สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบที่ 3 นี้นับว่าทำให้คนไทยหลายคนได้รับผลกระทบแบบเป็นวงกว้างไปตามๆ กัน โดยเฉพาะผู้ที่ประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ร้านอาหาร รวมไปถึงธุรกิจยิบย่อยเล็กๆ ซึ่งการนำสินทรัพย์ส่วนตัวอย่างทองไปจำนำนั้น ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้สามารถนำเงินมาหมุนใช้ให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปกู้เงินเพื่อสร้างหนี้สินเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ก่อนจะใช้บริการโรงรับจำนำทองนั้นก็ควรจะศึกษารายละเอียดต่างๆ ให้ดี โดยในวันนี้เรามีทุกเรื่องที่ควรรู้ก่อนนำทองไปจำนำมาฝากกัน
การจำนำทองคืออะไร? นำทองประเภทไหนไปจำนำได้บ้าง?
การจำนำทองนั้นคือการนำทำทองซึ่งอาจเป็นทองรูปพรรณหรือทองคำแท่งไปให้ผู้รับจำนำทองเพื่อเป็นหลักประกันในการชำระหนี้ที่กู้ยืม โดยเงินที่ได้จากการนำทองไปจำนำนั้นจะมีราคาต่ำกว่าทองในท้องตลาด เนื่องจากเป็นทองที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว ทั้งนี้ หากครบกำหนดไถ่ถอนแล้วผู้จำนำไม่สามารถชำระเงินตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ได้ ทองที่จำนำไว้จะถูกนำไปขายทอดตลาด
อัตราดอกเบี้ย
โดยทั่วไปแล้วการรับจำนำทองได้กำหนดดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.25-2.00 % ต่อเดือน ขึ้นอยู่กับโรงรับจำนำทองแต่ละแห่ง รวมถึงวงเงินที่ได้รับ ทั้งนี้ สำหรับโรงรับจำนำของรับหรือสถานธนานุบาล ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือเพียง 0.1% สำหรับวงเงินต่ำกว่า 5,000 บาท เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่เดือนเมษายน - พฤษภาคม
ระยะเวลาตั๋วจำนำ
ระยะเวลาของสัญญาตั๋วจำนำทองนั้นจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโรงรับจำนำทองแต่ละแห่ง แต่โดยทั่วไปแล้วมักมีระยะเวลาอยู่ที่ 5 เดือน แบ่งเป็นระยะเวลาสัญญา 4 เดือน และ ระยะเวลาผ่อนผันอีก 30 วัน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วผู้นำทองมานำจำจะจ่ายเฉพาะค่าดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ จนเมื่อมีเงินก้อนแล้วจึงนำมาปิดหนี้และไถ่ถอนทองออกก่อนตั๋วจำนำจะหมดสัญญา
สำหรับใครที่กำลังร้อนเงินอยู่ในช่วงนี้การเลือกใช้บริการโรงรับจำนำทองก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะไม่ต้องก่อภาระหนี้เพิ่มจากการกู้เงินหรือกู้สินเชื่อ อย่างไรก็ตาม เงินที่ได้นั้นมักจะต่ำกว่าราคาทองคำจริงในท้องตลาด แต่ก็ยังถือว่าน่าสนใจเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยไม่สูงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ จึงตอบโจทย์อย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการนำเงินมาหมุนใช้ในระยะเวลาสั้นๆ แต่ถ้าหากต้องใช้ระยะเวลานานหลายเดือนในการไถ่ถอนออกมา การตัดสินใจขายทองไปเลยก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะการจ่ายดอกเบี้ยทุกเดือนเป็นระยะเวลานานๆ เมื่อคิดรวมออกมาแล้วนับว่าเป็นเงินจำนวนไม่น้อย
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที