พ่อค้าแม่ค้าหลายคนอาจจะคุ้นกันอยู่ว่าระบบหลังบ้านคืออะไร หลายคนก็อาจจะเรียกว่าระบบหลังร้านด้วยซ้ำ บางคนอาจจะสงสัยว่ามันคืออะไรกันแน่ แล้วจะทำงานยังไงได้บ้าง ก็ต้องบอกว่าห้ามพลาด เพราะวันนี้เราจะมาอธิบายแบบง่ายๆ ให้คุณฟังกัน ถ้าพร้อมแล้วตามมาดูกันเลย
ระบบหลังบ้านคืออะไร?
ระบบหลังบ้านหรือที่บางร้านเรียกกันว่าระบบหลังร้าน ให้ลองนึกภาพตามว่าร้านค้าออนไลน์ของเรามีหน้าร้านแบบร้านของชำ มีคนรับลูกค้าหน้าร้าน มีคนวิ่งไปหยิบของหลังร้าน
ซึ่งระบบตัวนี้ก็ถือว่าก็เป็นระบบทั่วๆ ไปที่ร้านค้าออนไลน์ทุกร้านมี เช่น การจัดการสต็อคสินค้า การรับออเดอร์จากลูกค้า การรับชำระเงิน ไปจนถึงการจัดส่งสินค้าและเลขพัสดุที่ดูเหมือนจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ทางร้านควรมีการติดตามต่อด้วยว่าสินค้าได้ส่งถึงมือลูกค้าอย่างถูกต้องสมบูรณ์หรือไม่
จากที่หยิบยกมาเป็นตัวอย่างเบื้องต้น หลายคนก็อาจจะคิดไม่ถึงว่าสิ่งที่เหมือนเป็นเรื่องปกติในการค้าขายผ่านร้านค้าออนไลน์นั้น สามารถจัดออกมาได้เป็นระบบระเบียบได้ และหากระบบหลังบ้านของเราถูกบริหารได้อย่างเป็นระบบและเหมาะสม สิ่งที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับร้านของเราได้มหาศาลเลยทีเดียว
วิธีจัดการระบบหลังบ้านให้มีประสิทธิภาพ
คราวนี้มาดูกันดีกว่าว่าการจัดระบบหลังบ้านให้ดี และมีประสิทธิภาพต่อการค้าขายออนไลน์นั้นเป็นอย่างไร ระบบที่ดีควรจะมีอยู่ในหลากหลายแพล็ตฟอร์ม ควบคู่ไปกับการที่ตัวร้านค้าเองก็ควรที่จะมีหน้าร้านหลายๆ แพลตฟอร์ม เช่น เว็บไซต์, Line, Facebook หรือ Instagram เป็นต้น ซึ่งการบริหารระบบหลังร้านให้ดีต้องอาศัยการมองภาพรวมให้กว้าง แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่สามารถที่จะมองข้ามรายละเอียดยิบย่อยที่อาจจะตกหล่นไปในระหว่างการซื้อขาย
นอกจากนี้แล้ว ระบบหลังร้านนั้นยังรวมไปถึงการทำบัญชีการเข้าออกของรายได้ การอัพเดทสต็อคที่ควรจะมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาเพื่อสร้างฐานความเชื่อมั่นให้แก่ตัวลูกค้าของเราเอง เพราะหากสต๊อกไม่ได้ถูกอัพเดทแต่ร้านได้รับออเดอร์เข้ามาแล้ว การไปขอยกเลิกออเดอร์จะเป็นเหมือนการทำให้ทางร้านเราเสียเครดิตไปด้วย รวมไปถึงเรื่องของการรับแจ้งโอน การทำใบปะหน้าสินค้า ไปจนถึงการส่งเลขพัสดุให้กับลูกค้าก็เป็นอีกจุดที่ควรให้ความสำคัญ
ระบบหลังบ้านที่ดีต้องมีอะไรบ้าง
ระบบหลังบ้านที่ดีควรมีทั้งความรวดเร็ว และความถูกต้องควบคู่กันไป หากลองมองในมุมของลูกค้า เมื่อเราชำระเงินสั่งสินค้าไปแล้ว เราก็อยากจะได้สินค้ามาใช้เร็ว ๆ ดังนั้นความเร็วในการนับพัสดุไปส่งพร้อมแจ้งเลขพัสดุที่ถูกต้องให้กับลูกค้าก็เป็นเหมือนการซื้อใจลูกค้าอีกทางหนึ่ง
ดังนั้นการที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับตัวร้านค้าออนไลน์เอง ผู้ขายควรเลือกใช้บริการกับผู้ให้บริการที่เชี่ยวชาญเรื่องการจัดการระบบหลังบ้าน มีความเชื่อถือได้ว่าจะสามารถจัดการระบบต่างๆ ได้อย่างถูกต้องทั้งในเรื่องระบบยิบย่อยต่างๆ ไปจนถึงการจัดการภาพรวมในวงกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที