ผ้าม่านแบรนด์ไหนดี?
ผ้าม่าน (Curtain)
ปัจจุบันผ้าม่าน ถือเป็นของแต่งบ้านชิ้นหนึ่งที่ทำให้บ้านออกมาดูดี มีสไตล์ ด้วยตัวผ้าม่านที่มีความหลากหลาย แถมตัวแบบผ้าม่านยังแบ่งได้อีกหลายชนิด ผ้าม่านแต่ละชนิดจึงมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไป ความชอบส่วนตัวในการเลือกผ้าม่าน จึงช่วยสะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี … วันนี้ Infinity Design ขออาสาพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับผ้าม่านแบบต่างๆ กัน
ผ้าม่านแบรนด์ไหนดี?
สินค้ากลุ่มประเภทผ้าม่าน/ม่าน ปัจจุบันมีผู้ผลิตและนำเข้าหลากหลายแบรนด์ ซึ่งได้มีการประชาสัมพันธ์ทำโปรโมชั่นอย่างหนัก ที่มุ่งเน้นในเรื่องราคาเป็นปัจจัยหลัก โดยการลดทอนคุณภาพ จึงทำให้ ‘มีความเสี่ยงจากการที่ต้องเสียเงินซ้ำซ้อน ในการเลือกสรรสินค้า และผ้าที่อาจจะไม่ตอบโจทย์ได้จริง‘
จึงเป็นที่มาของ ‘The Chosen Collection‘ เล่มผ้าคอลเลคชั่นพิเศษ ที่คัดสรรเฉพาะผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ที่มีมาตรฐานการรับประกันรวมไปถึงคุณภาพที่ดีเยี่ยม เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าในการซื้อสินค้า ส่วนจะมีแบรนด์อะไรบ้าง
ตามไปอ่านต่อที่นี่
ผ้าสำหรับใช้ทำผ้าม่านมีแบบไหนบ้าง?
ผ้าม่าน Dimout
1. ผ้าม่านธรรมดา จะโดดเด่นด้านลวดลาย และสีสันบนตัวผ้า เหมาะกับการเลือกซื้อมาตกแต่งผ้าม่านในห้องนั่งเล่น ด้วยความหลากหลายที่มากกว่าผ้าม่านกันแสงแบบ Dimout แต่ประโยชน์ด้านการกันแสง จะสู้ผ้าม่านแบบกันแสงโดยตรงไม่ได้ ลักษณะของเนื้อผ้าม่านที่ใช้ ทำมาจากเส้นใยผ้าธรรมชาติ เช่น ผ้า Cotton เนื้อผ้าม่านชนิดนี้ จึงมีแสงทะลุผ่านได้ค่อนข้างเยอะ
2. ผ้าม่านกันแสง ลักษณะของเนื้อผ้าม่านส่วนใหญ่เป็นผ้าใยสังเคราะห์ เช่น Polyester ปัจจุบันด้วยลักษณะการทอผ้าม่านกันแสงแบบพิเศษที่มีเส้นด้ายสีดำ ทำให้ผ้าม่านกันแสงแบบ Dimout สามารถช่วยกันแสงที่ส่องเข้ามาในห้องได้มากถึง 80-95% (สีของผ้าม่านจะมีผลต่อปริมาณแสงที่ส่องผ่านเข้ามาในห้องโดยตรง) แต่สีของผ้าม่านชนิดนี้ส่วนใหญ่เป็นสีพื้น ด้านลวดลายและลูกเล่นต่างๆ บนตัวผ้าม่านจะมีน้อยกว่าผ้าม่านแบบธรรมดามาก
ผ้าม่านกันแสง (Blackout)
ลักษณะของเนื้อผ้าม่านกันแสงชนิดนี้ จะมีด้วยกันหลายประเภท ทั้งเนื้อผ้าม่านแบบที่เป็น PVC และเนื้อผ้าม่านแบบผ้าใยสังเคราะห์ผสม สามารถช่วยลดความร้อนและรังสียูวีที่ส่องผ่านเข้ามาในห้องได้แบบ 100% ผ้าม่านกันแสงชนิดนี้ใช้ซับหลังเท่านั้น (เป็นผ้าม่าน 2 ขิ้นแนบติดกัน) นอกจากนี้ผ้าซับหลังบางตัวยังมีคุณสมบัติพิเศษในการป้องกันการลามไฟอีกด้วย
ผ้าม่านโปร่ง (Sheer Fabric)
ลักษณะของเนื้อผ้าม่านโปร่งที่ใช้ จะเป็นผ้าใยสังเคราะห์ เช่น Polyester เนื้อของผ้าม่านโปร่ง เป็นผ้าเนื้อบาง ช่วยพรางสายตาและเพิ่มความเป็นส่วนตัวจากภายนอก แต่ยังคงเห็นทิวทัศน์จากนอกหน้าต่างได้อย่างไม่อึดอัด ผ้าม่านโปร่งยังช่วยเพิ่มความสวยงาม และทำให้บรรยากาศแสงภายในห้องดูนุ่มนวล สบายตา
คุณสมบัติของผ้า มีแบบไหนบ้าง?
ผ้าม่านประหยัดพลังงาน (Energy Saving Curtain)
ข้อมูลของภาครัฐบอกว่าทุก 1 องศา จะสามารถประหยัดไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศได้ 10% จุดที่แสงส่องเข้ามาในห้องได้โดยตรงคงหนีไม่พ้นบานประตู-หน้าต่าง ดังนั้นผ้าม่านที่ใช้จึงเป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่ออุณภูมิโดยตรง
โดยผ้าม่านที่ช่วยประหยัดพลังงานได้นั้น จะมีให้เลือกหลากหลายชนิด ตั้งแต่ผ้าแบล็คเอาท์เคลือบโฟม, ผ้าแบล็คเอาท์เคลือบซิลิโคน หรือแม้กระทั่งผ้าดิมเอาท์บางรหัส โดยผ้าดังกล่าวล้วนมีคุณสมบัติในการกันแสง กันความร้อน ปกป้องจากรังสี UV และช่วยลดอณภูมิในห้องได้จริง ตั้งแต่ 1-4 องศา
ผ้าม่านป้องกันการลามไฟ (Flame Retardant Curtain)
ด้วยนวัตกรรมการเพิ่มสารทนไฟเข้าไปในเส้นใยผ้า ทำให้ไฟที่ติดบนผ้า สามารถดับเองได้ ผ้าม่านที่มีคุณสมบัติกันลามไฟ จะเหมาะสำหรับคนที่มองคุณสมบัติเพื่อความปลอดภัย อย่างเช่นกลุ่มลูกค้าโรงแรม ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของผ้าม่านชนิดนี้ คือมีสีและลายให้เลือกน้อย
ผ้าม่านป้องกันไรฝุ่น ลดภูมิแพ้ (Anti-Dust Curtain)
สารเคลือบพิเศษที่ช่วยลดการเกาะติดของฝุ่นตามช่องว่างบนเนื้อผ้า ตอบโจทย์สำหรับคนที่มีปัญหาสุขภาพ เกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ทางระบบหายใจ นอกจากผ้าม่านป้องกันฝุ่น ลดการเกิดภูมิแพ้แล้ว ยังมีกลุ่มผ้าม่านที่กันเชื้อราและกันแบคทีเรีย ด้วยสารเคลือบอื่นๆ อีกด้วย ประสิทธิภาพของสารเคลือบในกลุ่มผ้าชนิดนี้ จะลดลงเล็กน้อยเมื่อผ่านการซัก โดยสำหรับผ้าม่านกันไรฝุ่นแบบ Dimout กันยูวี จะมีราคาเริ่มต้นที่ 560 บาท/หลา
แบบผ้าม่านแบ่งได้กี่ชนิด?
หลังจากได้รู้จักกับเนื้อผ้าที่ใช้กันไปแล้ว มาดูในส่วนของแบบผ้าม่านกันบ้าง นอกจากเนื้อผ้า สีสัน หรือลวดลายแล้ว แบบผ้าม่านก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องเลือกให้เหมาะกับพื้นที่ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสม สวยงาม ซึ่งแบบผ้าม่านที่แตกต่างกัน ก็จะให้อารมณ์ของห้องที่แตกต่างกันออกไปด้วยนะ! สำหรับแบบผ้าม่านนั้น สามารถแบ่งออกคร่าวๆ ได้ดังต่อไปนี้
-
ม่านจีบ ม่านจีบถือเป็นผ้าม่านที่พบเห็นได้ทั่วไป และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สามารถนำไปตกแต่งในทุกๆ สถานที่ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นแต่งบ้าน หรือแต่งคอนโด รูปแบบผ้าม่านให้ความรู้สึกเรียบง่าย ดูดี สวยงาม ลงตัวกับผ้าม่านทุกเฉดสี ตัวผ้ามีการจับหัวผ้าม่านด้านบนเป็นจีบเล็กๆ 3 จีบ ดูเป็นเอกลักษณ์ มีลอนผ้าที่สวยงาม
ชมภาพผลงานการติดตั้งผ้าม่านจีบได้ที่นี่
-
ม่านลอน เป็นแบบผ้าม่านอีกทางเลือกหนึ่งที่มีสไตล์ มีลักษณะการจับจีบผ้าในแบบที่ล้ำสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับความทันสมัยในปัจจุบัน และเหมาะสำหรับพื้นที่ใช้สอยที่มีขนาดค่อนข้างจำกัด ตัวผ้าม่านโดยรวมมีลักษณะคล้ายกับม่านจีบ แต่บริเวณหัวผ้าม่านจะไม่มีการจับจีบ จะปล่อยหัวผ้าม่านให้เป็นลอนโค้งอิสระ ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย สบายตา
ชมภาพผลงานการติดตั้งผ้าม่านลอนได้ที่นี่
-
ม่านพับ ผ้าม่านแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก ทั้งในฝั่งยุโรป อเมริกา และเอเชีย ด้วยคุณสมบัติเด่นหลายประการของม่านพับที่ใช้งานง่าย สะดวก แข็งแรง และประหยัดพื้นที่ในการรวบเก็บ ช่วยให้ห้องดูโปร่ง สบายตา เข้ากับการแต่งห้องแบบโมเดิร์น เหมาะสำหรับครอบครัวทันสมัย ยุคใหม่ ที่เน้นการใช้งานง่าย
ชมภาพผลงานการติดตั้งผ้าม่านพับได้ที่นี่
-
ม่านตาไก่ อีกหนึ่งทางเลือกที่ดูทันสมัย ไม่ตกเทรนด์ กับม่านตาไก่ ตัวผ้าม่านจะมีการเจาะรูที่หัวผ้าม่าน เพื่อใส่ห่วงตาไก่ สอดเข้ากับรางผ้าม่าน ทำให้ดูพริ้วไหว อิสระ สามารถตกแต่งได้กับห้องหลากหลายสไตล์ ทั้งบ้านและคอนโด
สายรวบผ้าม่านมีแบบไหนบ้าง?
สายรวบผ้าม่าน (Curtain Tie Back) ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กันกับตัวผ้าม่านเสมอ เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน ใน เวลาที่ต้องการรวบเก็บผ้าม่าน แถมยังช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวผ้าม่านอีกด้วย โดยสายรวบผ้าม่าน สามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 รุ่น ดังนี้
-
รุ่นมาตรฐาน สายรวบผ้าม่านรุ่นนี้ จะมีความสวยงาม กลมกลืนกับตัวผ้าม่าน และเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะถูกตัดเย็บจากผ้าโทนสีเดียวกันกับตัวผ้าม่านที่ใช้ ทำให้สามารถตกแต่งห้องได้ง่าย ดูลงตัวเข้ากับทุกๆ สไตล์ที่ต้องการตกแต่ง
-
สายรวบผ้าม่าน รุ่นประดับ มีลักษณะเป็นตุ้มและพู่ห้อยลงมา มีแบบหลากหลายให้เลือกเป็นจำนวนมาก ช่วยเพิ่มเอกลักษณ์และความน่าสนใจให้กับตัวผ้าม่านเป็นอย่างดี เหมาะกับการตกแต่งในสไตล์ที่ต้องการเพิ่มความหรูหรา เช่น Classic Style เป็นต้น
ตะขอเกี่ยวสายรวบผ้าม่านมีแบบไหนบ้าง?
ตะขอเกี่ยวสายรวบผ้าม่าน (Tieback Hooks) ถูกใช้สำหรับแขวนสายรวบผ้าม่าน เพื่อรวบเก็บผ้าม่านได้อย่างสวยงาม ตะขอเกี่ยวผ้าม่านมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ ช่วยเพิ่มรายละเอียดให้ชุดผ้าม่านดูน่าสนใจเพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสไตล์การตกแต่งห้องเป็นสำคัญ วัสดุของตะขอเกี่ยวผ้าม่านมี 2 รุ่น ดังนี้
-
ตะขอเกี่ยวผ้าม่าน แบบพลาสติก ผลิตจากพลาสติก ABS มีสีสันและลวดลายให้เลือกเยอะ มีน้ำหนักเบา ราคาถูก อาจมีสีหลุดร่อนในกรณีที่เป็นสีแบบเคลือบเงาเลียนวัสดุโลหะ
-
ตะขอเกี่ยวผ้าม่าน แบบโลหะ สีเงินขุ่นรุ่นยอดนิยม หมดห่วงเรื่องการรับน้ำหนักผ้าม่านและความแข็งแรงทนทาน ทั้งยังดูกลมกลืนไปกับการตกแต่งห้องทุกๆ สไตล์
ด้ามจูงผ้าม่านมีแบบไหนบ้าง?
-
ด้ามจูงผ้าม่าน (Curtain Pole) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเปิด-ปิด ผ้าม่าน เพื่อป้องกันไม่ให้มือสัมผัสกับผ้าม่านโดยตรง ลักษณะของด้ามจูงจะเป็นด้ามยาว โดยวัสดุที่ใช้จะแตกต่างกัน
-
ด้ามจูงไม้สัก ถือเป็นด้ามจูงผ้าม่านที่เกิดขึ้นมานานที่สุด โดยวัสดุจะทำมาจากไม้สัก ตัวด้ามจะเป็นลวดลายไม้ ที่ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งจะให้ความรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ จึงเหมาะกับการตกแต่งในสไตล์แบบไทยๆ และ สไตล์โอเรียนทอล
-
ด้ามจูงอลูมิเนียม สำหรับด้ามจูงชนิดนี้ ได้มีวิวัฒนาการต่อยอดมาจากด้ามจูงไม้สัก เพราะต้องการตอบโจทย์เรื่องของราคาที่ถูกลง โดยวัสดุได้ทำมาจากอลูมิเนียม และมีโทนสีให้เลือกมากมายโดยใช้วิธีการทำสีที่ตัววัสดุ
-
ด้ามจูงอะคริลิค ถือเป็นด้ามจูงที่เกิดมาทีหลังสุด เพื่อให้ตอบโจทย์ในเรื่องของการตกแต่งและการใช้งาน โดยทำมาจากอะคริลิคใส ลักษณะเหลี่ยม ซึ่งให้ความรู้สึกเรียบ หรู และโมเดิร์น อีกทั้งยังสามารถตกแต่งเข้าได้กับทุกสไตล์เนื่องจากความใสของอะคริลิค จะทำให้มองไม่เห็น หรือ ไม่ชัดเจน ในเวลาที่รวบผ้าม่าน
รางผ้าม่านมีกี่ชนิด?
-
รางผ้าม่าน แบบอลูมิเนียม เป็นรางที่ทำจากอลูมิเนียมหนา 1 มม. ซึ่งสามารถเลือกได้ 2 แบบด้วยกัน เป็น รุ่นเชือกปรับ หรือจะใช้เป็น รุ่นด้ามจูง ก็ได้ เหมาะกับเพื่อนๆ ที่ไม่ชอบให้ผ้าม่านเห็นตัวราง เหมาะกับการแต่งบ้านทุกๆ สไตล์
-
รางผ้าม่าน แบบรางโชว์ คือรางผ้าม่านที่โชว์รางให้เห็นในเวลาที่ปิดหรือเปิดผ้าม่าน เหมาะสำหรับการตกแต่งแบบ Vintage, Classic หรือ Luxury เน้นโชว์ดีไซน์ที่ตัวรางและหัวของรางผ้าม่านเป็นหลัก ซึ่งตัวรางก็สามารถเลือกเป็นวัสดุที่ชอบได้
วัสดุที่ใช้ทำรางผ้าม่านมีแบบไหนบ้าง?
-
รางโชว์อลูมิเนียม (Aluminium) เป็นรางผ้าม่านที่ทำมาจากอลูมิเนียมแต่เน้นให้เห็นตัวราง ข้อดีคือเป็นรางประดับที่ราคาไม่แพง มี 2 ขนาดให้เลือกใช้ คือ 25 มม. และ 35 มม.
-
รางโชว์สแตนเลส (Stainless Steel) เป็นรางผ้าม่านที่ทำจากสแตนเลส 100% ทำให้รางผ้าม่านไม่เกิดสนิม
-
รางโชว์ไทเทเนียม (Titanium) หนึ่งในรางผ้าม่านที่นิยมมากในปัจจุบัน ด้วยรูปแบบสี และรางที่มีให้เลือกหลายรูปแบบ ตัวรางเป็นเหล็กที่ทำการชุบสีด้วยระบบไฟฟ้า ทำให้สีไม่หลุดลอกง่าย เหมาะกับการแต่งบ้านหรือคอนโดสไตล์ Modern
-
รางไม้รามิน (Ramin Fashion Rod) เป็นรางผ้าม่านที่ผลิตจากไม้รามินแท้ 100% แต่ก็มีราคาที่ค่อนข้างสูง เหมาะกับการตกแต่งสไตล์ Classic, Vintage เป็นต้น
สนใจบริการ ติดตั้งผ้าม่าน วอลล์เปเปอร์ ติดต่อวัดพื้นที่ประเมินราคาฟรี! โทร 02-750-2563
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
- ตอนที่ 1 : ผ้าม่านแบรนด์ไหนดี?