สำหรับในเรื่องค่าจ้างทนาย คดีแพ่งหรือ ค่าทนายคดีอาญา แต่ละคดีมีความ ยากง่ายแตกต่างกันดังนั้นอัตราค่าบริการจึงไม่เท่ากัน คดีแพ่งบางอย่างเช่น คดีผู้จัดการมรดก หรือคดีอาญาเช่นหมิ่นประมาท
โดยทั่วไปจะมีหลักเกณฑ์ประมาณนี้คือ
1.ความซับซ้อนของคดี
สำหรับคดีที่ข้อเท็จจริงมีความซับซ้อน ไม่ค่อย ชัดเจนเท่าไหร่การดำเนินคดีย่อมมีความยุ่งยาก และมีโอกาสที่ฟ้องไปแล้วศาลอาจจะยกฟ้องก็ได้ บางเรื่องมันยากที่จะวินิจฉัย แต่ถ้าไม่ฟ้องก็จะเสียหาย
2.พยานหลักฐานที่ใช้
บางคดีต้องเบิกความพยานบุคคลและพยานเอกสารจำนวนมาก ซึ่งหมายความว่าเราจะต้องเตรียมข้อมูลเยอะ และหาก พยานบุคคลหรือเอกสารบางอย่างเราไม่ได้สามารถนำมาได้ก็อาจจะต้องหมายเรียกพยานบุคคลหรือพยานเอกสารนั้น ซึ่งเพิ่มขั้นตอนการทำงาน ของทนายความ
3. ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ได้รับมาครบถ้วนกระบวนความหรือยัง
คดีที่ข้อเท็จจริงได้มาไม่ครบถ้วน ทนายอาจจะต้องลงพื้นที่ไปหาข้อมูลเพิ่มเติม อันมีผลทำให้ต้นทุนสูงขึ้นทำให้ค่าทนายแพงขึ้น เช่นคดีที่ดิน ทนายอาจจะต้องลงไปเก็บข้อมูล หาข้อมูลเพิ่มเติมหรือเอกสารจากสำนักงานที่ดิน ซึ่ง มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
4. พื้นที่ที่จะฟ้องคดี
สำหรับคดีแพ่ง โดยทั่วไปฟ้องคดีได้ 2 ที่คือเขตอำนาจศาลที่มูลคดีเกิดและ เขตอำนาจศาลตามภูมิลำเนาของจำเลย ถ้าหากทนายที่ท่านคุยด้วย อยู่ใกล้กับศาลที่จะฟ้องคดีก็จะทำให้ต้นทุนค่าเดินทางถูกลง อันมีผลให้ค่าจ้างทนายมีราคาไม่แพงมากเกินไป ไปหาพื้นที่ที่จะ ฟ้องคดีต่อศาลห่างไกลทนายเดินทางไกลค่าใช้จ่ายสูง ค่าทนายก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
สำหรับคดีอาญา เขตอำนาจศาลที่จะฟ้อง ก็เป็นสถานที่เกิดเหตุ ในเบื้องต้นนั้น จึงต้อง วิเคราะห์ว่าจะฟ้องที่ไหนศาลไหน
5. ทุนทรัพย์ในคดี
คดีแพ่งที่มี ทุนทรัพย์ในการฟ้องร้องสูง มีเดิมพันในการทำงานค่อนข้างมากดังนั้นอัตรา ค่าจ้างทนายก็จะสูงตามไปเพราะจะมีความกดดันในการทำงานมาก
คดีอาญา ซึ่งโดยปกติ มักจะแบ่งเป็น คดีอาญาอันยอมความได้และคดีอาญาแผ่นดิน คดีอาญาอันยอมความได้ก็เช่นข้อหายักยอกทรัพย์ กรณีเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยข้อหายักยอกทรัพย์อาจจะดำเนินการได้ 2 แบบก็คือ 1 แจ้งความเพื่อดำเนินคดี ที่สถานีตำรวจหรือทางที่ 2 ฟ้องตรงต่อศาล ราคาค่าจ้าง ทนายความ ก็ดังที่กล่าวมาจะดูปัจจัยข้อ 1 ถึงข้อ 5 เบื้องต้น
สำหรับคดีจัดการมรดก ซึ่งมักเป็นคดีแรกๆที่ทนายจ้างทำ ถ้าหาก ทายาทโดยธรรมทั้งหลายไม่ทะเลาะกันรุนแรงมากก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่หากมรดกนั้นมีมูลค่าสูงและต่างฝ่ายต่างไม่ยอม งานนี้ก็ไม่ง่าย มีความยุ่งยากตามมานั่นก็มีผลให้อัตราค่าทนายความสูงตามไปด้วย
ใดๆแล้วแต่ถ้าไม่อยาก จะต้องจ้างทนายความ หากคุยกันรู้เรื่อง ดีที่สุดเพราะจะเป็นการประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่าย ของทั้งสองฝ่ายเลยทีเดียว
หากถูกฟ้องในคดีแพ่ง จำเลยจะต้อง ยื่นคำให้การแก้ข้อหาแห่งคดีภายใน 15 หรือ 30 วัน ซึ่งเป็นเรื่องราวทางกฎหมายจำเป็นที่จะต้อง จ้างทนายมาเขียนคำให้การ เนื่องจากเราไม่สามารถทำเองได้
ในคดีอาญา ก็เช่นเดียวกัน จำเลยจะต้องยื่นคำให้การในวันนัดสอบคำให้การจะสารภาพหรือปฏิเสธก็ว่าไป
ต้องการสอบถามค่าจ้างทนายคดีแพ่ง คดีอาญา คดีมรดก โทรสอบถามที่
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที