โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนคืออะไร อยากเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนทำอย่างไร สรุปให้!
เชื่อว่าน้อง ๆ นักเรียนทุกท่านจะต้องรู้จักกับโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนอย่างแน่นอน ซึ่งโครงการนี้จะเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้น้อง ๆ นักเรียนได้มีสิทธิ์ไปศึกษาต่อต่างประเทศ ตั้งแต่ช่วงอยู่ระหว่าง 14-18 ปี หรือในช่วงของมัธยมต้นถึงมัธยมปลายนั่นเอง ซึ่งนักเรียนที่ได้ไปโครงการนี้จะได้ไปพักอาศัยอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ หรือที่เรียกว่า Host Family นั่นเอง และจะต้องเรียนในโรงเรียนรัฐบาลตามท้องถิ่นของประเทศนั้น ๆ ซึ่งในส่วนของระยะเวลา จะมีทั้งระยะสั้น และระยะยาว โดยระยะสั้นจะอยู่ที่ประมาณ 3 สัปดาห์ และระยะยาวจะอยู่ที่ประมาณ 1 ปี ในส่วนของประเทศที่คุณต้องไปเรียนนั้น จะสามารถเลือกได้ว่าต้องการไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศไหน โดยคุณจะสามารถเลือกโครงการที่ต้องการเข้าร่วมได้ อย่างเช่น โครงการแลกเปลี่ยนที่สหรัฐอเมริกา, โครงการแลกเปลี่ยนที่ออสเตรเลีย, โครงการแลกเปลี่ยนที่นิวซีแลนด์, โครงการแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น เป็นต้น
อยากเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน เลือกโครงการไหนดี
AFS Intercultural Program
มูลนิธิการศึกษาและวัฒนธรรมสัมพันธ์ไทย-นานาชาติ ได้มีการเข้าร่วมดำเนินการกับเอเอฟเอสโลก รวมทั้งประเทศสมาชิกกว่า 50 ประเทศ โดยโครงการนี้มีการจัดตั้งขึ้นเพื่อการเรียนรู้ในด้านภาษาต่าง ๆ และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เพื่อมุ่งหวังให้อยู่ร่วมกันระหว่างมวลมนุษยชาติอย่างมีความสุข อีกทั้งยังมุ่งพัฒนาทักษะ ค่านิยมต่าง ๆ วัฒนธรรม รวมทั้งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ สำหรับโครงการนี้จะมีการคัดเลือกตัวแทนเยาวชนของประเทศไทย ไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ และให้อาศัยอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ในต่างประเทศเป็นเวลา 1 ปี ในส่วนของประเทศที่เข้าร่วมจะมีทั้ง ฮ่องกง, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ออสเตรีย, เบลเยียม, อิตาลี, ญี่ปุ่น, รัสเซีย และประเทศอื่น ๆ อีกมากมายกว่า 50 ประเทศเลยทีเดียว
YFU Youth For Understanding International Exchange
ถือเป็นอีกหนึ่งองค์กรแลกเปลี่ยนที่มีความเก่าแก่ และใหญ่ที่สุด แถมยังเป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกอีกด้วย โดยจุดเด่นขององค์กรนี้ คือ เป็นองค์กรเอกชนในด้านการศึกษา ที่ไม่แสวงหาผลประโยชน์จากเยาวชน และยังให้โอกาสกับเยาวชน ได้ไปศึกษาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับประเทศต่าง ๆ อีกด้วย โดยวัตถุประสงค์หลักขององค์กรนี้ คือ เพื่อให้เยาวชนได้เตรียมความพร้อม และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ อีกทั้งยังเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างประเทศ นักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่โครงการนี้ จะได้ไปอาศัยอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ และสังคมต่างชาติ เพื่อให้ได้เรียนรู้ และปรับตัวให้เข้ากับสังคมใหม่ ๆ สำหรับโครงการนี้จะมีทั้งหมด 2 รอบด้วยกัน ได้แก่ รอบปกติ และรอบสพฐ. โดยรอบของสพฐ. นั้น จะมีการเปิดร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อคัดเลือกนักเรียนเข้าสู่สังกัดนักเรียนแลกเปลี่ยน ในส่วนของประเทศที่เข้าร่วมโครงการ จะมีอยู่หลากหลายประเทศด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น เยอรมนี, ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส, จีน, ฟินแลนด์, อิตาลี, เกาหลีใต้ เป็นต้น
