Tawan

ผู้เขียน : Tawan

อัพเดท: 18 ต.ค. 2021 14.38 น. บทความนี้มีผู้ชม: 3756 ครั้ง

ในช่วงที่คนไทยต้องประสบกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ อาจทำให้หลายคนต้องตัดสินใจขายสินทรัพย์ที่อยู่ในมือเพื่อนำมาหมุนเวียนใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แล้วการซื้อขายรถยนต์มือสองมีขั้นตอนอย่างไร? ใช้เอกสารอะไรบ้างทั้งฝ่ายผู้ซื้อและฝ่ายผู้ขาย


ซื้อขายรถยนต์มือสองมีขั้นตอนอย่างไร? ใช้เอกสารอะไรบ้าง?

ในช่วงที่คนไทยต้องประสบกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ อาจทำให้หลายคนต้องตัดสินใจขายสินทรัพย์ที่อยู่ในมือเพื่อนำมาหมุนเวียนใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แล้วการซื้อขายรถยนต์มือสองมีขั้นตอนอย่างไร? ใช้เอกสารอะไรบ้างทั้งฝ่ายผู้ซื้อและฝ่ายผู้ขาย

 

[b][size=large]ซื้อขายรถยนต์มือสอง ใช้เอกสารอะไรบ้าง?[/size][/b]

 

เอกสารที่ต้องใช้ในการซื้อขายรถยนต์มือสอง สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กรณี ดังนี้

 

[b]1. รถยนต์จดทะเบียนเป็นชื่อบุคคลธรรมดาและไม่ติดไฟแนนซ์ [/b]

• สำเนาบัตรประชาชน 1 ใบ พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง ขีดคร่อมพร้อมเซ็นกำกับว่า “ใช้เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับรถยนต์เลขทะเบียน.....เท่านั้น” หากเจ้าของรถมีการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล และในสมุดคู่มือจดทะเบียนยังเป็นชื่อ-นามสกุลเดิมอยู่ ต้องใช้ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุลแนบด้วย

• แบบคำขอโอน 1 ใบ ผู้ขายเซ็นตรงตำแหน่งผู้โอน

• หนังสือมอบอำนาจ 1 ใบ ผู้ขายเซ็นตรงตำแหน่งผู้มอบอำนาจ ควรเขียนจุดประสงค์ในการมอบอำนาจว่า “ใช้เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับรถยนต์เลขทะเบียน.....เท่านั้น”

• สมุดคู่มือจดทะเบียน (เล่มสีน้ำเงิน) เจ้าของรถต้องเซ็นในช่องผู้ถือกรรมสิทธิ์ด้วย

• สัญญาซื้อขาย ต้องเป็นแบบที่มีฉบับสำเนาด้วย เพราะผู้ซื้อและผู้ขายต้องเก็บไว้คนละชุด และต้องมีสำเนาบัตรประชาชนผู้ซื้อ-ผู้ขายเซ็นสำเนาถูกต้องแนบสัญญาไว้ด้วย

 

[b]2. รถยนต์จดทะเบียนเป็นชื่อบุคคลธรรมดาและติดไฟแนนซ์[/b]

• สำเนาบัตรประชาชน 3 ใบ เซ็นขีดคล่อมเหมือนกับรถที่ไม่ติดไฟแนนซ์ หากเจ้าของรถมีการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล และตอนที่ทำเรื่องขอสินเชื่อยังเป็นชื่อ-นามสกุลเดิมอยู่ ต้องใช้ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุลแนบด้วย โดยลายเซ็นที่เซ็นรับรองสำเนาถูกต้องต้องเหมือนกับในคู่สัญญาที่ทำไว้กับไฟแนนซ์

• สำเนาทะเบียนบ้าน 3 ใบ พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง

• แบบคำขอโอน 2 ใบ ผู้ขายเซ็นตรงตำแหน่งผู้โอน 1 ใบ และผู้ขายเซ็นตรงตำแหน่งผู้รับโอน 1 ใบ ผู้รับโอนต้องเซ็น 2 ที่

• หนังสือมอบอำนาจ 3 ใบ ให้เซ็นเหมือนกับรถที่ไม่ติดไฟแนนซ์

• ส่วนสมุดคู่มือจดทะเบียนจะยังไม่มี เพราะยังอยู่ที่ไฟแนนซ์ ต้องไปปิดไฟแนนซ์ก่อน แล้วไฟแนนซ์จะไปดำเนินการโอนให้กับเจ้าของรถ หลังจากได้เล่มมาแล้วเจ้าของรถค่อยเอามาเซ็นตรงผู้ถือกรรมสิทธิ์ แล้วค่อยเอาไปให้ผู้ซื้ออีกที แต่จะใช้เงินใครปิดนั้นต้องให้ผู้ซื้อ ผู้ขายตกลงกันเอง แต่โดยทั่วไปแล้วมันเป็นเงินของผู้ซื้อ

• สัญญาซื้อขาย ต้องเป็นแบบที่มีฉบับสำเนาด้วย เพราะผู้ซื้อและผู้ขายต้องเก็บไว้ฝ่ายละชุด และต้องมีสำเนาบัตรประชาชนผู้ซื้อ-ผู้ขายเซ็นสำเนาถูกต้องแนบสัญญาไว้ด้วย

 

3. รถยนต์จดทะเบียนเป็นชื่อนิติบุคคลและไม่ติดไฟแนนซ์

• สำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท 1 ใบ พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง ขีดคร่อมพร้อมเซ็นกำกับว่า “ใช้เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับรถยนต์เลขทะเบียน.....เท่านั้น”

• แบบคำขอโอน 1 ใบ ผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทเซ็นตรงผู้โอนพร้อมประทับตราบริษัท

• หนังสือมอบอำนาจ 1 ใบ ผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทเซ็นตรงผู้มอบอำนาจพร้อมประทับตราบริษัท ควรเขียนระบุวัตถุประสงค์ในการมอบอำนาจด้วยว่า “ใช้เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับรถยนต์เลขทะเบียน.....เท่านั้น”

• สมุดคู่มือจดทะเบียน (เล่มสีน้ำเงิน) ผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทเซ็นในช่องผู้ถือกรรมสิทธิ์พร้อมประทับตราบริษัท

• สำเนาหนังสือจดทะเบียนบริษัททุกหน้า พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องพร้อมประทับตราบริษัททุกหน้า

• สัญญาซื้อขาย

 

4. รถยนต์จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลและติดไฟแนนซ์

• สำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท 3 ใบ พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง ควรขีดคร่อมพร้อมเซ็นกำกับว่า “ใช้เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับรถยนต์เลขทะเบียน.....เท่านั้น”

• สำเนาทะเบียนบ้านของผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท 3 ใบ พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง

• แบบคำขอโอน 2 ใบ ผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทเซ็นตรงผู้โอนพร้อมประทับตราบริษัท 1 ใบ และ ผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทเซ็นตรงผู้รับโอน 2 ที่พร้อมประทับตราบริษัท (ต้องประทับทั้ง 2 จุดตรงที่เซ็นชื่อ) อีก 1 ใบ

• หนังสือมอบอำนาจ 3 ใบ ผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทเซ็นตรงผู้มอบอำนาจพร้อมประทับตราบริษัท ควรเขียนจุดประสงค์ในการมอบอำนาจว่า “ใช้เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับรถยนต์เลขทะเบียน.....เท่านั้น”

• สมุดคู่มือจดทะเบียนรถยังคงอยู่ที่ไฟแนนซ์ จำเป็นจะต้องนำเงินไปปิดไฟแนนซ์เสียก่อน ไฟแนนซ์จึงจะดำเนินการโอนให้กับเจ้าของรถ หลังจากได้เล่มมาแล้วเจ้าของรถจึงเอามาเซ็นตรงผู้ถือกรรมสิทธิ์พร้อมประทับตราบริษัท แล้วจึงนำไปให้ผู้ซื้ออีกที ส่วนจะใช้เงินฝ่ายผู้ซื้อหรือผู้ขายเป็นผู้ปิดไฟแนนซ์ก็ตามแต่จะตกลงกัน แต่โดยทั่วไปแล้วมักเป็นเงินจากฝ่ายผู้ซื้อ

• สำเนาหนังสือจดทะเบียนบริษัททุกหน้า พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องและประทับตราบริษัททุกหน้า

• สัญญาซื้อขาย

 

[b]ข้อมูลเพิ่มเติม [/b]

- โอนรถในนามบริษัทมาเป็นส่วนบุคคลใช้เอกสารอะไรบ้าง? คลิก https://www.smk.co.th/newsdetail/2767

- โอนรถไม่ยาก...ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้ https://www.smk.co.th/newsdetail/1666

 

เอกสารอื่นๆ เช่น ใบโอน ใบมอบอำนาจ บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน นั้น มีไว้ใช้เพื่อดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ที่กรมการขนส่งทางบกเท่านั้น (https://www.dlt.go.th/) มีเพียงสัญญาซื้อขายเพียงอย่างเดียวที่จะต้องเก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐานว่ารถยนต์มีการซื้อขายอย่างถูกต้อง จึงจำเป็นจะต้องเก็บรักษาไว้ให้ดีทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย

 

ประกันรถยนต์ตามโปรไฟล์ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ..โปรไฟล์ยิ่งดี ความเสี่ยงยิ่งต่ำ เบี้ยยิ่งถูก.. โปรไฟล์คุณอาจดีกว่าที่คุณคิด เบี้ยเริ่มต้น 6,999 บาท และยังถูกลงได้อีก หากเลือกแบบมีดีดัก และระบุชื่อผู้ขับขี่ (ลดสูงสุดเหลือเพียง 3,999 บาท) "การันตีถูกจริง" สนใจรายละเอียด คลิก [url]https://www.smk.co.th/productmotordetail/20[/url] หรือ โทร.1596 Line: @smkinsurance


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที