Tawan

ผู้เขียน : Tawan

อัพเดท: 23 มี.ค. 2021 17.08 น. บทความนี้มีผู้ชม: 1834 ครั้ง

รู้หรือไม่ว่า? จริงๆ แล้ว เบาะหนังรถยนต์สามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่าเบาะประเภทอื่นเป็นอย่างมาก แต่คนส่วนใหญ่กลับละเลยเเละขาดความระมันระวังในการใช้งานเพราะเข้าใจว่าเบาะหนังสกปรกยาก ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดบ่อยก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การหมั่นทำความสะอาดเบาหนัง และดูแลรักษาสภาพอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ห้องโดยสารรถสะอาด ไม่มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์และเชื้อโรคร้ายมารบกวน ช่วยให้เดินทางได้อย่างสบายกายเเละสบายใจ วันนี้จึงได้นำเทคนิคในการทำความสะอาดเบาะหนังรถยนต์ มาเล่าสู่กันฟังดังนี้


เทคนิคง่ายๆ ทำความสะอาดคราบบนเบาะหนังรถยนต์

รู้หรือไม่ว่า? จริงๆ แล้ว เบาะหนังรถยนต์สามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่าเบาะประเภทอื่นเป็นอย่างมาก แต่คนส่วนใหญ่กลับละเลยเเละขาดความระมันระวังในการใช้งานเพราะเข้าใจว่าเบาะหนังสกปรกยาก ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดบ่อยก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การหมั่นทำความสะอาดเบาหนัง และดูแลรักษาสภาพอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ห้องโดยสารรถสะอาด ไม่มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์และเชื้อโรคร้ายมารบกวน ช่วยให้เดินทางได้อย่างสบายกายเเละสบายใจ วันนี้จึงได้นำเทคนิคในการทำความสะอาดเบาะหนังรถยนต์ มาเล่าสู่กันฟังดังนี้
 
 
1. ตรวจสอบน้ำยาขจัดคราบสำหรับเบาะหนังรถยนต์ที่เลือกนำมาใช้ว่าจะไม่ทำลายตัวพื้นผิวเบาะหนังในบริเวณมุมอับนอกระยะการมองเห็น
 
2. ปรับเปลี่ยนสภาพของคราบแข็งสกปรกที่เกาะติดบนเบาะหนังรถยนต์ ด้วยน้ำยาปรับสภาพหนังก่อนที่จะใช้น้ำยาขจัดคราบป้ายลงไปที่บริวเณที่เป็นคราบ ก่อนทีจะถูน้ำยาดังกล่าวให้ซึมเข้าไปในแผ่นหนัง และทิ้งไว้ประมาณ 30-40 วินาที แล้วจึงเช็คออกด้วยวิธีการซับ ห้ามถู เพราะเบาะหนังจะเปื้อนมากยิ่งขึ้น
 
3. น้ำที่ใช้ในการทำความสะอาด ควรเป็นน่ำอุ่นที่สะอาดผสมกับสบู่ เพราะสบู่จะความเป็นด่างน้อยกว่าผงซักฟอก รวมถึงสบู่บางยี่ห้ออาจมีส่วนผสมที่ช่วยถนอนสภาพหนัง หรือที่เรียกว่า "มอยเจอร์ไรเซอร์" เเล้วจึงใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นเเละเช็ดตามคราบที่เประเปื้อนจนคราบสปกรกจางหรือหายไป ทั้งนี้ ห้ามใช้น้ำร้อนโดยเด็ดขาดเพราะอาจทำลายสภาพหนังได้  
 
เทคนิคสำหรับทำความสะอาดคราบสกปรกต่างๆ 
 
- รอยน้ำหมึก = ใช้สเปรย์แต่งผมหรือรับบิ้งแอลกอฮอล์ผสมกับน้ำ ฉีดสเปรย์ลงบนรอยแล้วใช้ผ้าสะอาดเปียกหมาดๆ ซับอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้น้ำหมึกที่ละลายไปเลอะส่วนอื่นของเบาะหนัง
- คราบมันหรือคราบน้ำมัน = สำหรับคราบมันหรือคราบน้ำมัน เช่น รอยลิปสติกหรือน้ำมันในอาหาร ให้ใช้ทินเนอร์สูตรน้ำกับผ้าฝ้าย เททินเนอร์ลงในถ้วยแล้วเติมน้ำในปริมาณเท่ากัน จุ่มผ้าลงในถ้วยและนำมาถูตรงรอยคราบ เหยาะเกลือหรือแป้งข้าวโพดลงบนคราบแล้วทิ้งไว้ข้ามคืน เช้ามาให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดตรงบริเวณคราบนั้น
- คราบกาแฟ =ที่หกบนเบาะ ใช้น้ำเย็นค่อยๆเช็ด เพื่อทำให้คราบเจือจาง และซับด้วยกระดาษทิชชู จากนั้นฉีดน้ำยาเช็ดกระจกทิ้งไว้ราว 5 นาที จึงใช้กระดาษทิชชูซับอีกครั้งเพื่อลดคราบให้จางลง แต่หากยังมีรอยคราบกาแฟอยู่ ให้ใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำอุ่นถูบริเวณหนังนั้นและใช้กระดาษทิชชูซับ แล้วใช้ที่เป่าผมเป่าให้แห้ง โดยให้ห่างจากเบาะหนังสัก3-4 นิ้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ความร้อนทำลายสภาพหนัง
- คราบบอาเจียน =ต้องรีบเช็ดเศษอาเจียนและละลายคราบให้จางลงด้วยน้ำเย็นทันทีจะได้ไม่ซึมเข้าเบาะ จากนั้นใช้สบู่ผสมน้ำอุ่น และผงฟูซึ่งช่วยดูดกลิ่นเหม็น นำไปซับตรงรอยคราบ จากนั้นเป็นให้สะอาดอีกรอบหนึ่ง
 
4. หลังจากที่ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำสะอาดเช็ดบริเวณที่ทำความสะอาดคราบเปื้อนจนสะอาดตามขั้นตอนที่กล่าวมาแล้วให้นำผ้าสะอาดที่แห้งอีกผืน เช็ดเบาะให้แห้ง
 
 
5. ขั้นตอนสุดท้าย อาจจะทาครีมช่วยทำความสะอาดเบาะพร้อมเคลือบเงา เพื่อถนอมเบาะหนัง แล้วทิ้งให้แห้งสนิท ทั้งนี้การใช้น้ำยาเคลือบเบาะ ไม่ควรใช้มากไปเพราะน้ำยาจะเข้าไปฝั่งอยู่ภายในทำให้หนังนุ่มดูเหมือนใหม่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสารจะค่อยๆเสื่อมคุณภาพ เกิดความหนืดสูง หนังจะแข็งขึ้น
 
 
สนใจประกันภัยรถยนต์ ประกันรถยนต์
 

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที