ทันตกรรม เป็นสิ่งที่คนหันมาสนใจมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะนอกจากฟันจะทำหน้าที่บดเคี้ยวอาหารแล้วฟันที่ดูสะอาดเรียงซี่สวยยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรามีบุคลิกภาพที่ดีด้วย แต่ทันตกรรมที่ว่าคืออะไร แล้วเราสามารถทำทันตกรรมอะไรได้บ้าง? บทความนี้มีคำตอบให้คุณ
ตามพจนานุกรมแล้ว ทันตกรรม คือ การรักษาโรคทางฟัน เหงือก ขากรรไกร และโรคภายในช่องปาก หากพูดกันให้เข้าใจง่ายคือ เมื่อเราเป็นโรคอะไรก็ตามเกี่ยวกับช่องปาก และเข้าพบทันตแพทย์ในสถานทันตกรรม ทุกอย่างที่ทันตแพทย์ทำเพื่อรักษาโรคในช่องปากของเรา เรียกว่าทันตกรรมทั้งหมด
ในปัจจุบันไม่ได้มีเพียงทันตกรรมเพื่อรักษาโรคเท่านั้น ทันตกรรมบางประเภทนิยมทำเพื่อความสวยงาม เรียกว่า “ทันตกรรมเพื่อความงาม” แต่ถึงอย่างนั้น ทันตกรรมบางอย่างมีขึ้นเพื่อทั้งแก้ปัญหาโรคทางช่องปาก และช่วยเรื่องความสวยงามด้วย จึงไม่สามารถแยกประเภทของทันตกรรมตามเกณฑ์ที่ว่าได้ ในบทความนี้ จึงขอพูดถึงประเภทของทันตกรรมที่แบ่งตามบริการ ที่สถานทันตกรรมในปัจจุบันเปิดให้บริการแทน
วีเนียร์ (Veneers) คือ ทันตกรรมเพื่อความงามแบบหนึ่ง ทันตแพทย์จะติดวัสดุทันตกรรมลงบนผิวฟัน เพื่อแก้ไขรูปฟัน ฟันหัก ฟันห่างฟันบิ่น หรือแก้ไขสีฟัน ฟันเหลือง ฟันด่าง ให้กลับมาขาวสะอาด เรียงตัวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ
วีเนียร์เป็นทันตกรรมอย่างหนึ่งที่ดาราและบุคคลมีชื่อเสียงเลือกทำกันมาก เนื่องจากทำให้ฟันดูดี เห็นผลทันที และอยู่ได้นาน การทำวีเนียร์จะมี 2 ประเภท แบ่งตามวัสดุที่ใช้ติดบนผิวฟัน ทำให้วีเนียร์ทั้งสองประเภทมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ดังนี้
ทันตกรรมวีเนียร์จะนิยมทำที่ฟันบนซี่หน้า เพราะเป็นฟันที่เห็นชัดเมื่อยิ้มหรือพูดคุยกัน ทั้งนี้แต่ละคนควรเลือกทำวีเนียร์ซี่ไหนบ้าง ทำกี่ซี่ หรือควรทำวีเนียร์แบบใด จะขึ้นอยู่กับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะดีไซน์รอยยิ้มให้เหมาะกับคุณ
การจัดฟัน หรือดัดฟัน (Orthodontics) คือ การแก้ไขตำแหน่งฟันด้วยเครื่องมือทางทันตกรรม ช่วยแก้ปัญหาเรื่องฟันเก ฟันห่าง ฟันซ้อน ปรับรูปหน้า แก้ปัญหาการสบกันของฟันและขากรรไกร เป็นทันตกรรมที่นิยมทำกัน ทั้งเพื่อเหตุผลทางการแพทย์และความงาม จั
ดฟันมีหลายประเภท แบ่งตามชนิดของเครื่องมือทางทันตกรรมที่ใช้ โดยจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ
การจะเลือกจัดฟันแบบไหน ขึ้นอยู่กับทั้งตัวคนไข้เอง และทันตแพทย์ เพราะการจัดฟันแต่ละแบบค่อนข้างต่างกัน คนไข้มีงบเท่าไหร่? สะดวกติดเครื่องมือไหม? อยากจัดเสร็จเร็วหรือเปล่า? ทันตแพทย์จะเป็นผู้แนะนำทันตกรรมจัดฟันแต่ละแบบที่เหมาะกับคุณ
การทำฟันปลอม หรือฟันเทียม (Prosthodontics) คือ การแก้ไขปัญหาฟันเสียหาย หรือฟันที่หลุดไปด้วยการนำวัสดุที่มีลักษณะคล้ายฟันมาใส่แทนที่ฟันที่หายไป หรือแต่งเติมฟันบางส่วนให้ฟันกลับมาสมบูรณ์แบบเดิม
การทำฟันปลอมเป็นทั้งทันตกรรมเพื่อความงามและเพื่อรักษาโรค เพราะการไม่มีฟันบางซี่นอกจากจะไม่สวยงามแล้ว ในระยะยาวถ้าไม่มีฟันใหม่มาแทนที่ฟันเดิม ฟันของเราจะค่อยๆ เคลื่อนเข้าหากันจนเกิดอาการที่เรียกว่าฟันล้ม
ถ้าฟันล้มขึ้นมาก็ต้องแก้ปัญหาด้วยการจัดฟัน และท้ายที่สุดก็ต้องทำฟันปลอมอยู่ดี ดังนั้นหากฟันหลุด ฟันแตก หรือจำเป็นต้องถอนฟันแท้ออกไป ควรปรึกษาทันตแพทย์โดยเร็วเพื่อป้องกันฟันล้มก่อนสายเกินแก้
การฟอกสีฟัน (Teeth Whitening) คือ การทำให้ฟันของเราขาวขึ้น เป็นทันตกรรมเพื่อความงามโดยตรง ทันตแพทย์จะใช้น้ำยาฟอกสีฟันทาลงบนตัวฟัน แล้วฉาย LED Cooling Light เข้าไป เพื่อให้สารในน้ำยาฟอกสีฟันเข้าไปสลายเม็ดสีสีเหลืองในเนื้อฟัน ทำให้ฟันของเราดูขาวมากขึ้น
เรื่องที่คนเข้าใจผิดอยู่มากเกี่ยวกับทันตกรรมฟอกสีฟันคือ คนมักเข้าใจว่าการที่ฟันเราขาวขึ้นเป็นเพราะน้ำยาฟอกสีฟันกัดสารเคลือบฟันเราออกไปอย่างถาวร ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดจากความเป็นจริงไปมาก น้ำยาฟอกสีฟันไม่ได้ทำปฏิกิริยาใดๆกับเคลือบฟันเลย แม้ช่วงแรกหลังการฟอกสีฟันจะมีอาการเสียวฟันอยู่บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็จะหายไปเอง อาการเสียวฟันนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่เคลือบฟันหายไปแต่อย่างใด
หลังทำทันตกรรมฟอกสีฟันแล้วฟันจะขาวขึ้นกี่เฉด? ขาวอยู่นานแค่ไหน? ขึ้นกับสภาพเนื้อฟัน และพฤติกรรมการใช้ช่องปากของแต่ละคน เช่นการกิน การดื่ม และการสูบบุหรี่ ผู้ที่สนใจฟอกสีฟันควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนเพื่อให้ทันตแพทย์วิเคราะห์ว่าควรฟอกสีฟัน เพื่อวางแผนการรักษา จำเป็นต้องทำกี่ครั้ง? หรือควรทำวีเนียร์แทนไปเลย
รากเทียม หรือรากฟันเทียม (Dental Implant) คือ ทันตกรรมฟันปลอมชนิดหนึ่ง เป็นส่วนที่ยึดเข้าไปในเหงือก ลึกถึงกระดูกขากรรไกรเหมือนกับรากฟันจริงๆ เพื่อใช้ร่วมกับฟันปลอมแบบอื่นๆ อย่างครอบฟัน สะพานฟัน รากฟันเทียมจึงเป็นเหมือนกับฐาน เพื่อยึดฟันปลอมให้อยู่กับที่นั่นเอง
ทันตกรรมรากเทียมดีอย่างไร? หลายๆคนอาจจะไม่กล้าทำรากฟันเทียมเนื่องจากคนส่วนใหญ่บอกว่าราคาสูง แต่รากเทียมดีกว่าฟันปลอมชนิดอื่นๆตรงที่เวลาเราเคี้ยวอาหาร แรงกดจะอยู่ที่ขากรรไกรเหมือนฟันปกติ ในขณะที่ฟันปลอมถอดได้จะกดทับที่เหงือก นานๆ ไปเหงือกอาจจะระบมหรืออักเสบได้
ดังนั้นการทำรากเทียมก็เหมือนกับการลงทุนระยะยาว ราคาอาจจะสูงกว่าฟันปลอมแบบอื่นก็จริง แต่ก็จะทำให้เราใช้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่ปวดเหงือก เหมือนได้ฟันแท้กลับมาจริงๆ แถมรากฟันเทียมยังทนทานมากๆ ถ้ารักษาดีๆก็สามารถมีอายุการใช้งานถึง 20 ปีเลยทีเดียว
โรคเหงือก หรือเหงือกอักเสบ (Periodontics) คือ อาการที่เหงือกของเราถูกทำลายจากกรด หรือสารพิษ ซึ่งถูกปลอยออกมาจากแบททีเรียหรือจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่บนฟันของเรา จนทำให้เหงือกอักเสบ เหงือกบวม หรือเหงือกร่นได้ โรคเหงือกเกิดได้จากหลายสาเหตุ สาเหตุหลักคือการที่เราดูแลเหงือกและฟันได้ไม่ดีพอ ในช่วงแรกอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ทันตกรรมเพื่อรักษา เพียงแค่เราแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ขัดฟันด้วยไหมขัดฟันวันละอย่างน้อย 1 ครั้งก็สามารถช่วยได้แล้ว
อาจจะฟังดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่โรคเหงือกถ้าเป็นนานเข้า ไม่ดูแลเหงือกและฟันให้ดี และไม่ได้รับการรักษาก็จะอาการรุนแรงขึ้น ถ้ามีอาการเหงือกร่น มีช่องว่างระหว่างเหงือกกับรากฟันมาก คอฟันสึก ฟันโยก หรือมีหนองไหลจากเหงือก ถือว่าอาการหนักแล้ว ถ้ามีอาการเหล่านี้ ควรพบทันตแพทย์เพื่อทำทันตกรรมก่อนที่ฟันจะหลุดออกมา หรือขั้นร้ายแรงก็อาจจะทำให้เหงือกติดเชื้อและเสียชีวิตได้เลย
ศัลยกรรมตกแต่งเหงือก (Gummy Smile) คือ ทันตกรรมเพื่อความงามอย่างหนึ่ง ที่จะตัดเหงือกออกบางส่วน เพื่อให้เหงือกอยู่ในระดับเดียวกันอย่างเหมาะสม เวลายิ้มเห็นเหงือกน้อยลง เห็นฟันชัดมากขึ้น คนที่ทำทันตกรรมชนิดนี้มักจะดัดฟันและทำวีเนียร์ร่วมด้วย เพราะทันตกรรมทั้งสามแบบช่วยเรื่องของความสวยงาม ถ้าทำร่วมกันก็จะเห็นผลชัดเจนขึ้น
ศัลยกรรมตกแต่งเหงือกมีทั้งที่ตัดเหงือกอย่างเดียว และตัดเหงือกกรอฟัน คือทันตแพทย์จะผ่าตัดเปิดเหงือกแล้วกรอฟันบางส่วนออก เพราะฟันที่ยาวมากไป อาจจะทำให้เหงือกนูนจนดูไม่สวย จึงต้องกรอฟันออกเพื่อความเหมาะสม แต่ศัลยกรรมตกแต่งเหงือกก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน ถ้าตัดเหงือกออกบางส่วน พื้นที่ระหว่างเหงือกกับฟันก็จะน้อยลง พอเป็นโรคเหงือกก็จำทำให้เหงือกร่นได้ง่ายกว่าฟันปกติ คนไข้จึงต้องดูแลรักษาฟันให้ดีมากกว่าปกตินั่นเอง
การทำฟันพื้นฐาน หรือทันตกรรมพื้นฐาน คือ ทันตกรรมทั่วไปที่ทันตแพทย์ทุกคนทำเป็น และเป็นสิ่งที่เราทุกคนทำเกือบทุกครั้งที่เข้าตรวจฟันประจำปี เช่น การตรวจวินิจฉัย ให้คำปรึกษาเรื่องเกี่ยวกับฟัน อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน ขัดฟันฟลูออไรด์ เป็นต้น
คนทั่วไปควรไปพบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน หรืออย่างน้อยๆ ก็ปีละ 1 ครั้ง เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากเบื้องต้น ขูดหินปูน และขัดฟันฟลูออไรด์ ตรวจฟันมีข้อดีคือ ถ้าฟันเรามีปัญหา ทันตแพทย์จะรีบแนะนำให้ว่าควรแก้ไขอย่างไร? ต้องทำทันตกรรมอื่นๆไหม? หรือต้องดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อไม่ต้องเจ็บตัวเสียเงินรักษาโรคระยะยาว
ทันตกรรมมีประโยชน์ทั้งด้านความสวยงาม และสุขภาพ สำหรับด้านความสวยงาม ทันตกรรมสามารถเสริมบุคลิกภาพที่ดี และเสริมความมั่นใจในตัวเองให้กับคนไข้ ส่วนในด้านสุขภาพทันตกรรมทำให้มีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น ทานอาหารได้อร่อยมากขึ้น ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากขึ้น จะเห็นว่าฟันเป็นส่วนที่สำคัญมากอย่างหนึ่งของเรา ดังนั้นเราควรรักษาฟันแท้เพียงชุดเดียวของเราให้ดีก่อนที่จะสายเกินไป
ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ : https://www.smileseasons.com/
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที