คุณเคยรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ บริเวณหน้าอกไหม? หรือรู้สึกว่าหัวใจหวิว ๆ รู้สึกมึนงงบ้าง? หากคุณเคยมีอาการเหล่านี้ อาจจะถึงเวลาแล้วที่คุณควรจะต้องหันมาใส่ใจและสังเกตกับอาการที่เกิดให้มากขึ้น เพื่อเฝ้าระวังอาการป่วย เพราะอาการเหล่านี้อาจจะเป็นสัญญาณเตือนเกี่ยวกับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะก็เป็นได้ ถ้าหากคุณสามารถสังเกตอาการเหล่านี้และเข้ารับการตรวจวินิจฉัยได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะคืออะไร?
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะคืออาการผิดปกติที่เกิดขึ้นได้จากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต พฤติกรรมการดื่มหรือสูบที่มาก จนไปถึงความเครียด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบทำให้เกิดอาการผิดปกติของร่างกายตามมาอย่างเช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูงและอีกมากมาย อีกทั้งยังเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ และปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับหัวใจอีกด้วย ส่งผลทำให้การทำงานของหัวใจนั้นลดลง และก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ ตามมาได้รวมถึงภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะด้วย
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะมีอาการอย่างไรบ้าง?
ปกติแล้วคนที่มีอาการของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะมักจะไม่ค่อยรู้ตัว เพราะอาการมักจะเกิดขึ้นเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ได้เกิดขึ้นนานหรือติดต่อกัน ทำให้หลาย ๆ คนชะล่าใจและคิดว่านี่คืออาการปกติที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น หากมีอาการเหล่านี้ ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดและรักษาอย่างทันท่วงที
- มีอาการวิงเวียน หน้ามืดบ่อย ๆ
- หายใจลำบาก หายใจติดขัด
- มีอาการเจ็บแน่นที่บริเวณหน้าอก
- มีอาการใจสั่น
การรักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะมีอะไรบ้าง?
ต้องบอกว่าในปัจจุบันนี้นั้นมีหลากหลายวิธีมาก ๆ ที่ช่วยรักษาอาการของหัวใจเต้นผิดจังหวะให้ดีขึ้นได้โดยอาศัยเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย เช่น
- เครื่องมือ Electrocardiogram เป็นเครื่องมือที่ช่วยตรวจวัดการเต้นของหัวใจได้อย่างละเอียด ช่วยให้ทีมแพทย์สามารถวินิจฉัยอาการป่วยได้ดีและตรงจุดมากยิ่งขึ้น
- เครื่อง CardioInsight เป็นเครื่องที่ทางการแพทย์นำมาช่วยในการชี้เฉพาะถึงความผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจได้เป็นอย่างดี
- การสวนและจี้ไฟฟ้าหัวใจ (EP study with Radiofrequency ablation) วิธีนี้ถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ถูกนำมาใช้ในการรักษาอาการของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งประสบความสำเร็จถึงร้อยละ 95-98 และมีข้อดีคือผู้ป่วยไม่ต้องทานยาไปตลอดชีวิต
อย่าลืมว่าถ้าหากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการดังที่กล่าวมานี้นั้น ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด สมัยนี้มีเครื่องมือที่ช่วยตรวจได้อย่างแม่นยำ และไม่แพงอย่างที่คิด รวมถึงมีวิธีรักษาที่หลากหลาย มั่นใจได้ว่าปลอดภัยแน่นอน
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที