beau

ผู้เขียน : beau

อัพเดท: 04 มิ.ย. 2021 14.25 น. บทความนี้มีผู้ชม: 1575 ครั้ง

ต่างกันอย่างไร! 7 ประเภทผ้าม่าน ในแต่ละแบบ


ต่างกันอย่างไร! 7 ประเภทผ้าม่าน ในแต่ละแบบ

ปัจจุบัน “ผ้าม่าน” ถือเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้บ้าน คอนโด ออกมาดูดี สวยงาม มีสไตล์ ด้วยตัวผ้าม่านที่มีความหลากหลาย แถมตัวแบบผ้าม่านยังแบ่งได้อีกหลายชนิด ผ้าม่านแต่ละชนิดจึงมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไป
 
ความชอบส่วนตัวในการเลือกผ้าม่าน จึงช่วยสะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี … วันนี้ Infinity Design ผ้าม่าน ขออาสาพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับผ้าม่านแบบต่างๆ กัน
 
 
 
 
ผ้าสำหรับใช้ทำผ้าม่านมีแบบไหนบ้าง?
 
ผ้าม่าน Dimout
 
1. ผ้าม่านธรรมดา ลักษณะของเนื้อผ้าม่านที่ใช้ จะเป็นใยผ้าธรรมชาติ เช่น ผ้า Cotton เนื้อผ้าม่านชนิดนี้ จึงมีแสงทะลุผ่านได้ค่อนข้างเยอะ ผ้าม่านแบบธรรมดาจะโดดเด่นด้านลวดลายและสีสันบนตัวผ้า ที่หลากหลายมากกว่าผ้าม่านกันแสงแบบ Dimout แต่ประโยชน์ด้านการกันแสง จะสู้ผ้าม่านแบบกันแสงโดยตรงไม่ได้
 
 
ตัวอย่างผ้าม่าน Dimout แบบผ้าธรรมดา
 
 
2. ผ้าม่านกันแสง ลักษณะของเนื้อผ้าม่านส่วนใหญ่เป็นผ้าใยสังเคราะห์ เช่น Polyester ปัจจุบันด้วยลักษณะการทอผ้าม่านกันแสงแบบพิเศษที่มีเส้นด้ายสีดำ ทำให้ผ้าม่านกันแสงแบบ Dimout สามารถช่วยกันแสงที่ส่องเข้ามาในห้องได้มากถึง 80-95% (สีของผ้าม่านจะมีผลต่อปริมาณแสงที่ส่องผ่านเข้ามาในห้องโดยตรง) แต่สีของผ้าม่านชนิดนี้ส่วนใหญ่เป็นสีพื้น ด้านลวดลายและลูกเล่นต่างๆ บนตัวผ้าม่านจะมีน้อยกว่าผ้าม่านแบบธรรมดามาก
 
 
 
 
ผ้าม่านกันแสง (Blackout) ลักษณะของเนื้อผ้าม่านกันแสงชนิดนี้ จะมีด้วยกันหลายประเภท ทั้งแบบที่เป็น PVC และแบบผ้าใยสังเคราะห์ผสม สามารถช่วยลดความร้อนและรังสียูวีที่ส่องผ่านเข้ามาในห้องได้แบบ 100% ผ้าม่านกันแสงชนิดนี้ใช้ซับหลังเท่านั้น (เป็นผ้าม่าน 2 ขิ้นแนบติดกัน) นอกจากนี้ผ้าซับหลังบางตัวยังมีคุณสมบัติพิเศษในการป้องกันการลามไฟอีกด้วย
 
 
ผ้าม่านโปร่ง (Sheer Fabric) ลักษณะของเนื้อผ้าม่านโปร่งที่ใช้ จะเป็นผ้าใยสังเคราะห์ เช่น Polyester เนื้อของผ้าม่านโปร่ง เป็นผ้าเนื้อบาง ช่วยพรางสายตาและเพิ่มความเป็นส่วนตัวจากภายนอก แต่ยังคงเห็นทิวทัศน์จากนอกหน้าต่างได้อย่างไม่อึดอัด ผ้าม่านโปร่งยังช่วยเพิ่มความสวยงาม และทำให้บรรยากาศแสงภายในห้องดูนุ่มนวล สบายตา
 
 
 
 
แบบผ้าม่านแบ่งได้กี่ชนิด?
 
หลังจากได้รู้จักกับเนื้อผ้าที่ใช้กันไปแล้ว มาดูในส่วนของแบบผ้าม่านกันบ้าง นอกจากเนื้อผ้า สีสัน หรือลวดลายแล้ว แบบผ้าม่านก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องเลือกให้เหมาะกับพื้นที่ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสม สวยงาม ซึ่งแบบผ้าม่านที่แตกต่างกัน ก็จะให้อารมณ์ของห้องที่แตกต่างกันออกไปด้วยนะ! สำหรับแบบผ้าม่านนั้น สามารถแบ่งออกคร่าวๆ ได้ดังต่อไปนี้
 
- ผ้าม่านจีบ ม่านจีบถือเป็นผ้าม่านที่พบเห็นได้ทั่วไป และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สามารถนำไปตกแต่งในทุกๆ สถานที่ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นแต่งบ้าน หรือแต่งคอนโด รูปแบบผ้าม่านให้ความรู้สึกเรียบง่าย ดูดี สวยงาม ลงตัวกับผ้าม่านทุกเฉดสี ตัวผ้ามีการจับหัวผ้าม่านด้านบนเป็นจีบเล็กๆ 3 จีบ ดูเป็นเอกลักษณ์ มีลอนผ้าที่สวยงาม
 
 
ตัวอย่าง ม่านจีบ
 
 
- ผ้าม่านพับ ผ้าม่านแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก ทั้งในฝั่งยุโรป อเมริกา และเอเชีย ด้วยคุณสมบัติเด่นหลายประการของม่านพับที่ใช้งานง่าย สะดวก แข็งแรง และประหยัดพื้นที่ในการรวบเก็บ ช่วยให้ห้องดูโปร่ง สบายตา เข้ากับการแต่งห้องแบบโมเดิร์น เหมาะสำหรับครอบครัวทันสมัย ยุคใหม่ ที่เน้นการใช้งานง่าย
 
 
ผ้าม่านพับ
 
 
 
- ผ้าม่านตาไก่ อีกหนึ่งทางเลือกที่ดูทันสมัย ไม่ตกเทรนด์ กับม่านตาไก่ ตัวผ้าม่านจะมีการเจาะรูที่หัวผ้าม่าน เพื่อใส่ห่วงตาไก่ สอดเข้ากับรางผ้าม่าน ทำให้ดูพริ้วไหว อิสระ สามารถตกแต่งได้กับห้องหลากหลายสไตล์ ทั้งบ้านและคอนโด
 
ผ้าม่านตาไก่
 
- ผ้าม่านลอน เป็นแบบผ้าม่านอีกทางเลือกหนึ่งที่มีสไตล์ มีลักษณะการจับจีบผ้าในแบบที่ล้ำสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับความทันสมัยในปัจจุบัน และเหมาะสำหรับพื้นที่ใช้สอยที่มีขนาดค่อนข้างจำกัด ตัวผ้าม่านโดยรวมมีลักษณะคล้ายกับม่านจีบ แต่บริเวณหัวผ้าม่านจะไม่มีการจับจีบ จะปล่อยหัวผ้าม่านให้เป็นลอนโค้งอิสระ ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย สบายตา
 
ผ้าม่านลอน
 
ประเภทม่าน (ไม่ได้ทำจากวัสดุผ้า)
 
นอกจากผ้าม่านจะเป็นที่นิยมในการเลือกใช้งาน และสามารถนำมาปรับตกแต่งให้เข้ากับคอนเซ็ปต์สไตล์การตกแต่งต่างๆ แล้ว ปัจจุบันก็ยังมี ม่าน (Blinds) อีกหลายชนิด ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการใช้งาน และดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับประเภทของม่านนั้น สามารถแบ่งได้ดังต่อไปนี้
 
- มู่ลี่ นับเป็นของตกแต่งบ้านที่เน้นความเรียบง่าย ซึ่งนอกจากจะช่วยบังแสงแดดที่ส่องเข้ามาในห้องแล้ว ยังช่วยสะท้อนความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้าน และบดบังทัศนียภาพที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ ได้อีกด้วย ตัวใบมู่ลี่วางตัวในแนวนอนสามารถเลือกความเข้มแสงที่เข้ามาภายในห้องได้โดยการปรับองศาของใบ เช่นเดียวกับ ม่านปรับแสง การดึงเก็บตัวมู่ลี่จะถูกรวบเก็บในแนวตั้ง
 
มู่ลี่
 
- ม่านปรับแสง ปัจจุบันม่านปรับแสงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยรูปแบบการวางใบของตัวม่านที่เป็นแนวตั้ง (มีลักษณะคล้ายกับมู่ลี่ แต่เป็นแนวตั้ง) ทำให้สามารถควบคุมปริมาณแสงให้เข้าภายในห้องได้อย่างง่ายดาย ม่านปรับแสงมักถูกนำไปตกแต่งในสถานที่ทั่วไป เช่น ห้องทำงาน ห้องครัว ห้องนั่งเล่น หรือแม้แต่ห้องนอน ด้วยรูปแบบของม่าน จะช่วยทำให้บรรยากาศของตัวห้อง ดูสวยงาม ทันสมัย
 
ม่านปรับแสง
 
- ม่านม้วน เป็นม่านชนิดหนึ่งที่มีรูปแบบทันสมัย ใช้บังแสงสว่างจากภายนอก มีลักษณะที่พิเศษคือ เป็นผ้าผืนใหญ่ที่สามารถม้วนเก็บขึ้นไปให้มิดชิด ซึ่งเมื่อม้วนเก็บแล้วจะมีขนาดเล็ก ทำให้ประหยัดพื้นที่ ทำความสะอาดง่าย และไม่เก็บฝุ่น ส่วนใหญ่แล้วม่านม้วนจะนิยมใช้ในออฟฟิศหรือร้านค้า หรือใช้ในมุมต่างๆ ของบ้านซึ่งจะช่วยกรองแสงและบังสายตาได้เป็นอย่างดี
 
 
ม่านม้วน
 
ผ้าม่านประเภทไหนดีที่สุด?
 
ผ้าม่านและม่านแต่ละชนิด มีข้อดีแตกต่างกันออกไป ทั้งในเรื่องความสวยงาม เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของแต่ละประเภท รวมไปถึงรูปแบบการใช้งานต่างๆ ที่ผู้อยู่อาศัยต้องเลือกให้เหมาะสมกับพื้นที่และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของตัวเอง…
 
แต่หากเพื่อนๆ ยังไม่แน่ใจว่าพื้นที่ในห้องของตัวเอง จะใช้ผ้าม่านหรือม่านชนิดใด สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำการให้บริการจากทีม Decorista ของเราได้ทันที พวกเรา Infinity Design ยินดีให้คำแนะนำ และช่วยทำให้บ้านและคอนโดของเพื่อนๆ สวยอย่างลงตัว
 
 
ที่มา : Infinity Design
 

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที