากขึ้นแต่อาจมีปัญหาตามมา ซึ่งแตกต่างจาก Hyaluronic Acid ที่เป็นตัวมาตรฐานก่อน ซึ่ง HA หรือไฮยาลูรอนิค เป็นสารที่ปลอดภัยร่างกายสามารถย่อยสลายได้ 100% สามารถอยู่ได้นาน 6- 24 เดือน และมีความปลอดภัยที่สุดในหมวดหมู่สารเติมเต็มที่สุด

Poly-L-lactic acid (PLLA) สำหรับฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร

เป็นสารที่จัดอยู่ในประเภทของการฉีดฟิลเลอร์แบบถึ่งถาวร ซึ่ง Poly-L-lactic acid หรือเรียกสั้นๆว่า สาร PLLA ซึ่งสารนี้ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์เช่น ไหมละลาย Filler และตะปูเกลียวยึดกระดูก โดยที่หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไม PLLA ถึงเป็นสารที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร นั่นก็เพราะ PLLA ซึ่งสามารถคงอยู่ได้ 2 - 5 ปี 

สาร PLLA สามารถย่อยสลายได้ แต่สลายได้ไม่หมด 100 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งการฉีดฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร อาจมีผลข้างเคียงได้จากสารที่ไม่สามารถย่อยสลายแบบธรรมชาติ และยังคงติดค้างอยู่บนผิวนั่นเอง 

Calcium hydroxylapatite สำหรับฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร

สารแคลเซียม ไฮดรอกซีอะพาไทต์ เป็นสารที่ถูกนำมาใช้ในการเสริมหน้าอก Filler และสะโพก Calcium hydroxylapatite สามารถละลายได้ตามธรรมชาติ แต่จะยังมีสารตกค้างอยู่ที่ชั้นผิว ซึ่งสารชนิดนี้จะต้องทำการขูดออก มิฉะนั้นจะเสี่ยงอันตรายกับผิวได้ ซึ่ง Calcium hydroxylapatite เหมาะสำหรับการฉีดฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร ซึ่งขณะนี้ยังไม่ผ่าน อย.ไทย และผลข้างเคียงที่อาจทำให้ผิวอักเสบเมื่อฉีดเป็นเวลานาน และต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการแก้ปัญหา

Polymethyl-methacrylate microspheres (PMMA) สำหรับฟิลเลอร์แบบถาวร

สารเติมเต็ม Polymethyl-methacrylate microspheres หรือเรียกสั้นๆว่า PMMA เป็นสารที่ใช้ทางการแพทย์สำหรับเลนซ์แก้วตาเทียม และซีเมนต์กระดูก ซึ่งเป็นสารเติมเต็มที่เหมาะแก่การฉีด Filler แบบถาวร โดย PMMA มีเนื้อเป็นพลาสติกสังเคราะห์ มีลักษณะหนืด สามารถปั้นเป็นรูปได้ โดย PMMA จะไม่มีการย่อยสลาย และไม่สามารถย่อยสลายออกจากชั้นผิวได้ 

ซึ่งสาร PMMA เป็นหนึ่งในสารเติมเต็มที่ฉีดบนฟิลเลอร์แบบถาวร ฟิลเลอร์แบบนี้ส่งผลกระทบต่อผิว ทำให้ตกค้างบนชั้นผิว เมื่อฉีดไปนานๆ อาจส่งผลเสียให้ฟิลเลอร์ปรับภาพ เกิดการไหลย้อย ทำให้มีโครงหน้าที่ผิดรูป อีกทั้งยังไม่สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ชนิดนี้ได้ ทางแก้ของการฉีดฟิลเลอร์ถาวรคือการขูดออก หรือทำการผ่าตัดเท่านั้น

Polyalkylimide

Polyalkylimide เป็นสารเติมเต็มที่มีลักษณะเป็นเจล เติมร่องลึกให้ผิวที่เหี่ยวย่น หรือรอยแผลเป็นร่องลึก ซึ่งเป็นสารที่จัดอยู่ในการฉีดฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร ซึ่งสามารถย่อยสลายได้เมื่อฉีดไปเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่ย่อยสลายไม่หมด สารเติมเต็มนี้ก็จะยังตกค้างอยุ่ที่ชั้นผิว โดยไม่สามารถฉีดยาสลายฟิลเลอร์ได้ ต้องทำการขูดออกเท่านั้นในการแก้ไข ซึ่งการฉีด Filler กึ่งถาวร มักจะให้ผลดีแค่เฉพาะระยะเวลาเท่านั้น และแน่นอนว่าการฉีดฟิลเลอร์กึ่งถาวร ในขณะนี้ ยังไม่มีการรับรองจาก อย. ประเทศไทย


ข้อควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัดก่อนฉีดฟิลเลอร์

อย่างแรก คือการเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นคลินิกที่ถูกกฎหมาย และมีการเอกสารรับรอง รวมไปถึงบุคลากรที่ต้องมีมาตรฐาน มีเอกสารประกอบวิชาชีพที่ตรวจสอบได้ สำคัญที่สุดคือการเลือกยี่ห้อ Filler ของแท้ หลีกเลี่ยงสารฉีดสารจากฟิลเลอร์ปลอม

ต่อมาคือการปฏิบัติตัวก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ 1 อาทิตย์ หากมีคอร์สนวดหน้า หรือเลเซอร์ ต้องทำมาก่อนฉีดฟิลเลอร์ 3 วัน จากนั้นเตรียมตัวด้วยการ ให้เรางดยาจำพวก แอสไพริน NSAIDs และวิตามินที่เสี่ยงมีผลทำให้เกิดรอยช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์ งดสกินแคร์ประเภทผลัดเซลล์ผิว และการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ หากต้องการแบบเชิงลึก สามารถสอบถามแพทย์ผู้ให้คำปรึกษาได้เลย รวมไปถึงเรื่องโรคประจำตัวที่ต้องทานยา เราจะต้องนำยาที่ทานประจำไปส่งให้แพทย์ในคลินิกตรวจสอบด้วย 

สำคัญที่สุดคือการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใน 24 ชั่วโมง อย่างแรกคือการงดดื่มแอลกอฮอล์ และงดกิจกรรมการออกกำลัง หรือซาวน่า ที่เป็นผลทำให้เลือดเกิดการสูบฉีด


ข้อควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัดหลังฉีดฟิลเลอร์ 

ข้อควรปฏิบัตหลังฉีดฟิลเลอร์

หลังจากการฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้วจะมีข้อปฏิบัติแบ่งตามช่วงเวลา เริ่มจากหลังฉีด Filler ทันที ซึ่งเราอาจจะมีอาการบวม และคัน ให้หลีกเลี่ยงการเกาใบหน้า หรือจับ นวด คลึง จากนั้นให้ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รับประทานยาฆ่าเชื้อ รอยเข็มของฟิลเลอร์โดนน้ำได้แต่ต้องเช็ดออกทันที บนใบหน้าสามารถประคบเย็นได้แต่ไม่ควรกดแรง หลีกเลี่ยงการเลเซอร์ผิวอย่างน้อย 1 เดือน เมื่อตกกลางคืนสามารถรับประทานยาพาราได้หากมีอาการ อีกทั้งต้องปรับเปลี่ยนวิธีการนอน ไม่ควรนอนตะแคง และควรนอนในห้องที่มีอุณหภูมิ 18-23 องศาเซลเซียส

48 ชั่วโมงหลังจากฉีดฟิลเลอร์ ต้องงดการดื่นแอลกอฮอล์ 2-3 วัน งดพฤติกรรมการเท้าคางกรณีฉีดฟิลเลอร์ที่คาง ซึ่งเราสามารถทาครีมบริเวณรอยเข็มได้แล้ว และยังห้ามการนวดคลึงบนใบหน้าอยู่ 

เมื่อผ่านไป 2 - 3 วัน เรายังต้องงดการถูกความร้อนบริเวณใบหน้า เช่นการอาบน้ำอุ่น หรือไดร์เป่าผม และยังต้องพยายามอย่าออกกำลังทางใบหน้าเกินไป ไม่ควรสัมผัสและกดใบหน้าแรงในส่วนที่ฉีดฟิลเลอร์ หลีกเลี่ยงรังสี UVA UVB จาก 2 - 10 วันหากมีการบวมหรือช้ำ ไม่ควรประคบร้อน

14 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ เราจะสามารถรับประทานอาหารได้ปกติ หรือออกกำลังกายได้แล้ว แต่ยังต้องหลีกเลี่ยงความร้อนจากปัจจัยทั้งหลาย โดยฟิลเลอร์จะนิ่มลงภายใน 2-3 สัปดาห์


ผลข้างเคียงที่มักพบได้จากฟิลเลอร์

โดยรวมแล้วภาวะแทรกซ้อนจากการฉีดฟิลเลอร์ส่วนใหญ่จะเป็นอาการบวม ช้ำเล็กน้อย ซึ่งหากเราใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน จากคลินิกที่มีมาตรฐาน และปฏิบัติตามคำแนะนำก่อน - หลัง ฉีด Filler ก็จะไม่พบปัญหา

แต่จะมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ จากการฉีดไม่ถูกวิธี และใช้ฟิลเลอร์ปลอม เช่นระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ คืออาการฟกช้ำ เกิดจากเข็มผ่านเส้นเลือด หรือภาวะแทรกซ้อนหลังฉีดในช่วงแรก จะมีอาการปวด บวมแดง และนูน นั่นมาจากการติดเชื้อเฉียบพลัน อีกทั้งเกิดตุ่มก้อนหลังหมดระยะดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ หรือมีหนองเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ถาวร


สรุปฉีดฟิลเลอร์คืนผิวที่อ่อนเยาว์ได้จริง

สรุปแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ที่ดีที่สุดคือ Filler แบบชั่วคราว ที่ใช้สารเติมเต็มอย่าง Hyaluronic Acid ที่อยู่ได้นาน 6 -24 เดือน ซึ่งระยะเวลาจะอยู่ได้นานขึ้นอยู่กับการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ให้ดี และสำคัญที่สุด คือการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีการจดทะเบียนที่ถูกต้องสามารถตรวจสอบได้ พร้อมกับการให้คำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจปัญหาสภาพผิวของเราได้ดี ดังนั้นคิดจะฉีดฟิลเลอร์ หลีกเลี่ยงคลินิกและฟิลเลอร์ปลอมอันเป็นเหตุให้หน้ามีปัญหาภายหลังกันเถอะ


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที