GIT Information Center

ผู้เขียน : GIT Information Center

อัพเดท: 01 ธ.ค. 2021 14.17 น. บทความนี้มีผู้ชม: 959 ครั้ง

ภายใต้สถานการณ์ความไม่สงบภายในเมียนมาที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงเมื่อใด ก่อให้เกิดความขัดแย้งเป็นวงกว้างแผ่กระจายไปทั่วประเทศ รวมทั้งเมืองผะกันซึ่งเป็นแหล่งผลิตหยกที่ใหญ่ที่สุดของโลก อุตสาหกรรมหยกในเมียนมาจะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง ตามอ่านได้ใน


หยกเมียนมาในยุคที่มืดมิด

            ประเทศเมียนมาต้องติดหล่มอยู่กับสถานการณ์ความไม่สงบมาตั้งแต่กุมภาพันธ์ ด้วยปัญหาขัดแย้งระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมากับกลุ่มผู้ประท้วงที่ขยายวงกว้าง กระทั่งเกิดการตั้งรัฐบาลเงาและกองกำลังปกป้องประชาชนขึ้น แม้หลายฝ่ายต่างพยายามช่วยกันหาทางออกเพื่อระงับความรุนแรงที่เกิดขึ้น รวมทั้งฉันทามติอาเซียน 5 ข้อ ของผู้แทนชาติในอาเซียนที่ได้ให้การเห็นชอบเพื่อยุติความรุนแรงในเมียนมาและปูทางสู่การเจรจา แต่กลับไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ผลกระทบจึงยังคงเกิดขึ้นกับทุกภาคส่วน รวมทั้งอุตสาหกรรมหยกในเมียนมา

            การปะทะกันระหว่างสองฝ่ายเกิดขึ้นในหลากหลายพื้นที่ของเมียนมา รวมทั้งการสู้รบในบริเวณเมืองผะกัน (Hpakant) รัฐคะฉิ่น ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมียนมา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตหยกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ก่อนนี้การทำเหมืองหยกสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศในฐานะสินค้าส่งออกที่สำคัญ โดยมีจีนเป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่สุด ตามปกติหยกจะถูกส่งต่อมายังศูนย์กลางการซื้อขายหยกที่สำคัญในเมืองมัณฑะเลย์ (Mandalay) แต่ทุกวันนี้ ตลอดสองข้างทางที่เคยมีร้านค้าหยกจำนวนมากกลับต้องปิดตัวลงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และซ้ำด้วยความไม่สงบที่เกิดขึ้น ทั้งยังมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นในบริเวณตลาดสร้างความหวาดผวาต่อผู้ค้าขายและผู้อาศัยในบริเวณใกล้เคียง

            ขณะที่จีนยังคงปิดชายแดนกับเมียนมาจากสาเหตุการแพร่ระบาดของโควิด-19 และความไม่สงบซึ่งมักเกิดเหตุสู้รบกันประปรายบริเวณใกล้ชายแดน ส่งผลให้อำนาจการต่อรองซื้อขายหยกตกเป็นของผู้ซื้อชาวจีน ทุกวันนี้หยกที่เคยมีราคานับแสนจ๊าต (ราว 18,425 บาท) กลับมีราคาเหลือเพียง 50,000 จ๊าต (ราว 9,212 บาท) สวนทางกับสถานการณ์การซื้อขายหยกในจีนที่ราคาพุ่งสูงขึ้นจากการขาดแคลนหยกในตลาด

ภาพบรรยากาศในอดีตของตลาดค้าหยกมัณฑะเลย์ที่เคยคึกคัก จาก www.mkttravelandtours.com

            หยกรวมทั้งอัญมณีชนิดต่างๆ เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของทั้งฝ่ายรัฐบาลและกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์หลายกลุ่ม กลุ่มเหล่านี้จึงมีการกักตุนสต็อกหยกคุณภาพดีเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้ค้าหยกที่มีร้านในศูนย์การค้าที่ไม่สามารถกลับมาเปิดขายได้จะถูกยึดพื้นที่ขายคืนชั่วคราว ส่วนกองกำลังปกป้องประชาชนก็ร้องขอให้ผู้ค้าไม่ไปทำธุรกิจในตลาดดังกล่าว สร้างแรงกดดันให้ผู้ค้าที่ถูกบีบจากทั้งสองฝ่าย และยากที่จะมีข้อสรุปในสถานการณ์อันยากลำบากนี้ในเวลาอันสั้น  

 

ข้อมูลอ้างอิง


1) Bangkok Post. (2021). Myanmar jade traders squeezed between junta and rebels. From www.bangkokpost.com/business/2210283
2) AFP. (2021). Myanmar jade traders squeezed between junta and rebels. From https://news.yahoo.com

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที