Miyeon

ผู้เขียน : Miyeon

อัพเดท: 09 มิ.ย. 2021 14.03 น. บทความนี้มีผู้ชม: 514 ครั้ง

หนึ่งในอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านที่ขาดไม่ได้เลยนั้นก็คือปลั๊กไฟ เพราะปลั๊กไฟนั้นสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนำไปต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้า ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถทำงานได้ ทั้งยังทำให้การพ่วงต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าสะดวกมากขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การเลือกปลั๊กที่มีความเหมาะสมต่อการใช้งาน และมีความปลอดภัยก็สำคัญไม่แพ้กัน ส่วนจะมีวิธีการเลือกอย่างไรให้ปลอดภัย และตอบโจทย์ต่อการใช้งานบ้างนั้น ตามไปอ่านกันเลย


อ่านก่อนซื้อ! เลือกปลั๊กไฟอย่างไรให้ปลอดภัย และตอบโจทย์การใช้งาน

 

หนึ่งในอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านที่ขาดไม่ได้เลยนั้นก็คือปลั๊กไฟ เพราะปลั๊กไฟนั้นสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนำไปต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้า ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถทำงานได้ ทั้งยังทำให้การพ่วงต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าสะดวกมากขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การเลือกปลั๊กที่มีความเหมาะสมต่อการใช้งาน และมีความปลอดภัยก็สำคัญไม่แพ้กัน ส่วนจะมีวิธีการเลือกอย่างไรให้ปลอดภัย และตอบโจทย์ต่อการใช้งานบ้างนั้น ตามไปอ่านกันเลย

 

 

ตรวจเช็กเครื่องหมายมอก.

เครื่องหมายมอก. นั้นย่อมาจากมาตรฐานการผลิตอุตสาหกรรม ซึ่งเครื่องหมายนี้จะเป็นที่ยืนยันได้ว่าปลั๊กไฟนั้นๆ มีมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งปลั๊กไฟทุกรุ่นทุกแบรนด์จำเป็นต้องมีมาตรฐานนี้ โดยสำหรับสายไฟฟ้าที่ใช้ก็ต้องเป็นไปตาม มอก. 11-2553 ซึ่งเป็นมาตรฐานบังคับ ส่วนเต้าเสียต้องเป็นไปตามมอก. 166-2547 ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกปลั๊กไฟก็อย่าลืมตรวจสอบให้ดีก่อนว่ามีมาตรฐานมอก. ติดอยู่ด้วยหรือไม่

 

ควรมีระบบตัดไฟ

อีกหนึ่งข้อสำคัญที่ปลั๊กไฟควรมีเช่นกันก็คือระบบตัดไฟ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายๆ มักจะมองข้ามกัน โดยเฉพาะปลั๊กไฟที่มีราคาถูกมากๆ ให้สังเกตว่าปลั๊กไฟนั้นๆ มีระบบตัดไฟมาด้วยหรือไม่ เพราะหากเรามีการใช้กระแสไฟฟ้าที่สูงเกินกว่าที่สายไฟจะรับไหว ก็อาจทำให้ความร้อนสะสมและสร้างความเสียหายให้กับสายไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณได้เลย หรือยิ่งไปกว่านั้นก็อาจทำให้ไฟไหม้ได้ด้วยเช่นกัน 

 

ตรวจเช็กจำนวนเต้ารับ

รู้หรือไม่ว่าการที่ปลั๊กไฟมีจำนวนเต้ารับมาก นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีกำลังไฟมากขึ้นไปด้วย เพราะหากคุณเลือกซื้อปลั๊กไฟ 3 ช่อง แปลว่าจำนวนช่องก็จะถูกนำไปหารเฉลี่ยกับกำลังไฟ และหากนำไปเสียกับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่มีกำลังไฟฟ้าสูงกว่าที่ปลั๊กไฟจะรองรับได้ ก็อาจทำให้เครื่องไม่สามารถใช้งาน หรือเกิดเหตุขัดข้องได้ด้วยเช่นกัน

 

ความยาวของสายมีความเหมาะสม

นอกจากนี้หากคุณต้องการซื้อปลั๊กไฟที่เหมาะสมกับการใช้งาน ก็ต้องดูด้วยว่าความยาวของปลั๊กไฟนั้นมีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด เพราะหากมีความยาวเกินไป ก็อาจทำให้พันกัน และดูยุ่งเหยิงไม่สวยงาม นอกจากนี้หากบ้านของคุณมีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ ก็อาจทำให้เกิดอันตรายได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น เรื่องความยาวของสายปลั๊กไฟก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลย

 

สำหรับใครที่กำลังจะเลือกซื้อปลั๊กไฟอยู่ก็อย่าลืมคำนึงถึงข้อแนะนำต่างๆ ที่เราได้พูดถึงไปข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเช็กเครื่องหมายมอก. ทำการเลือกปลั๊กไฟที่มีระบบตัดไฟ ตรวจเช็กจำนวนเต้ารับให้เหมาะสมกับการใช้งาน และไม่ควรเลือกปลั๊กที่มีความยาวของสายยาวเกินไป เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ปลั๊กไฟที่มีความเหมาะสมต่อการใช้งาน ทั้งยังปลอดภัยอีกด้วย

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที