กัลยาลักษณ์

ผู้เขียน : กัลยาลักษณ์

อัพเดท: 20 พ.ย. 2021 20.30 น. บทความนี้มีผู้ชม: 4733 ครั้ง

ความเสี่ยงแบบไหน ? ที่ควรตรวจ HIV

แล้วกรณีแบบไหนบ้างล่ะ ? ที่คุณควรตัดสินใจไปตรวจหาเชื้อเอชไอวี


ความเสี่ยงแบบไหน ? ที่ควรตรวจ HIV

 

เมื่อไหร่ที่ควรตรวจ HIV

 

ยังมีความเข้าใจผิดอยู่มาก เกี่ยวกับการตรวจ HIV และการติดเชื้อ HIV หลายคนเข้าใจว่าหากดูแลร่างกายให้แข็งแรงแล้ว ก็ไม่สามารถติดเชื้อได้อย่างแน่นอน หรือหลายคนคิดเพียงแค่ว่าตัวเองมีความเสี่ยงเพียงครั้งเดียว ไม่จำเป็นต้องตรวจเลือดก็ได้ เพราะไม่ติดเอชไอวีแน่นอน อาจเพราะมั่นใจในคู่นอนของตัวเองมาก แต่เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใครมีความเสี่ยงมากน้อย ไม่สามารถดูได้จากภายนอกว่าใครมีเชื้อ ฉะนั้น การตรวจคัดกรองเพื่อหาเชื้อไวรัสเอชไอวี จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำ

 

ความเสี่ยงแบบไหน ? ที่ควรตรวจ HIV

 

แล้วกรณีแบบไหนบ้างล่ะ ? ที่คุณควรตัดสินใจไปตรวจหาเชื้อเอชไอวี เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะเข้าใจความเสี่ยงของตัวเอง เราได้แยกรายละเอียดไว้ดังนี้

 

 

“เอชไอวี ติดแล้ว ไม่ทำให้เสียชีวิต รักษาได้ และไม่ป่วยเป็นโรคเอดส์”

 

ตรวจ HIV ต้องรอกี่วัน ?

 

หลักการตรวจ HIV จะขึ้นอยู่กับช่วงระยะฟักตัว หรือ Window Period เป็นช่วงที่หากร่างกายได้รับเชื้อมาแล้วจะสร้างระบบภูมิคุ้มกันออกมาเพื่อต่อสู้กับไวรัส ซึ่งหากระยะเวลาน้อยเกินไปเราก็ไม่อาจตรวจเจอเชื้อ HIV ได้นั่นเอง โดยปกติมักจะใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือนถึงจะตรวจเจอระดับของภูมิคุ้มกันนี้ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล ซึ่งหากคุณตรวจเลือดในช่วงก่อนหน้านี้อาจไม่พบเชื้อเอชไอวี ทั้ง ๆ ที่ความจริงอาจมีเชื้ออยู่ก็ได้





 

วิธีตรวจ HIV

 

รูปแบบการตรวจ

Window Period

NAT

7-14 วัน

Anti-HIV 4th Generation

14 วัน

Anti-HIV 3th Generation

30 วัน

HIV Self Test

30-90 วัน

 

ทำไมต้องตรวจ HIV

 

ถึงแม้ว่า ปัจจุบันจะยังไม่มีวิธีกำจัดเชื้อไวรัสเอชไอวีให้หายขาดไปจากร่างกายได้ แต่การที่ติดเชื้อนั้นไม่ได้หมายความว่า คุณจะเข้าสู่ภาวะโรคเอดส์ และเสียชีวิตทันที เพราะเมื่อคุณได้รับตรวจที่รวดเร็ว คุณก็จะเข้าสู่กระบวนการ การรักษาที่รวดเร็วตามไปด้วย การทานยาต้านไวรัสเอชไอวีอย่างมีวินัย จะทำให้สุขภาพของคุณแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย และไม่ต้องเสี่ยงกับโรคฉวยโอกาสที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ข้อดีของการตรวจเอชไอวี มีดังนี้

 

  1. หากพบเชื้อ สามารถรักษาได้ทันที ไม่ต้องรอให้มีอาการหรือเจ็บป่วย

  2. ได้ความรู้เกี่ยวกับไวรัสเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้อง

  3. หากไม่พบเชื้อ สามารถป้องกันตนเองไม่ให้มีความเสี่ยงได้ตลอดไป

  4. การตรวจเอชไอวีช่วยในการวางแผนครอบครัว

 

ตรวจ HIV รู้ผลทันที

 

หากคุณตัดสินใจที่จะตรวจ HIV รัฐบาลได้มีการอำนวยความสะดวกให้คนไทยทุกคน สามารถเข้ารับการตรวจได้ฟรีปีละ 2 ครั้งที่โรงพยาบาลรัฐ หรือสถานพยาบาลในระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ เพียงแค่คุณถือบัตรประจำตัวประชาชนก็เข้ารับสิทธิตรวจฟรีได้แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเลยทีเดียว หรือคลิกที่นี่ เพื่อค้นหาสถานที่ตรวจเอชไอวีใกล้บ้านคุณ https://love2test.org/th

 

สำหรับใครที่ไม่สะดวกเดินทางไปยังสถานพยาบาลต่าง ๆ ในช่วงที่มีโควิดระบาดอยู่ในตอนนี้ การตรวจด้วยชุดตรวจคัดกรองเอชไอวีด้วยตัวเอง (HIV SELF TEST) ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะช่วยให้คุณรู้สถานะเอชไอวีของตัวเองได้เบื้องต้น ช่วยลดความกังวลใจ และทำให้สามารถวางแผนการใช้ชีวิตต่อไปได้

 

สรุป แนะนำว่าทุกคนควรรวมการตรวจเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไว้ในโปรแกรมตรวจสุขภาพประจำปีด้วย เพราะถือว่าเป็นโรคที่มีความสำคัญและใกล้ตัวกับมนุษย์เรามากที่สุด เนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ควรรู้สึกเขินอาย โดยเฉพาะการให้ข้อมูลความเสี่ยงกับเจ้าหน้าที่อย่างถูกต้อง ไม่บิดเบือนหรือปิดบัง จะได้ช่วยพิจารณาวิธีการตรวจ HIV ที่เหมาะสมให้กับคุณ อย่างที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ถึงประโยชน์มากมายในการตรวจเลือดและสุขภาพที่ดีของตัวคุณเองครับ

https://thaihivselftest.com/

 

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที