พออายุเพิ่มมากขึ้น ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ไม่ดีเหมือนเก่า เหมือนตอนที่เรายังเป็นวัยรุ่น ที่ต่อให้กินเยอะ กินดึก จัดหนักจัดเต็มแค่ไหนก็ไม่อ้วน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ เพราะแค่หายใจก็อ้วนแล้ว
การควบคุมอาหารและลดน้ำหนักแต่ละทีไม่ง่ายเหมือนตอนกิน ต้องใช้ทั้งวินัย ใช้ทั้งความอดทนกันอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะในจุดที่ลดได้ยากอย่างต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เอว (ห่วงยาง) และสะโพก ซึ่งเป็นการลดไขมันเฉพาะจุดที่ลดเท่าไหร่ก็ลดไม่ลง เป็น 5 จุดลดยาก จนแทบอยากจะถอดใจ
1. ต้นเขน
ถ้าลองใช้มือจับบริเวณท้องแขน แล้วรู้สึกเนื้อเหลว นุ่มนิ่ม เกิดจากการสะสมของไขมันที่มากเกินไป ทำให้ต้นแขนใหญ่ หย่อนคล้อย และไม่กระชับ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดูโอเคเลยสำหรับสาว ๆ หลายคนหมดความมั่นใจ เพราะใส่เสื้อแขนกุด โชว์ช่วงแขนไม่ได้เหมือนใครเขา
2. ต้นขา
ต้นขาใหญ่ ขาเบียด สร้างความกังวลใจ ถ้านั่งเหยียดขาและใช้มือบีบบริเวณต้นขาและดึงยืดออก ถ้ายืดออกได้มากแสดงว่าต้นขามีการสะสมไขมันและเซลลูไลท์ สังเกตเห็นเป็นผิวขรุขระหรือที่เรียกว่าผิวเปลือกส้ม หมดความมั่นใจเวลาใส่กางเกงขาสั้น ต้องรีบจัดการด่วน
3. หน้าท้อง
หน้าท้องหรือพุง เป็นจุดที่มีไขมันสะสมอยู่มากเช่นเดียวกัน ทำให้พุงยื่น พุงย้อย เป็นส่วนที่เอาออกยากที่สุด เพราะเป็นส่วนที่ไขมันสะสมได้ง่ายที่สุด และเผาผลาญให้หมดยากที่สุด ยิ่งคนที่ทำงานติดโต๊ะ Work From Home ไม่ค่อยได้ขยับเขยื้อนร่างกายด้วยแล้ว มารู้ตัวอีกทีพุงเป็นชั้นไปแล้ว
4. สะโพก
ไขมันสะสมบริแวณสะโพก ทำให้สะโพกใหญ่ ก้นใหญ่ ขาดความกระชับ และรูปร่างดูไม่สมส่วนได้ เกิดจากการสะสมของไขมัน เกิดจากการรับประทานอาหารโดยไม่ควบคุมและการไม่ออกกำลังกาย บวกกับการนั่งนาน ๆ ก็ทำให้เลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนไม่ดี ซึ่งมีผลให้สะโพกใหญ่ขึ้นได้ กลายเป็นโอ่งมังกร
5. เอว (ห่วงยาง)
เปลี่ยนใจซื้อกางเกงใหม่ยังง่ายกว่า หลายคนคิดแบบนี้ เพราะไขมันเฉพาะจุดลดยาก เกิดจากการสะสมมานานเป็นปีจากอาหารที่รับประทานเข้าไป นับ ๆ ดูแล้วแคลอรีก็น่าจะมหาศาล ทำให้จากที่เคยมีเอวเอส กลายเป็นมีห่วงยาง ที่ถ้าลองเอื้อมมือไปจับบริเวณด้านข้างลำตัว เยื้องไปทางด้านล่างของแผ่นหลัง จะจับได้เป็นก้อนติดมือ
สำหรับใครที่ออกกำลังกายลดสัดส่วน แต่เห็นผลช้า หรือว่าไม่มีเวลาออกกำลังกาย มองหาวิธีกำจัดไขมันส่วนเกินสะสม ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่เรียกว่า CoolSculpting เป็นการสลายไขมันด้วยความเย็นที่เห็นผลเร็วและปลอดภัย มีให้บริการที่คลินิกเสริมความงามชั้นนำ
CoolSculpting คือ เทคโนโลยีการสลายไขมันด้วยความเย็น ที่คิดค้นและพัฒนาโดย นายแพทย์ Dieter Manstein และ นายแพทย์ R.Rox Anderson จากมหาวิทยาลัย Harvard สหรัฐอเมริกา มีการใช้ CoolSculpting แล้วกว่า 74 ประเทศทั่วโลก ได้รับ US FDA approved มีความปลอดภัยสูง
เครื่อง CoolSculpting ทำงานโดยส่งความเย็นในระดับจุดเยือกแข็งลงไปใต้ชั้นผิวหนัง เข้าสู่ชั้นไขมัน เหมือนเป็นการแช่แข็งไขมัน ทำให้ไขมันตายและถูกขับออกมาจากร่างกายตามธรรมชาติ ทำให้รูปร่างกระชับ ได้สัดส่วนมากขึ้น
เป็นเทคโนโลยีใหม่ในการกำจัดไขมันสะสม โดยไม่ต้องดูดไขมัน ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องฉีด ไม่ทำให้เกิดรอยแผล และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ที่สำคัญคือผลลัพธ์ สามารถกำจัดเซลล์ไขมันได้ถาวรครั้งละ 25% ในจุดที่ทำ
ก่อนจะใช้เครื่อง CoolSculpting ต้องสำรวจตัวเองก่อนว่า มีปัญหาไขมันมากน้อยแค่ไหน และมีสัดส่วนเป็นอย่างไร เพราะถ้ามีปริมาณไขมันสะสมมากเกินไป การทำ CoolSculpting มีน้ำหนักมากและค่า BMI มากกว่า 35 ไม่เหมาะกับการสลายไขมันด้วยความเย็น เพราะเห็นผลได้น้อยและช้า
เครื่อง CoolSculpting แบ่งการทำงานออกเป็น 4 Step ดังนี้
Step 1 ดูดและดึงชั้นไขมัน : แพทย์จะเลือกหัว CoolSculpting ที่เหมาะสม เพื่อดูดผิวและดึงชั้นไขมันเอามาไว้ในหัวของเครื่อง
Step 2 ปล่อยความเย็น : หัวดูดจะปล่อยความเย็น -11 องศาเซลเซียส แช่แข็งก้อนไขมัน 35 นาที ในแต่ละจุด มีระบบ Freeze Detect เครื่องจะหยุดทำงานทันทีหากความเย็นมากเกินไป
Step 3 เซลล์ไขมันค่อย ๆ ตาย : เมื่อครบเวลา จะใช้การนวดเพื่อให้เซลล์ไขมันตาย และลดจำนวนลงแบบถาวร ก่อนถูกร่างกายกำจัดออกไปเองตามธรรมชาติ
Step 4 เซลล์ไขมันหายไป 20-25% : เริ่มเห็นผลใน 3-4 สัปดาห์แรกว่าสัดส่วนเล็กลง เห็นผลเต็มที่ใน 3 เดือน
ปล่อยความเย็นกำจัดเซลล์ไขมันให้หายไป
ระหว่างทำ CoolSculpting จะมีแพทย์และ Specialist ดูแลอย่างใกล้ชิด โดยช่วง 5-10 นาทีแรก อาจมีอาการปวดจากความเย็น แต่อาการจะค่อย ๆ หายไป ระยะเวลาที่ทำจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีต่อ 1 จุด
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างข้างที่ทำและยังไม่ได้ทำ
ก่อนทำ : ผิวหนังบริเวณหน้าท้องยังห้อยย้อย ไม่กระชับ
หลังทำ : ผิวกระชับ ห่วงยางลดลง
การทำ CoolSculpting เห็นผลลัพธ์ชัดเจน สามารถทำได้เรื่อย ๆ ไม่เกิดผลเสีย โดยจำนวนเซลล์ไขมันจะลดลงไปเรื่อย ๆ
สำหรับใครที่มีปัญหาไขมันส่วนเกิน สามารถทำ CoolSculpting กับคลินิกเสริมความงามชั้นนำ ที่ใช้เครื่อง CoolSculpting มีแพทย์และ Specialist คอยดูแล
และที่สำคัญต้องอย่าลืมว่า แม้เราจะกำจัดเซลล์ไขมันออกไป แต่ถ้าไม่ควบคุมน้ำหนัก เซลล์ไขมันส่วนที่เหลือก็สามารถเพิ่มขนาด และทำให้สัดส่วนในจุดนั้นขยายไซส์กลับคืนมาได้ แต่จะไม่มากกว่าเดิม
แม้จะทำ CoolSculpting แล้ว แต่ก็ต้องควบคุมอาหารและออกกำลังกายร่วมด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและยืนยาว เรียกคืนความมั่นใจ โชว์ต้นแขน อวดเอวเอส เรียวขาสวย หน้าท้องแแบนราบ สะโพกสมส่วน หุ่นดี ไม่มีไขมันส่วนเกิน
Credit : https://www.vsquareconsult.com/coolsculpting/
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที