เขาว่าฉันหัวเหลี่ยม
เส้นทางชีวิตและประสบการณ์ของคนคนหนึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อใครสักคนไม่มากก็น้อย...
"เขาว่าฉันหัวเหลี่ยม" เป็นบทความคุณภาพที่ควรค่าแก่การอ่านสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการพัฒนาตัวเองและรักความก้าวหน้า...
การเรียนต่อในระดับปริญญาโทเมื่อ 16 ปีก่อน(พ.ศ2534)นั้น พูดได้ว่ามีเพียงไม่กี่สถาบันที่เปิดสอน คนที่เรียนจบปริญญาตรีทางด้านวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี อย่างฉัน ถ้าคิดจะเรียนต่อปริญญาโทละก้อ มักจะนึกถึง การศึกษาต่อต่างประเทศ ซึ่งมักจะเป็น การศึกษาต่อในระดับปริญญาโท-เอก หากจะเรียนต่อต่างประเทศแล้วเรื่องทุนส่วนตัวนั้นเป็นปัญหาใหญ่เพราะไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยนัก การสอบชิงทุนหรือการสมัครเพื่อเข้ารับทุนไม่ได้เป็นปัญหาในความคิดของฉัน "ก้นบึ้ง"ของหัวใจนั้นฉันอยากศึกษาต่อในระดับโท-เอกที่ต่างประเทศ เพื่อกลับมาเป็นนักวิจัย นักวิชาการ หรือ เพื่อเป็นอาจารย์สอนหนังสือตามมหาวิทยาลัย ฉันคิดว่า การศึกษาต่อที่ต่างประเทศนั้นเป็นสิ่งที่ดีเพราะเราจะได้ภาษาต่างประเทศที่เป็นภาษาต่างประเทศจริงๆและนอกจากนี้ฉันยังคิดว่าประสบการณ์ในการเรียนรู้และการใช้ชีวิตในประเทศที่พัฒนาแล้วจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาประเทศได้
หากจะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศในระดับปริญญาโท-เอกแล้วจะต้องใช้เวลาทั้งหมดอย่างน้อย 5-7 ปี... ฉันคิด! เพราะต้องTake courseเรียนภาษาก่อน จากนั้นจึงจะได้เรียนหลักสูตรปริญญาโท และจบด้วยปริญญาเอก และหากต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของผู้ให้ทุนซึ่งต้องกลับมาทำงานใช้ทุนเป็น1หรือ2เท่าของเวลาที่ใช้ไปแล้วระยะเวลาคงจะถึง10ปีละมัง..
เงินเดือนข้าราชการน้อยมาก ตลอดชีวิตของแม่ต้องทำงานหนัก และลำบาก กระทั่งส่งลูกเรียนจนจบปริญญาตรี หากลูกสาวของแม่จะต้องไปเรียนต่อในระดับชั้นปริญญาโท-เอกแล้วกลับมารับราชการตาม "ความฝัน"แล้วละก้อ แม่คงจะลำบากไปอีกเป็นเวลาถึง 10ปี มันไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น เมื่อลูกเรียนมหาวิทยาลัยลูกต้องไปอยู่หอพัก แม่ก็ต้องอยู่ตามลำพัง เพราะพี่สาวสองคนออกไปทำงานที่ต่างจังหวัด และพ่อก็เสียชีวิตตั้งแต่ฉันมีอายุเพียงสามขวบ เราจะปล่อยให้แม่อยู่ตามลำพังและลำบากต่อไปอีก10ปี และเมื่อเรากลับมาแม่ก็แก่แล้วอย่างนั้นเหรอ? เมื่อคำนวณรายรับที่ควรจะได้จากการรับราชการและรายรับที่ควรจะได้จากการเป็นลูกจ้างในระยะเวลา10ปีหลังจากเรียนจบปริญญาตรี ต้องยอมรับว่ามันต่างกันมาก แม่อาจจะภาคภูมิใจที่ลูกเรียนจบปริญญาเอกเป็นด๊อกเตอร์ แต่ความสุขที่แท้จริงของแม่ไม่น่าจะอยู่ตรงนั้น..ฉันคิด และฉันก็ได้ตัดสินใจที่จะเป็นลูกจ้างตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
โปรดติดตามตอนต่อไป...
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที