วัตพล

ผู้เขียน : วัตพล

อัพเดท: 18 มี.ค. 2024 02.03 น. บทความนี้มีผู้ชม: 661552 ครั้ง

ผิวแห้งคัน ปัญหาคันยุบยิบที่รักษาให้หายได้


เลเซอร์รอยสิว ตัวช่วยเร่งให้ผิวกลับมาใส ไร้รอยสิว

เลเซอร์รอยสิว เผยผิวใส

หลายคนคงจะเจอปัญหาผิวอย่างรอยสิวกันไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะผู้ที่ผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย เมื่อสิวหายแทนที่จะจบแค่นั้นแต่กลับกลายเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของรอยสิวที่รักษาได้ยากกว่า และใช้เวลานานมากกว่ารอยสิวจะจางลง 

รอยสิวมักสร้างความกังวลใจให้กับหลายคน โดยเฉพาะสาว ๆ ที่รักสวยรักงาม การมีรอยดำรอยแดงจากสิวก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ามอง บางคนก็มักจะแก้ปัญหาโดยการใช้เครื่องสำอางปกปิด แต่หากคุณเป็นผู้ที่มีผิวเป็นสิวง่าย การใช้เครื่องสำอางปกปิดกลับยิ่งกลายเป็นการกระตุ้นให้เกิดสิวเพิ่มขึ้น และสิวก็จะกลายเป็นรอยสิว วนลูปเป็นปัญหาที่แก้ไม่จบสักที

ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันเรามีวิธีรักษารอยสิวให้จางลงไวขึ้น สามารถกำจัดรอยสิวที่เป็นที่กังวลใจของหลาย ๆ คนได้รวดเร็วนั่นก็คือการเลเซอร์รอยสิวนั่นเอง 

ในบทความนี้เองจะพาไปทำความรู้จักกับวิธีรักษารอยสิวด้วยการเลเซอร์รอยสิวว่าคืออะไร รักษารอยสิวแบบไหนได้บ้าง  ก่อนจะไปทำเลเซอร์สิวมีข้อควรรู้อะไรบ้าง ไปดูกันเลย


เลเซอร์รอยสิว คืออะไร

เลเซอร์รอยสิว คือวิธีรักษารอยสิวด้วยการใช้พลังงานแสงความเข้มสูงและความยาวคลื่นที่เหมาะสมในการกำจัดรอยสิวบนผิวชั้นนอกและกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวขึ้นมาใหม่นั่นเอง โดยผิวที่ขึ้นมาใหม่จะเรียบเนียนกว่าแข็งแรงกว่าเดิม

แต่ก่อนอื่นขออธิบายถึงพลังงานแสงและความยาวคลื่นกันก่อนเพื่อให้เข้าใจถึงการรักษาที่ดียิ่งขึ้น

ปกติแล้วความยาวคลื่นของแสงในแต่ละช่วงจะเห็นค่าสีที่แตกต่างกัน และในแต่ละช่วงของความยาวคลื่นก็มีอำนาจในการทะลุทะลวงที่แตกต่างกันด้วย

ยกตัวอย่างเช่น ในข่วงความยาวคลื่นที่ตามองเห็นจะอยู่ในช่วงตั้งแต่ความยาวคลื่นประมาณ 400-800 นาโนเมตร (ไล่ไปตั้งแต่ความยาวคลื่นสั้นช่วงประมาณ 400 nm จะเป็นสีม่วงและความยาวคลื่นสูงสุดที่ตามนุษย์จะมองเห็นคือช่วงเกือบ 800 nm จะเป็นสีแดง) ในช่วงความยาวคลื่นสั้นจะมีอำนาจในการทะลวงสูง กลับกัน ช่วงที่ความยาวคลื่นสูง อำนาจในการทะลวงกลับต่ำ 

การที่อำนาจในการทะลวงของความยาวคลื่นที่ต่างกันนั้นก็ส่งผลต่อการรักษาปัญหาผิวที่มีความลึกแตกต่างกันไปนั่นเอง

ต่อมาเรามาทำความเข้าใจกับแสงเลเซอร์กันต่อ…

ปกติแล้ว “แสง” ทั่ว ๆ ไปจะมีความยาวคลื่นหลาย ๆ ช่วงผสมกัน ปล่อยแสงออกมาในลักษณะที่ไม่สม่ำเสมอ และทิศทางในการเดินแสงจะอยู่ในลักษณะกระจายออกไปทุกทิศทาง แต่สำหรับเลเซอร์นั้นจะเป็นแสงที่มีความยาวคลื่นเดียวเท่านั้น การปล่อยลำแสงจะเป็นทิศทางเส้นตรงทิศทางเดียวอีกทั้งยังมีความเข้มข้นของพลังงานสูงมาก ๆ อีกด้วย 

โดยทางการแพทย์ได้อาศัยหลักการดูดกลืนแสงและความยาวคลื่นที่มีผลต่อการรักษาปัญหาผิวหนังมาประยุกต์ใช้ในการรักษาปัญหาผิวแบบต่าง ๆ แพทย์จะเลือกการใช้ความยาวคลื่นในช่วงที่เหมาะสมกับรอยโรค เพราะรอยโรคแต่ละแบบก็สามารถดูดกลืนแสงได้ในช่วงที่ต่างกันนั่นเอง

ทำความรู้จักกับเลเซอร์รอยสิวกันไปเรียบร้อยแล้ว ต่อมาเราไปดูกันว่าเลเซอร์รอยสิวใช้รักษาสิวแบบไหนได้บ้าง ?


เลเซอร์รอยสิวสามารถรักษาสิวแบบไหนได้

เลเซอร์รอยดำ

แสงแลเซอร์มีหลากหลายช่วงความยาวคลื่น โดยความยาวคลื่นแต่ละช่วงก็เหมาะสมกับการรักษารอยสิวที่แตกต่างกันไป

1. รอยแดงสิว

รอยแดงสิวเป็นรอยจุดสีชมพูจนถึงสีแดงคล้ำที่เกิดขึ้นหลังจากสิวอักเสบยุบตัวลง ปกติแล้วเมื่อเกิดการอักเสบของสิวบนผิวหนัง ปฏิกิริยาที่ร่างกายตอบสนองเมื่อเกิดการอักเสบคือการร้อนแดงบริเวณอักเสบจากการที่หลอดเลือดใต้ผิวหนังขยายตัวและการที่เม็ดเลือดขาวไปรวมตัวบริเวณที่เกิดการอักเสบนั่นเอง 

เมื่อการอักเสบของสิวสิ้นสุดลง หลายครั้งการขยายตัวของหลอดเลือดแดงใต้ผิวหนังจากการอักเสบกลับไม่หดตัวลงเหมือนเดิม ทำให้ยังสามารถเห็นเป็นรอยแดงสิวบนผิวอยู่เหมือนเดิมนั่นเอง

การเกิดรอยแดงสิวจะเกิดจากใต้ผิวที่ค่อนข้างลึก แต่ระยะการจางลงของรอยแดงสิวจะสั้นกว่ารอยดำสิว เพราะเมื่อการอักเสบของหลอดเลือดแดงหยุดไปและยุบตัวลงก็จะทำให้รอยนั้นจางลงไปเอง แต่กลับกันหากการอักเสบนั้นดันไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีขึ้น จากรอยแดงก็จะกลายเป็นรอยดำได้

2. รอยดำสิว

รอยดำสิวเป็นรอยจุดสีน้ำตาลจนไปถึงสีดำที่เกิดขึ้นหลังเกิดสิว โดยการอักเสบของสิวนอกจากจะทำให้เส้นเลือดขยายตัวแล้ว ยังสามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้นด้วย นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยดำบนผิวหนังนั่นเอง 

โดยโอกาสที่เกิดรอยดำสิวมักจะเกิดจากการแกะ บีบสิวด้วยตนเอง และการที่ผิวสัมผัสโดยแสงแดดที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีมากขึ้นนั่นเอง

รอยดำสิวจะเกิดขึ้นชั้นบนชั้นผิวที่ตื้นกว่ารอยแดงสิว แต่กลับรักษาได้ยากกว่าเพราะการที่กว่ารอยดำสิวจะจางลงจะต้องเกิดการผลัดเซลล์ผิวไปจนถึงชั้นที่เกิดการรวมตัวของเม็ดสีนั่นเอง 


ประเภทของเลเซอร์รอยสิว

ในปัจจุบันมีประเภทของเลเซอร์ลดรอยสิวอยู่ 2 รูปแบบเด่น ๆ ดังนี้

Ablative Laser

Ablative Laser เป็นเลเซอร์ชนิดที่ทำให้ผิวลอกหรือเลเซอร์ผลัดเซลล์ผิวนั่นเอง โดยเลเซอร์รอยสิวประเภทนี้จะสามารถลบเลือนรอยสิวได้ดีและเห็นผลลัพธ์ชัดเจนด้วยเลเซอร์ลำแสงที่มีความเข้มข้นสูงมาก ๆ เพื่อทำลายเซลล์ผิวชั้นบนออกไปและผิวจะกระตุ้นสร้างเซลล์ผิวขึ้นมาใหม่ที่แข็งแรงขึ้นและทำให้เส้รใยคอลลาเจนใต้ผิวหนังหนาแน่นขึ้นนั่นเอง

การรักษาด้วยเลเซอร์รอยสิวประเภทนี้จะเด่นในเรื่องเห็นผลการรรักษาที่ชัดเจนและค่อนข้างไว แต่อาจต้องแลกกับผลข้างเคียงค่อนข้างมากและใช้เวลาพักฟื้นผิวค่อนข้างนาน

Non-Ablative Laser

Non-Ablative Laser เป็นเลเซอร์รอยสิวที่ไม่ทำให้ผิวลอก โดยเลเซอร์ลดรอยสิวประเภทนี้จะค่อนข้างอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า ไม่มีการทำลายเนื้อเยื่อผิวหนังแต่มุ่งเน้นการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนให้ผิวแน่น แข็งแรงยิ่งขึ้น

โดยเลเซอร์รอยสิวกลุ่มนี้จะใช้ลำแสงที่มีความยาวคลื่นค่อนข้างต่ำ เพื่อให้สามารถทะลุผิวไปถึงชั้นลึกเพื่อรักษารอยแดงรอยดำจากสิวได้ แต่ผลลัพธ์ในการรักษารอยสิวด้วยเลเซอร์รอยสิวประเภทนี้อาจไม่ชัดเจนเท่าแบบแรก ต้องอาศัยการเข้ารับการรักษาหลาย ๆ ครั้งจึงจะเห็นผล


ชนิดของเครื่องเลเซอร์รอยสิว

ชนิดเครื่องเลเซอร์รอยสิว

ในปัจจุบันได้มีเครื่องเลเซอร์รอยสิวสำหรับรักษารอยสิวอยู่หลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อแตกต่างทั้งในแง่ของประสิทธิภาพการรักษาและผลลัพธ์หลังการรักษาที่ต่างกันไป โดยแพทย์อาจพิจารณาเลือกการใช้เครื่องเลเซอร์รอยสิวตัวไหนขึ้นอยู่กับประเภทรอยสิวของผู้ป่วยด้วย

1. V-Beam Laser

ตัวแรกของเครื่องเลเซอร์รอยสิวที่มักนำมาใช้รักษารอยสิวคือ V-Beam Laser โดยเครื่องนี้จะมีเลเซอร์ช่วงความยาวคลื่นที่ 595 นาโนเมตร ซึ่งเป็นช่วงที่จะเน้นการรักษารอยแดงสิว ดูแลความิดปกติของเส้นเลือดใต้ผิว โดยแสงเลเซอร์จะไปทำลายเส้นเลือดที่ผิดปกตินั้น และยังไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังอีกด้วย

2. Q-switch laser

สำหรับ Q-switch laser เป็นเครื่องเลเซอร์ที่สามารถยิงแสงเลเซอร์ได้ 2 ช่วงความยาวคลื่นคือ 532 นาโนเมตร (ช่วงแสงสีเขียว) และ 1,064 นาโนเมตร (ช่วงคลื่นอินฟราเรท มองไม่เห็นด้วยตามนุษย์และเป็นช่วงที่มีความร้อน) 

โดยเจ้าเครื่องนี้จะเหมาะกับการรักษารอยดำสิว เพราะช่วงความยาวคลื่นนี้จะถูกดูดกลืนแสงโดยเม็ดสีเมลานินนั่นเอง เมื่อรอยดำสิวถูกเลเซอร์จะทำให้เม็ดสีแตกตัวและอาจหลุดออกเป็นสะเก็ดหรือค่อย ๆ จางลงไปนั่นเอง

3. IPL (Intense pulse light)

เครื่องมือรักษารอยสิวอีกตัวที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากตามคลีนิกคือ IPL รอยสิวเพราะเจ้าตัวนี้สามารถปรับความยาวคลื่นได้หลายช่วงมาก ๆ ตั้งแต่ 515-1,200 นาโนเมตรเลยทีเดียว โดย IPL จะเป็นเครื่องฉายแสงที่ความถี่ต่าง ๆ และมีฟีลเตอร์ในการตัดแสงเพื่อให้ได้ความยาวคลื่นที่ต้องการ ถึงแม้ว่าเจ้าตัวนี้จะไม่ใช่เลเซอร์ แต่ประสิทธิภาพการรักษารอยสิวก็ไม่แพ้เลเซอร์รอยสิวตัวอื่น ๆ เลย

IPL สามารถปรับตั้งค่าได้หลากหลาย ทำให้สามารถรักษาปัญหาผิวได้หลากหลายกว่า ไม่ว่าจะการฆ่าเชื้อสิว ลดการอักเสบของสิว ลดเลือดรอยแดงรอยดำจากสิว ปรับให้ผิวกระจ่างใส เป็นต้น

4. Dual Yellow Laser

เครื่องเลเซอร์ลดรอยสิวตัวสุดท้ายที่แนะนำคือ Dual Yellow Laser ซึ่งเจ้าตัวนี้จะมีแสงเลเซอร์อยู่ 2 ช่วงความยาวคลื่นคือ 578 นาโนเมตร(แสงสีเหลือง) และ 511 นาโนเมตร(แสงสีเขียว) ซึ่งแสงทั้งสองนี้มีความสามารถในการรักษาปัญหาผิวที่ต่างกันโดย

จุดเด่นของเจ้า Dual Yellow Laser นั้นจะค่อนข้างอ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวด้านบนหรือผิวส่วนอื่นเสียหายขณะยินเลเซอร์รอยสิวด้วย และยิ่งไปกว่านั้นหากใช้เลเซอร์ 2 ชนิดร่วมกันยังทำให้เกิดเลเซอร์ที่มีความเข้มพลังงานสูงและสามารถกำจัดตุ่มเนื้องอกบางชนิดบนผิวหนังได้อีกด้วย


เลเซอร์รอยสิว เหมาะกับใคร

เลเซอร์รอยสิว เหมาะกับใคร

ผู้ที่เหมาะกับการรักษารอยสิวด้วยเลเซอร์รอยสิวมีดังนี้

นอกจากนี้ผู้ที่จะเข้ารักษาด้วยการใช้เลเซอร์ลดรอยสิวจะต้องเป็นผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคเบาหวาน โรค SLE หรือโรคทางภูมิคุ้มกันบกพร่อง และจะต้องไม่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร


ข้อควรรู้ก่อนทำเลเซอร์รอยสิว

ก่อนจะไปรักษารอยสิวด้วยการทำเลเซอร์รอยสิว มาทำความเข้าใจกับเลเซอร์สิวกันอีกสักหน่อย…


เลเซอร์รอยสิว ราคาเท่าไหร่ ทำที่ไหนดี

ราคาเลเซอร์รอยสิว

อ่านมาถึงตรงนี้คงจะมีหลายคนที่สนใจรักษารอยสิวด้วยการทำเลเซอร์รอยสิวกันไม่น้อย และอาจมีข้อสงสัยอย่างเลเซอร์รอยสิวราคาเท่าไหร่ เลเซอร์รอยสิวที่ไหนดี?

สำหรับคำตอบเหล่านี้อาจไม่ได้มีคำตอบที่ตายตัว ในด้านราคาเลเซอร์รอยสิวขึ้นอยู่กับแต่ละเคส จำนวนที่ต้องทำเลเซอร์รอยสิวมากน้อยแค่ไหน ใช้เครื่องเลเซอร์ตัวไหน โดยผู้ป่วยสามารถสอบถามอัตราค่ารักษาได้กับคลีนิกที่จะเข้ารักษาได้เลย

ส่วนการทำเลเซอร์รอยสิวที่ไหนดี มีหลาย ๆ ที่ที่รักษาดี แต่เราจะไปรักษารอยสิวที่ไหนนั้นสามารถเลือกได้โดยอาศัยหลักเกณฑ์เหล่านี้


ข้อสรุป

ปัญหารอยสิวเป็นปัญหาใหญ่ไม่แพ้ปัญหาสิวอักเสบเลย แถมยังใช้เวลารักษานานมาก ๆ อีกด้วย แต่ปัญหานี้จะหมดไปเร็วขึ้นด้วยการเลเซอร์รอยสิว ช่วยกู้คืนผิวใส เรียบเนียนได้เร็วกว่าเดิม หากคุณสนใจการรักษารอยสิวด้วยเลเซอร์ลดรอยสิว เราขอแนะนำ Mvita Clinic เป็นอีกทางเลือกให้กับคุณ

ที่ Mvita Clinic มีแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางที่จะคอยดูแลปัญหารอยสิวผู้ป่วยให้กลับมาเผยผิวใสไร้รอยสิวก่อกวนใจ หากสนใจสามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์และนัดเข้ารับการรักษาได้ที่ช่องทางเหล่านี้

Facebook : M Vita Clinic

Line : @mvitaclinic

Tel : 026408097

 

ขอบคุณเนื้อหาดีๆ จาก https://www.prachachat.net/public-relations/news-1228224


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที