ทุ่งใหญ่นเรศวร......... 2
พอเรามาถึงหมู่บ้านกะเหรี่ยงจะแก
เราก็ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอ พื้นที่ไร่หมุนเวียนของกะเหรี่ยง
ช่วงนี้เค้ากำลังถางป่า เผาป่ากันพอดี
ตรงนี้แหล่ะที่เป็นประเด็นร้อนว่ากะเหรี่ยงเป็นพวกทำลายป่า
ไอ้ควันที่มันเต็มเมืองเชียงใหม่ เค้าก็หาว่าชาวเขาเป็นคนทำ
แต่เราว่าไม่ใช่นะ วิถีชีวิตเค้าเป็นแบบนี้มาร้อยๆปีแล้ว
เราว่า พวกนายทุน พวกขายชาติ ยังเลวร้ายกว่าอีก (ทำไมไม่ด่ามันมั้ง)
แล้วก็เข้าหมู่บ้านไปสัมภาษณ์ชาวบ้าน
เรานอนที่นี่คืนนี้ ......................
เค้าก็ทำอาหารให้เรากิน กะเหรี่ยงที่นี่น่ารักนะ
เค้าจะรอแขกกินเสร็จก่อนเค้าถึงจะกิน เค้าให้เกียรติแขกมาก
เราไปอาบน้ำที่ห้วย กับป้าอาจารย์ที่มาด้วย
ใส่ผ้าถุงอาบน้ำ ...... ทำหลุดตั้งหลายที คิคิคิค
น้ำเย็นมาก อาบน้ำแล้วสดชื่นมากๆๆๆๆ
ตื่นเช้าอีกวันเราก็เดินทางไปอีกหมู่บ้านนึง
เอาเกลือที่บรรทุกมาจากกรุงเทพไปให้เค้า
อาหารของคนที่นี่แค่มี เกลือ พริก ข้าว เค้าก็อยู่กันได้แล้วสบาย
ลุงไทซ่า ผู้ใหญ่บ้านกะเหรี่ยงพาเราไปดูไร่ชุมชน
เราเข็ดมากกับการเดินเข้าป่ากับชาวเขาแบบนี้
เพราะเค้าชอบหลอกเราว่าไปไม่ไกล แต่พอเดินไปจริงๆ เราหอบลิ้นห้อยเลย
ไกลชิบหาย หมู่บ้านในทุ่งใหญ่จะห่างกันเป็นหลายสิบกิโล
เค้าไม่มีรถใช้กัน มีทางเดียวที่จะไปมาหาสู่กันคือ เดิน
บางทีเราก็เห็นเป็น วัวเทียมเกวียน .......... เค้าเดินกันเก่งมาก
ริมห้วย เค้ามีครกกระเดื่องตำข้าวพลังงานน้ำด้วย
ใช้กังหันพลังน้ำ ในการตำข้าวถือเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนเคียงป่า
เค้าร้องเพลงกะเหรี่ยงให้เราฟังด้วย
เป็นทริปที่ประทับใจมาก ทั้งโหด ทั้งสวย ตื่นตาตื่นใจ
ป่าทุ่งใหญ่สวยมากมีหลากหลาย ทั้งป่าแบบทุ่งหญ้าสวันนา
ป่าแบบ Rain Forest มาครั้งนี้เราเห็นเสือดำ หมูป่า ไก่ฟ้า นกขุนแผน นกแต้วแล้ว
ได้ยินเสียงนก ชะนีร้องตอนเช้า เห็นวิถีชีวิตและมิตรภาพของชาวกะเหรี่ยง
ได้กินข้าวไร่ น้ำพริกกะเหรี่ยง อาบน้ำในห้วย สูดอากาศบริสุทธิ์
การเดินทางก็ตื่นเต้นตลอดเส้นทาง ............ ทริปนี้ เต็มสิบ ให้ ร้อยเลย
ได้ใจไปสุดๆครับพี่น้อง
เย็นๆเราก็ออกมาจากป่าทุ่งใหญ่ไปนอนในตัวอำเภอสังขละบุรี
อำเภอชายแดนไทย-พม่า แต่เราคิดว่าเราอยู่ในพม่านะ
เพราะมีแต่คนพม่าทั้งนั้นเลย แม้แต่โรงแรมที่เราไปนอน คนงานเป็นพม่าหมด
โรงแรมน่ากลัวมากกกกกกกกก ดีนะที่คราวนี้เราไม่โดนผีอำ
เพราะถ้าเราโดนอำเราไม่รู้จะบอกผีให้มันเลิกอำเรายังไง
เพราะคงเป้นผีพม่า เราพูดพม่าไม่เป็น คิคิคิคคิ
เช้าอีกวันก็แวะไปกราบหลวงพ่ออุตตะมะ เกจิอาจารย์ของชาวมอญรามัญ
แวะไปถ่ายรูปสะพานไม้ แล้วก็เดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
เราได้แผลจากหินในห้วยบาดมา 1 แผลที่เท้า
โดนแมลงอะไรไม่รู้กัดตรงท้องแขนมา 1
ได้ความประทับใจไปเต็มๆ
ทริปนี้จบเหอะ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที