‘มะกอก’ (Olive) พืชที่มีความสำคัญต่อวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ วัฒนธรรม และอารยธรรมของชาวกรีกมานับพันปี พวกเขาเชื่อว่ามันคือสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง สุขภาพ ความงาม สติปัญญา และความอุดมสมบูรณ์ เนื่องด้วยมันสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ในทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นผลที่ถูกนำมาทำเป็นอาหาร ลำต้นและกิ่งก้านสาขาสำหรับทำฟืนจุดไฟให้ความอบอุ่น หรือน้ำมันที่สกัดออกมาเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง ทั้งยังเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศอีกด้วย
ใบและผลของต้นมะกอก
ภาพจาก: https://pixabay.com/th/photos/
นอกจากนี้ ยังถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์ ซึ่งตำรับยาของฮิปโพคราทิส (Hippocrates)* แพทย์ชาวกรีกโบราณได้ใช้น้ำมันมะกอกเป็นส่วนผสมในการปรุงยากว่า 60 ชนิด เนื่องจากมันมีสรรพคุณในการรักษาโรคและอาการเจ็บไข้ได้ป่วยต่างๆ อาทิ อาการปวดท้อง อาการติดเชื้อ ช่วยสมานแผล บำรุงผิวพรรณ เป็นต้น
ตามตำนานเล่าขานถึงต้นกำเนิดของพืชวิเศษนี้มีอยู่ว่า เทพซุส (Zeus) บิดาแห่งเทพทั้งมวล ได้จัดการประลองระหว่างเทพีอาธีนา (Athena) และเทพโพไซดอน (Poseidon) โดยผู้ชนะจะได้เป็นผู้ปกครองเมือง ในการนี้เทพโพไซดอนได้แสดงอิทธิฤทธิ์และพละกำลังด้วยการใช้ตรีศูล ซึ่งเป็นอาวุธทรงพลังประจำตัว ฟาดลงไปที่หินก้อนใหญ่จนแตกกระจาย ขณะที่เทพีอาธีนาได้เนรมิตต้นมะกอกซึ่งอุดมไปด้วยใบและผล ผลปรากฎว่าชาวเมืองได้เลือกให้เทพีอาธีนาเป็นผู้ปกครอง ทั้งยังตั้งชื่อเมืองนี้ว่า เอเธนส์ (Athens) ตามชื่อของเทพีอาธีนาอีกด้วย
แหวนเงินรูปใบมะกอก เครื่องประดับแบรนด์ Tiffany & Co.
สร้อยข้อมือรูปใบมะกอกทำจากเงินประดับโอปอ
ภาพจาก: Pinterest
มะกอก เป็นพืชที่มี่ความเกี่ยวโยงกับความเชื่อของมนุษย์ในหลากหลายด้าน ทั้งยังมีความสำคัญทางศาสนาอีกด้วย นักบวชอียิปต์ กรีก และโรมัน ยุคโบราณจะนำน้ำมันมะกอกมาใช้เป็นส่วนประกอบในพิธีกรรมการบูชาเทพเจ้า ทั้งยังเป็นหนึ่งในสี่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ (อันประกอบด้วย ขนมปัง ไวน์ น้ำ และน้ำมันมะกอก) ที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาคริสต์ สำหรับในศาสนาอิสลามนั้นได้ยกให้มะกอกคือผลไม้แห่งความสมบูรณ์พูนสุข
ว่ากันว่าในเหตุการณ์มหาวิบัติน้ำท่วมโลก โนอาห์ได้ล่องเรือซึ่งบรรทุกสรรพสัตว์อย่างละ 1 คู่ รอนแรมกลางคลื่นลมแรงและกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก วันหนึ่งเขาได้ปล่อยนกพิราบให้ออกโบยบิน และเมื่อนกพิราบบินกลับมายังเรือเขาต้องแปลกใจเมื่อได้พบว่ามันได้คาบเอาช่อมะกอกกลับมาด้วย เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขาได้เข้าใกล้แผ่นดิน และน้ำท่วมครั้งใหญ่ได้สิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งภายหลังนกพิราบคาบช่อมะกอกได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพและความสงบสุข
มงกุฎช่อมะกอกทำจากทอง
ภาพจาก: Pinterest
ช่อมะกอก ยังเป็นสัญลักษณ์และตัวแทนของชัยชนะอีกด้วย โดยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในยุคโบราณ ผู้ชนะการแข่งขันจะได้สวมมงกุฎซึ่งนำช่อมะกอกมาคล้องเกี่ยวและดัดจนได้รูป นอกจากนี้ เมื่อครั้งจักรวรรดิกรีกรุ่งเรืองเปี่ยมอำนาจ บรรดาแม่ทัพและเหล่าทหารที่มีชัยในการรบจะได้รับมงกุฎช่อมะกอกเพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณให้แก่ทหารเหล่านั้น แต่จากข้อจำกัดด้านความคงทนถาวร เป็นเหตุให้เริ่มมีการนำโลหะมาหล่อเป็นมงกุฎช่อมะกอกเพื่อมอบให้แก่ทหารผู้มีชัยในการรบ
จี้ ต่างหู และแหวนที่ออกแบบเป็นรูปใบมะกอกทำจากทองคำ 18 กะรัต เครื่องประดับแบรนด์ Tiffany & Co.
รัดเกล้าทองคำประดับเพชรซึ่งออกแบบเป็นรูปช่อมะกอก เครื่องประดับแบรนด์ Chaumet
กาลเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่ากระทั่งปัจจุบัน มะกอกได้ฝังรากลึกผูกติดกับความเชื่อของมนุษย์ทุกชาติ ทุกภาษา ทุกอารยธรรม จนได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการนำมาทำเป็นเครื่องรางแห่งชัยชนะและความสำเร็จ ตลอดจนพัฒนาไปสู่การออกแบบเป็นเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมรูปแบบหนึ่งในปัจจุบันอีกด้วย
*ฮิปโพคราทิส (Hippocrates) มีชีวิตอยู่เมื่อราว 460-370 ปี ก่อนคริสตกาล เป็นแพทย์ชาวกรีกโบราณ ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็น “บิดาแห่งการแพทย์ตะวันตก”
ข้อมูลอ้างอิง
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที