Sale Page คืออะไร เว็บไซต์หน้าเดียวสำหรับขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์เป็นที่นิยมอย่างมากในสมัยนี้ การซื้อของโดยไม่ต้องไปถึงหน้าร้าน เป็นความสะดวกสบายที่หลายๆคนเริ่มติดใจ ยิ่งด้วยภาวะการแพร่ระบาดของโควิด ที่ทำให้คนต้องกักตัวอยู่บ้าน ร้านค้าต่างๆจึงต้อง มีการปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ โดยเพิ่มช่องทางการขายสินค้าของตัวเองด้วยการขายของออนไลน์ ซึ่ง Sale Page ก็เป็นอีกวิธีที่คนขายของออนไลน์ใช้กัน โดยวันนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่า Sale Page คืออะไร ?
Sale Page ความสำคัญต่อการขายของออนไลน์ มีเว็บไซต์แล้ว ทำไมควรทำ Sale Page เพิ่ม ?
การขายของ สื่งที่จำเป็นมากที่สุด คือการทำให้ลูกค้ารู้ว่าเราขายสินค้าอะไรบ้าง วิธีที่พ่อค้า แม่ค้า ในสมัยก่อนใช้ก็คือ การวางขายสินค้าขายหน้าร้าน เพื่อให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมารู้ว่า เรามีสินค้าอะไรจำหน่ายบ้าง แต่นั่นก็ทำให้คนรู้จักสินค้าเราได้ไม่มากพอ ขั้นต่อมา เริ่มมีการพัฒนา ทำเป็นประกาศ ทำใบปลิวแจกคน เพื่อให้คนรู้ว่าเรามีสินค้าอะไรขายบ้าง โดยที่เค้าไม่จำเป็นต้องเดินผ่านร้านเรา จะเห็นได้ว่าสิ่งที่สำคัญของ การขายของ คือ ทำให้ลูกค้ารับรู้ว่าเรามีสินค้าอะไรบ้าง การขายของออนไลน์เองก็เช่นกัน ซึ่ง Sale Page เป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่ทำให้คนที่ใช้อินเตอร์เน็ต สามารถรับรู้ได้ว่าเราขายสินค้าอะไรบ้าง
Sale Page กับ เว็บไซต์ Landing Page ต่างกันอย่างไร
Sale Page และ Landing Page เป็นช่องทางในการขายสินค้าทางออนไลน์รูปแบบนึง มีจุดประสงค์ที่เหมือนกัน คือ การโปรโมทให้ผู้บริโภครับรู้การมีอยู่ของเรา แต่คุณสมบัติของทั้งสองอย่างนี้ มีความแตกต่างกันเล็กน้อย โดยหากนำทำความเข้าใจถึงรายละเอียดของทั้ง Sale Page และ Landing Page แล้วการแยกความแตกต่างกันระหว่างสองอย่างนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
Sale Page คือ
Sale Page คือหน้าหนึ่งของเว็บไซต์ ใน Sale Page จะมีคำพูดที่เชิญชวนให้คนมาซื้อสินค้าของเรา โดยจะมีบรรยายสรรพคุณของสินค้า ราคา โปรโมชัน มักมีวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียว คือ เน้นการขาย โดยคุณสมบัติของ Sale Page คือ มีเพียงหน้าเดียวเท่านั้น Sale Page ที่ดีควรทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้บริโภคเขาใจถึงสาสน์ของเรา ภายในหนึ่งหน้า Sale Page นั้นก็มีอยู่หลายชนิดตั้งแต่ Sale Page Facebook หรือ Sale Page Tiktok ซึ่งก็ตรงกับคุณสมบัติพื้นฐานของ Sale Page คือ เข้าใจครบจบในหน้าเดียว
Landing Page คือ
Landing Page เองก็เป็นเว็บไซต์ที่ช่วยในการโปรโมทสินค้าเช่นกัน แต่มีลูกเล่นที่มากกว่า โดย Landing Page มักจะถูกเลือกใช้จากองค์กร หรือบริษัทขนาดใหญ่มากกว่า เพราะกลุ่มผู้ประกอบการเหล่านี้ ไม่ได้เพียงแค่ต้องการขายสินค้า แต่อยากจะโปรโมทส่วนต่างๆ เช่น ความเป็นมาของบริษัท ภาพลักษณ์ที่ดีของ บริษัท หรือแม้แต่สินค้า โดย Landing Page มีข้อสังเกต คือ ไม่ใช่เว็บไซต์ที่จบในหน้าเดียว เหมือน Sale Page แต่จะมีหน้าต่างอีกหลายอย่างในเพจ เพื่อให้คนเข้าไปดูรายละเอียดส่วนต่างๆให้มากขึ้น เช่น เมื่อเราเข้า Landing Page จะให้ความรู้สึกเหมือน Landing ลงมาที่ส่วนกลางก่อน แล้วจะเจอประตูไปยังส่วนอื่นๆของเพจได้อีก Landing Page เหมาะกับผู้ประกอบการที่ไม่ต้องการโปรโมทเพียงแค่สินค้า แต่ต้องการโปรโมทอีกหลายอย่าง ซึ่งไม่สามารถทำให้จบได้ในหน้าเดียว
สรุปความแตกต่างของ Sale Page และ Landing Page
1. Sale Page มีครบจบในหน้าเดียว, Landing Page จะเชื่อมต่อไปยังหน้าต่างๆของเพจ
2. Sale Page เน้นไปที่การขายเท่านั้น, Landing Page ทำขึ้นเพื่อจุดประสงค์อื่นๆได้อีก ซึ่งมากกว่าการขาย เช่น ประชาสัมพันธ์องค์กร
ข้อดีของ Sale Page (เซลเพจ)
1. คนที่เข้ามาใน Sale Page จะสามารถรับรู้ถึงรายละเอียดของสินค้าได้ในทันที
2. คนที่เข้ามาใน Sale Page จะช่วยให้ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจได้เร็ว และง่าย เพราะรับรู้รายละเอียดทั้งหมดแล้ว
3. สามารถเผยแพร่ได้ง่าย เพียงแค่การส่งลิ๊งต่อ
ทำหน้า Sale Page (เซลเพจ) ต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง
Sale Page ที่ดีต้องมีองค์ประกอบที่ครบถ้วนชัดเจน ลูกค้าสามารถเข้าใจได้ในหน้าเดียว มันจะช่วยทำให้เราสามารถปิดการขายได้เร็ว โดยองค์ประกอบที่ Sale Page ควรจะมีนั้น มีอยู่ดังนี้
1. Picture : รูปภาพ หรือแม้แต่วีดีโอที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถรับรู้ได้ว่าสินค้ามีหน้าต่างอย่างไร
2. Text : ต้องมีการระบุรายละเอียดสินค้า ราคาสินค้า โปรโมชัน หรือแม้แต่รีวิวจากลูกค้าคนอื่น สื่งเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้ามีความเข้าใจในสินค้ามากขึ้น เพิ่มโอกาสในการปิดการขาย
3. Call to action : การวางลิ๊ง หรือปุ่ม ที่โยงไปยัง Facebook, Line เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อเราได้ หรือแม้กระทั่งเบอร์โทร เพราะก็ยังมีกลุ่มลูกค้าที่อยากเช็คเพิ่มเพื่อความมั่นใจว่า ผู้ขายมีตัวตนไหม สามารถติดต่อได้จริงหรือไม่ และยังเพื่อให้ลูกค้าที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับสินค้าสามารถสอบถามเราได้เพิ่ม ในกรณีที่รายละเอียดใน Sale Page อาจจะไม่เพียงพอสำหรับลูกค้าบางคน
โดยองค์ประกอบเหล่านี้ เป็นองค์ประกอบหลักที่จะขาดไม่ได้ใน Sale Page ที่เหลือเป็นเรื่องของการดีไซน์ การตกแต่ง ต้องมีการจัดวางองค์ประกอบต่างๆให้เหมาะสม สามารถอ่านได้ง่าย ไม่รกจนเกินไป แม้ว่าข้อมูลสินค้าจะพร้อมขนาดไหน แต่ถ้าการออกแบบ Sale Page ไม่สวยงาม อ่านข้อมูลได้ยาก ขาดความน่าเชื่อถือ ลูกค้าก็อาจจะกดปิดทันทีเมื่อเปิดเข้ามา
วิธีทำ Sale Page เริ่มยังไง?
การจะทำ Sale Page ขึ้นมาสักอัน มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบคือ การลงมือทำเอง กับการจ้างให้ผู้เชี่ยวชาญทำ โดยเราจะเริ่มสำหรับคนที่สนใจอยากลองทำเองดูก่อน มีดังนี้
1. การวางธีมของ Sale Page : การวางแนวทางของ Sale Page ทั้งรูปภาพ การวางข้อความ และอื่นๆ รวมไปถึงการตกแต่ง Sale Page ว่าจะให้เป็นแบบไหน ตั้งแต่การเลือกสีพื้นหลัง Page และภาพ Cover สิ่งเหล่านี้จะเป็นอย่างแรกที่ตัดสินว่าลูกค้าจะอ่านข้อมูลต่อ หรือกดออก
2. การวางเนื้อหาของ Sale Page : การเลือกว่าจะวางเนื้อหาอะไรบ้าง ตั้งแต่สรรพคุณ ราคา โปรโมชัน และรีวิวจากลูกค้าก่อนหน้า การวางมากเกินไป มีการจัดเรียงที่อ่านยาก คนก็อาจไม่อ่านต่อ แต่ถ้าข้อมูลมีมากไม่พอคนก็อาจจะไม่ซื้อ ดังนั้นต้องมีการวางแผนในส่วนของข้อความที่จะลง Sale Page ให้ดี
3. การเช็คภาพรวม : หลังจากมีการวาง Lay out ของ Sale Page ทั้ง Picture, Text, Call to action ทั้งหมดแล้ว ควรมีการดูภาพรวมของ Sale Page อีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการตกหล่น
4. การทดลองแสดงหน้า Sale Page : แม้ว่าจะทำ Sale Page ออกมาได้ดีแค่ไหน ก็อาจตกม้าตายตอนจบ ถ้า Sale Page ที่ตั้งใจทำออกมา มีปัญหาในการแสดงผล ข้อความคลาดเคลื่อน รูปภาพหาย หรืออย่างร้ายที่สุดคือ Sale Page ไม่ปรากฏสิ่งใดขึ้นมาเลย ดังนั้นต้องตรวจสอบให้ดีก่อน เริ่มวางจำหน่ายสินค้า
โดยแต่ละขั้นตอน ก็ต้องมีการใช้โปรเเกรมต่างๆมากมาย ในการทำพวก Picture หรือการตกแต่งต่างๆ ซึ่งยิ่งคนที่ใช้โปรแกรมเป็นหลายอย่าง ก็จะมีข้อได้เปรียบในการทำ Sale Page ที่ดึงดูดได้
แต่ . . . ไม่ใช่ว่าคนที่ไม่มีความสามารถทางคอมพิวเตอร์ หรือใช้โปรแกรมได้ไม่เยอะ จะมี Sale Page ที่ดีไม่ได้ เพราะมีบริการรับทำ Sale Page ที่สามารถหาได้ง่าย เพียงเเค่เราบอกสินค้าข้อมูลที่จะขาย ให้ไอเดียว่าอยากได้ Sale Page แนวไหน และรายละเอียดปลีกย่อยทั้งหมด บริษัท onepage website รับทำเซลเพจก็จะสามารถรังสรรค์ Sale Page ออกมาได้ตามที่เราต้องการ ด้วยบุคลากรที่มีความพร้อมทั้งความรู้ ความสร้างสรรค์ และประสบการณ์ในการทำ Sale Page มามากมาย
สรุป
ในยุคที่การขายของออนไลน์ มีความเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก การโปรโมททางออนไลน์ ก็กลายเป็นสิ่งที่จำเป็น พ่อค้า แม่ค้า ต้องมีการปรับตัวเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่ง Sale Page ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้สินค้าของเราสามารถเป็นที่รับรู้ของลูกค้าได้มากขึ้น
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
- ตอนที่ 1 : Sale Page คืออะไร เว็บไซต์หน้าเดียวสำหรับขายของออนไลน์