YES High School Exchange Program
องค์การแลกเปลี่ยนเยาวชน ที่เป็นอีกหนึ่งในองค์กรเอกชน ที่เปิดให้บริการทางด้านการศึกษามาเป็นเวลานานกว่า 30 ปีด้วยกัน ซึ่งองค์กรนี้ไม่ได้เปิดขึ้นมาเพื่อแสวงหาผลกำไร แต่ทางองค์กรจะมีหน้าที่เป็นตัวแทนของเหล่าเยาวชนไทยและผู้ปกครอง เพื่อทำหน้าที่ในการประสานงานกับองค์กรแลกเปลี่ยนเยาวชนในต่างประเทศ ซึ่งจะมีให้เลือกมากถึง 22 ประเทศด้วยกัน โดยการจัดตั้งองค์กรนี้จะมุ่งเน้นให้นักเรียนทุกท่าน ได้ฝึกฝนและพัฒนาในด้านภาษา รวมทั้งการแกเปลี่ยนวัฒนธรรม และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ในส่วนของประเทศที่คุณสามารถเข้าร่วมได้ จะมีทั้งออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ไอร์แลนด์, สวิตเซอร์แลนด์, ฝรั่งเศส และประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย
ค่าใช้จ่ายของแต่ละประเทศ จากการเข้าร่วมโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน
นักเรียนแลกเปลี่ยนประเทศสหรัฐอเมริกา
สำหรับใครที่ต้องการไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จะมีค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาโครงการอยู่ที่ 420,000 บาท ซึ่งจะใช้เวลาในการศึกษาประมาณ 10 เดือน
-
ค่าจองสิทธิ์ จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 บาท
-
ค่ายืนยันสิทธิ์ จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 50,000 บาท
-
ค่าการจัดหาครอบครัวอุปถัมภ์ และโรงเรียนที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลในประเทศนั้น ๆ
-
ค่าธรรมเนียมการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของครอบครัวอาสาสมัคร
-
ค่าเจ้าหน้าที่ประสานงานดูแลประจำท้องถิ่นนั้น ๆ และเจ้าหน้าที่ติดต่อประสานงานช่วยเหลือ และดูแลตลอดระยะเวลาโครงการ
-
ค่าเดินทางประชุมผู้ปกครอง
-
ค่ายปฐมนิเทศก่อนการเดินทางไปศึกษาต่างประเทศ
นักเรียนแลกเปลี่ยนประเทศนิวซีแลนด์
สำหรับการเตรียมตัวไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศนิวซีแลนด์ จะมีค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาของโครงการอยู่ที่ 570,000 บาท ซึ่งจะใช้เวลาในการศึกษาประมาณ 8 เดือน
-
ค่าจองสิทธิ์ จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 บาท
-
ค่ายืนยันสิทธิ์ จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 50,000 บาท
-
ค่าการจัดหาครอบครัวอุปถัมภ์ และโรงเรียนที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลในประเทศนั้น ๆ
-
ค่าธรรมเนียมการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของครอบครัวอาสาสมัคร
-
ค่าเจ้าหน้าที่ประสานงานดูแลประจำท้องถิ่นนั้น ๆ และเจ้าหน้าที่ติดต่อประสานงานช่วยเหลือ และดูแลตลอดระยะเวลาโครงการ
-
ค่าเดินทางประชุมผู้ปกครอง
-
ค่ายปฐมนิเทศก่อนการเดินทางไปศึกษาต่างประเทศ
นักเรียนแลกเปลี่ยนประเทศแคนาดา
สำหรับค่าใช้จ่ายในการเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศแคนาดา จะมีค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาของโครงการอยู่ที่ประมาณ 670,000 บาท ซึ่งการแลกเปลี่ยนในประเทศแคนาดาจะมีการใช้เวลาในการเรียนประมาณ 10 เดือน
-
ค่าจองสิทธิ์ จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 บาท
-
ค่ายืนยันสิทธิ์ จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 50,000 บาท
-
ค่าการจัดหาครอบครัวอุปถัมภ์ และโรงเรียนที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลในประเทศนั้น ๆ
-
ค่าธรรมเนียมการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของครอบครัวอาสาสมัคร
-
ค่าเจ้าหน้าที่ประสานงานดูแลประจำท้องถิ่นนั้น ๆ และเจ้าหน้าที่ติดต่อประสานงานช่วยเหลือ และดูแลตลอดระยะเวลาโครงการ
-
ค่าเดินทางประชุมผู้ปกครอง
-
ค่ายปฐมนิเทศก่อนการเดินทางไปศึกษาต่างประเทศ
สิ่งที่คุณจะได้รับ หากเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน
1. ได้ฝึกฝน และพัฒนาทักษะในเรื่องของภาษา และการสื่อสาร เพราะคงไม่มีวิธีการเรียนภาษาที่ไหนจะสามารถใช้ได้ผล และพัฒนาได้อย่างรวดเร็วเท่ากับการใช้งานจริง ดังนั้นการไปเรียนที่ต่างประเทศจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย เนื่องจากสถานการณ์บังคับให้คุณต้องสื่อสารเป็นภาษาอื่น ๆ เพื่อที่จะสามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้
2. เพิ่มทักษะการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น ด้วยความที่นักเรียนแลกเปลี่ยนจะต้องไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ และจะต้องไปอยู่ด้วยตนเองเป็นระยะเวลาร่วมปี ดังนั้นคุณจะต้องฝึกฝนการอยู่ร่วมกับผู้อื่น แถมยังสามารถเรียนรู้วัฒนธรรม ความคิด รวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิตอีกด้วย
3. ได้ค้นหาตนเอง ในช่วงวัยมัธยมต้น และมัธยมปลาย จะอยู่ในช่วงของการค้นหาตนเอง ว่าตนเองต้องการอะไร หรือสนใจในเรื่องไหนเป็นพิเศษ ดังนั้นการไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ จะช่วยให้คุณสามารถค้นหาตนเองได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากได้พบเจอกับระบบการศึกษาที่แปลกใหม่ วิถีชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิม รวมทั้งความคิดต่าง ๆ ที่หลากหลาย ดังนั้นในส่วนนี้จะเป็นส่วนช่วยให้ทุกท่านได้ค้นเจอความต้องการของตนเองได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
4. มีความกล้าแสดงออกมากยิ่งขึ้น ด้วยความที่คุณจะต้องออกไปใช้ชีวิตด้วยตนเอง โดยไม่มีผู้ปกครองคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ดังนั้นคุณจะต้องดูแลตนเองให้ได้ ทำทุกอย่างด้วยตนเอง และจะต้องมีความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น
5. มีความมั่นใจมากกว่าเดิม อีกหนึ่งสิ่งที่นักเรียนแลกเปลี่ยนทุกท่านได้รับกลับมาเหมือน ๆ กัน คือ ความกล้า โดยหลาย ๆ ท่านกล้าที่จะคิด และกล้าที่จะแสดงออกมากยิ่งขึ้น เนื่องจากทุกท่านจะได้ลองฝึกทำอะไรด้วยตนเอง แถมในต่างประเทศยังเปิดโอกาสให้นักเรียนได้สามารถแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี รวมทั้งยังเคารพสิทธิและความคิดเห็นของผู้อื่นอีกด้วย เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะแสดงความคิดเห็นออกมาอย่างไร ผู้อื่นจะเคารพความคิดเห็นของคุณ จนทำให้นักเรียนแลกเปลี่ยนทุกท่านมีความกล้าแสดงออกเป็นอย่างมาก
สำหรับใครที่ต้องการไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน สิ่งแรกที่จะต้องทำ คือ การศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการไปแลกเปลี่ยน เนื่องจากการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนได้นั้น คุณจะต้องไปเข้าร่วมโครงการและให้โครงการเป็นผู้ส่งตัวไป ในส่วนนี้จะมีค่าใช้จ่ายที่คุณจะต้องเป็นผู้จ่ายเอง อีกทั้งการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจะต้องมีความกล้าคิด กล้าทำ และกล้าแสดงออกค่อนข้างสูง เนื่องจากคุณจะต้องเดินทางไปด้วยตนเอง และใช้ชีวิตอยู่กับผู้อื่น ดังนั้นคุณจะต้องกล้าที่จะพูดคุย หาเพื่อนใหม่ ๆ และกล้าแสดงออกมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญสำหรับการเตรียมตัวไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนคือ คุณจะต้องมีทักษะในเรื่องของภาษาอยู่บ้าง เพื่อที่จะสื่อสารกับผู้อื่นให้ได้
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
- ตอนที่ 1 : โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนคืออะไร อยากเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนทำอย่างไร สรุปให้!
