hifu ยกกระชับหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ได้จริงหรือ? ทำไฮฟู่ ดีไหม?

ทำ Hifu คืออะไร? ทำแล้วดีจริงไหม?

Hifu Macrofocus คือเครื่องที่ใช้ในการทำไฮฟู่ พัฒนามาจากหลักการใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ทางการแพทย์ ที่เอาไว้ดูการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์มารดา เมื่อยิงเข้าไปที่บริเวณใต้ชั้นผิวหนังแต่ละชั้น จะเกิดการหดตัวลง (คล้ายกับเย็บเข้าไปที่เนื้อ) จึงเป็นการดึงหน้า ให้ผิวยกกระชับขึ้นกว่าเดิม ใบหน้าจะดูอ่อนกว่าวัยได้อีกครั้ง

Hifu เป็นคลื่นเสียงที่มีความปลอดภัยสูง เป็นคลื่นลักษณะเดียวกับการตรวจครรภ์

ซึ่งไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นอันตราย เพราะเครื่องไฮฟู่ มาโครโฟกัส ไม่ใช่ทั้งคลื่นแสงหรือเลเซอร์ จึงไม่ทำร้ายผิวหนังชั้นนอก มีความปลอดภัยสูง สามารถยิงเน้นบริเวณรอบดวงตาและใต้ตาได้โดยตรง เพราะคลื่นเสียงชนิดนี้ไม่ทำอันตรายต่อสายตาของเราค่ะ

ถ้าอายุยังน้อย (ไม่ถึง 25 ปี) จะมีผลเสียหรือไม่ ถ้าจะทำ hifu?

ปัญหาร่องแก้ม ร่องใต้ตา จะเริ่มมาเยือนใบหน้าของเราตั้งแต่อายุมากกว่า 20 ปีเป็นต้นไปแล้วค่ะ โดยจะเกิดการยืดออกของอีลาสตินในผิวหนัง ถ้าเราไม่ดูแล ปล่อยให้ปัญหานี้อยู่ต่อไปเรื่อย ๆ ความหย่อยคล้อยของผิวหน้าก็จะเร็วขึ้นเป็นเท่าตัว ดังนั้น หลายคนจึงหาวิธีรักษาให้ใบหน้าตึงกระชับอยู่เสมอ แม้ว่าอายุจะยังไม่เยอะมากก็ตาม

ซึ่งวิธีการยกกระชับใบหน้าที่ได้ผลดีก็คือ การทำ Hifu Macrofocus ในคนที่ 20 ปีขึ้นไปก็สามารถทำได้แล้ว เพราะจะสามารถป้องกันปัญหาริ้วรอย ร่องแก้ม ร่องที่มุมปาก และร่องใต้ตาไม่ให้เกิดขึ้นเร็วเกินไป ให้ใบหน้าคงความอ่อนเยาว์ไว้ได้นาน ๆ

นอกจากนี้ ไฮฟู่ยังช่วยยกแนวคิ้วให้ดูสูงขึ้น ยกกระชับใบหน้า ลดคางสองชั้นหรือเหนียงที่ใต้คาง ลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนโดยไม่ต้องเจ็บตัวจากการผ่าตัดอีกด้วยค่ะ

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหน้าเราจะค่อย ๆ หย่อนคล้อยลง (กระดูกและกล้ามเนื้อเกิดการยุบตัว) หากไม่ดูแลให้ผิวกระชับอยู่เสมอ ความหย่อนคล้อยจะยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

ทำ Hifu ดีไหม? สามารถช่วยในเรื่องใดได้บ้าง?

คำถามที่ว่า ทำ HIFU ดีไหม ก่อนอื่นขออธิบายก่อนว่า ความหย่อนคล้อยของใบหน้า ที่ไม่ตึงกระชับเหมือนตอนสมัยวัยรุ่น ก็เพราะมีการยืดออกของอีลาสตินและคอลลาเจนเมื่อเราเริ่มมีอายุเยอะ ซึ่ง hifu เป็นเครื่องมือที่ใช้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในทุก ๆ ชั้นผิว และเนื้อเยื่อจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ แน่นกว่าเก่า ผิวหน้าของเราจึงยกกระชับ เต่งตึงขึ้น หน้าดูเด็กลงอย่างสังเกตเห็นได้

• สามารถช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลงได้อีกครั้ง ยกกระชับใบหน้า
• สามารถทำให้หน้าใส เนียนเรียบดูเป็นธรรมชาติ จัดการกับปัญหารูขุมขนกว้างให้ดูดีขึ้น
• สามารถลดริ้วรอบบริเวณรอบ ๆ คอ และช่วยลดไขมันเหนียงให้ดูกระชับขึ้น ผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่หลังทำไฮฟู่ครั้งแรก
• ชะลอผิวหน้าไม่ให้หย่อนคล้อยไว

การทำ Hifu ยกกระชับ ต้องใช้กี่ชอตจึงจะเห็นผลลัพธ์?

ข้อสงสัยที่ว่า หากจะทำ hifu ต้องยิงกี่ไลน์ (หรือชอต) จึงจะเห็นผลลัพธ์ว่าใบหน้าดูยกกระชับขึ้น? ซึ่งสภาพผิวหน้าและปัญหาของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น บางคนใบหน้าหย่อนคล้อยมาก ปริมาณไขมันสะสมบริเวณใบหน้าและเหนียงค่อนข้างเยอะ จำนวนช็อตที่ใช้ก็จะไม่เท่ากับคนที่ใบหน้าเพิ่งเริ่มหย่อนคล้อยและยังไม่มีไขมันใต้คาง ดังนั้น การเข้าไปให้คุณหมอช่วยประเมินใบหน้าก่อนตัดสินใจทำจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อความคุ้มค่า ปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนค่ะ 

ทำ Hifu เจ็บไหม?

อย่าเพิ่งรีบหลงเชื่อกับคำโฆษณาที่บางคลินิกบอกว่า เห็นผลได้ทันทีและไม่เจ็บเลยสำหรับการทำ Hifu/Ulthera ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

หากถามว่า ทำ hifu เจ็บไหม ตอบได้เลยว่าเจ็บ แต่ที่ต้องเจ็บเนื่องจาก หากต้องการให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีจากการทำไฮฟู่ ระหว่างทำคนไข้จะต้องรู้สึกปวดและตึง ๆ ที่ใต้ชั้นผิวหนัง เพราะนั่นแปลว่า ได้ยิงคลื่นเสียงเข้าไปถึงบริเวณชั้น SMAS (คือ ชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ) แล้วจริง ๆ ค่ะ ผิวจะยกกระชับขึ้นอย่างสังเกตเห็นได้ ส่วนอาการบวมเล็กน้อยหลังทำ ก็จะค่อย ๆ ยุบบวมไปได้เองจนหายดีเป็นปรกติ

จึงมีคำพูดที่มักบอกกันว่า “ทำ Hifu/Ulthera ยิ่งเจ็บ ยิ่งสวย” เพราะถ้าเราต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนานถึง 1 ปีจะต้องแลกมาด้วยความเจ็บขณะทำที่เพิ่มมากขึ้น (โดยปรกติแล้วการทำ Hifu Macrofocus ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน)

ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Hifu จะอยู่ได้นานแค่ไหน?

หลังจากทำไฮฟู อยู่ได้นานกี่เดือน? คำถามนี้เชื่อว่าแทบทุกคนคงอยากรู้  โดยปรกติแล้วผลลัพธ์จาก hifu จะสามารถคงอยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือนค่ะ  สำหรับใครที่ทนเจ็บได้มากขณะทำ ประกอบกับดูแลตัวเองหลังการรักษาเป็นอย่างดี ก็จะช่วยยืดระยะเวลาออกไปได้ถึง 1 ปีค่ะ

การทำ Hifu : สามารถทำได้ทั่วทั้งตัว จริงไหม?

Hifu สามารถยิงได้ทุกจุดที่เรามีปัญหาเรื่องความหย่อยคล้อย และอยากให้ยกกระชับมากยิ่งขึ้น ซึ่งในระดับความลึกของผิวหนังบริเวณที่แตกต่างกัน จะใช้หัวยิงที่ต่างกันออกไปด้วยค่ะ ซึ่ง 2 บริเวณหลัก ๆ ที่ทำแล้วสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน มีดังนี้

• สามารถทำ hifu บริเวณใบหน้า ได้แก่ ร่องมุมปาก (หรือที่เรียกว่า ร่องน้ำหมาก) ร่องแก้ม เปลือกตา ใต้ตา หน้าผาก บน ไขมันใต้คาง/เหนียง ลำคอ พวงแก้ม รวมไปถึงกรอบหน้า
• สามารถทำ hifu บริเวณจุดต่าง ๆ บนร่างกาย เช่น เอว หน้าท้อง สะโพก ต้นแขน และต้นขา

ในการผ่าตัดดึงหน้าให้กระชับ จะใช้หัวยิงความลึก 4.5 mm (ใช้กับผิวชั้น smas)

ในการลดไขมัน เซลลูไลท์ และกระชับใบหน้า จะใช้หัวยิงความลึก 3.0 mm (ใช้กับผิวชั้นกลาง)

ในการลดริ้วรอย จะใช้หัวยิงความลึก 1.5-2.0 mm (ใช้กับผิวชั้นบน)

การทำ Hifu ยังมีหัตถการอื่น ๆ ที่สามารถทำร่วมกันได้อีกหรือไม่?

หัตถการที่มีส่วนช่วยในเรื่องยกกระชับใบหน้า ให้เต่งตึงและดูอ่อนกว่าวัย มิใช่ว่าจะต้องเลือกทำเพียงแค่อย่างเดียวในแต่ละครั้งเท่านั้น ในการทำ hifu ก็เช่นกัน เราสามารถทำควบคู่ไปกับการฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ เมโสแฟต หรือร้อยไหมได้ด้วยค่ะ