วิกูล

ผู้เขียน : วิกูล

อัพเดท: 27 พ.ค. 2007 08.11 น. บทความนี้มีผู้ชม: 6778 ครั้ง

บ่อยครั้งที่หัวหน้างานถูกกล่าวหาว่าลวนลามหรือล่วงละเมิดทางเพศผู้ใต้บังคับบัญชา จริงเท็จอย่างไรยังไม่ปรากฏ เมื่อถูกร้องเรียนหรือเป็นข่าวย่อมทำให้ชื่อชื่อเสียงเกียรติยศมิใช่น้อย หัวหน้างานจึงควรรู้เทคนิคนี้ไว้ป้องกันตนเอง


เทคนิคเอาตัวรอดของหัวหน้างาน

บ่อยครั้งที่หัวหน้างานถูกกล่าวหาว่าลวนลามหรือล่วงละเมิดทางเพศผู้ใต้บังคับบัญชา    จริงเท็จอย่างไรยังไม่ปรากฏ   เมื่อถูกร้องเรียนหรือเป็นข่าวย่อมทำให้ชื่อชื่อเสียงเกียรติยศมิใช่น้อย  หัวหน้างานจึงควรรู้เทคนิคนี้ไว้ป้องกันตนเอง

                จากปัจจุบันที่การจ้างงานมีหญิงชายทำงานผสมกันไปนั้น มีทั้งผู้ประสงค์ดีต่อหัวหน้าและประสงค์ร้าย  การสื่อสารรวดเร็วขึ้น  ประกอบกับพนักงานในทุกภาคส่วนได้รับการคุ้มครองตามมาตรฐานแรงงานไทย  รวมถึงพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน  แต่ละสถานประกอบการไม่สามารถอ้างได้ว่าไม่ได้นำมาตรฐาน  หรือกฏหมายดังกล่าวมาปฏิบัติ   กฏหมายที่ออกมาก็น่าจะเป็นคุณทั้งสองฝ่ายทั้งนายจ้างและลูกจ้าง  แต่ในทางปฏิบัติลูกจ้างย่อมได้รับความเห็นใจมากกว่า ดังจะเห็นได้จากเมื่อเกิดเหตุเป็นข่าวทุกครั้ง  ฝ่ายเสียเปรียบคือนายจ้างหรือหัวหน้างานเพราะสังคมจะมองว่าผู้ใหญ่รังแกเด็ก  หัวหน้างานในยุคของมาตรฐานแรงงานไทย  จึงควรมีหลักปฏิบัติที่จำง่ายใช้ได้ผลเพื่อป้องกันตนเอง โดยเฉพาะเรื่องของการลวนลามทางเพศ ล่วงละเมิดทางเพศที่ท่านอาจจะเป็นจำเลยโดยไม่ได้กระทำความผิด  ไม่เฉพาะหัวหน้างงานชายเท่านั้น หัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชาหญิงก็ต้องควรรับรู้ไว้เช่นกัน

            มาตรฐานแรงงานไทย  (  มรท. ๘๐๐๑  –  ๒๕๔๖  )  ในข้อ    5.7.3  ความว่า “สถานประกอบกิจการต้องมีมาตรการป้องกันมิให้ลูกจ้างถูกล่วงละเมิดทางเพศ  โดยการแสดงออกด้วยคำพูด  ท่าทาง  หรือการสัมผัสทางกายโดยเฉพาะลูกจ้างที่เป็นหญิงหรือเด็ก”

            ถึงสถานประกอบการมีมาตรการป้องกันแล้ว  เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้มีมลทินผิดมาตรฐานแรงงานไทยโดยไม่ตั้งใจ  จึงขอนำวิธีที่จะสามารถช่วยท่านได้นั่นก็คือ “อย่าอยู่ในที่   ลับหู   ลับตา   กับลูกน้องที่เป็นเพศตรงข้ามกับท่านเพียงสองต่อสอง ”

            ลับหู                        ( ไม่ได้ยินด้วยหู  แต่รู้เห็นด้วยตา )

                ลับตา                       ( ไม่รู้เห็นด้วยตา  แต่ได้ยินด้วยหู )

                ลับหูลับตา               (  ไม่ได้ยินด้วยหู  ไม่รู้ไม่เห็นด้วยตา )

                ถ้าจำเป็น ท่านต้องหาพนักงานที่เป็นบุคคลที่สาม  ไม่สนิทกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งและสามารถเป็นพยานให้ท่านได้เมื่อเกิดเหตุภายหลัง   อย่าทำห้องทำงานหรือจุดทำงานของท่านเหมือนเป็นห้องลับแล มีเลขาหน้าห้องก็ควรทำประตูเป็นกระจกเมื่อเรียกใช้งานก็มิควรปิดประตู เป็นต้น         เอาเป็นว่า “ ทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้ลับหูลับตา “   ต้องทั้งสองอย่างพร้อมกันนะครับ

                พระสงฆ์องค์เจ้าท่านยังได้รับความลำบากใจเลยตามที่เป็นข่าวบ่อยๆ ที่พระคุณเจ้าบางรูปท่านถูกกล่าวหาว่าลวนลามสีกา  ซึ่งสีกาเองตอนแรกก็มาในนามผู้แสวงบุญสุดท้ายกลายเป็นนารีพิฆาตร  พระคุณเจ้าท่านระวังมากครับปัจจุบัน  น้องๆที่เป็นพนักงานเพื่อความสบายใจก็อย่าอยู่ในที่ลับหู  ลับตา กับ หัวหน้า หรือคนอื่นๆ ที่ไว้ใจไม่ได้ จะเป็นการดียึดหลักไว้ครับ “ปลอดภัยไว้ก่อนไม่ใจอ่อนเด็ดขาด”

                กุศโลบายที่ผมได้นำมาเรียนท่านนั้นประยุกต์มาจากวิธีการพิจารณาอาบัติของพระสงฆ์พุทธศาสนา ที่เรียกว่า “อนิยต”   โดยห้ามพระอยู่ในที่ลับหูลับตากับหญิงสองต่อสอง ฯลฯ  ครับ ธรรมทางศาสนาสามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกสถานการณ์    แล้วขณะนี้ท่านอยู่กับใคร ที่ไหน...?


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที