Contact
ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย โจดี ฟอสเตอร์
นักวิทยาศาสตร์สาวผู้หนึ่งเพียรพยายามที่จะพิสูจน์ว่า มีมนุษย์ต่างดาวอยู่อีกกาแล็คซีหนึ่ง เธอส่งสัญญาณคลื่นออกไปนอกโลก และเฝ้ารอการตอบกลับของมนุษย์ต่างดาว ต่อมาเธอสามารถจับและบันทึกคลื่นเสียงความถี่พิเศษที่ตอบกลับเธอได้ เธอจึงติดต่อขอใช้ยานอวกาศกับองค์การยานอวกาศแห่งชาติ เพื่อทดลองเดินทางไปสู่กาแลคซีนั้น เป็นการพิสูจน์ว่า ยังมีมนุษย์ต่างดาวอยู่อีกกาแลคซีหนึ่ง และเธอกำลังจะเดินทางไปหาเขาตามคำเชิญชวน
การทดลองเดินทางของเธอเป็นข่าวโด่งดังที่ประชาชนสนใจมาก มีการเตรียมการบันทึกผลการเดินทางอย่างเต็มที ทั้งการบันทึกเสียงของผู้เดินทาง บันทึกภาพถ่ายในห้องโดยสาร และถ่ายภาพวิดีโอการปล่อยยาน
แต่เมื่อถึงเวลาทำการปล่อยยานจริง เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้น ยานเกิดขัดคล่อง และตกลงสู่ทะเลโดยยังไม่ได้ออกเดินทางด้วยซ้ำ
เธอถูกช่วยชีวิตออกมาจากยาน และเมื่อเธอได้สติดีแล้ว เธอพยายามเล่าให้ผู้เกี่ยวข้องทุกคนรับรู้ว่า เธอได้เดินทางไปถึงกาแล็คซีนั้นแล้ว โดยวาปผ่านรูหนอนกาลเวลาหลายทอดจนไปถึงอีกกาแลคซีหนึ่ง ซึ่งมีทะเลเป็นสีฟ้าสดใส ชายหาดที่มีทรายขาวเป็นประกายสวยงามดุจดังสวรรค์ ฟากฟ้ามีดวงอาทิตย์แฝด 2 ดวง เธอได้พบกับพ่อของเธอผู้เสียขีวิตไปตั้งแต่เมื่อเธอยังเด็ก เธอดีใจอย่างสุดซึ้ง แต่สุดท้ายมนุษย์ต่างดาวกลับเฉลยว่า เขาไม่ได้เป็นวิญญาณของพ่อเธอ แต่ได้แปลงร่างให้เป็นรูปร่างของพ่อ เพราะอ่านจิตของเธอได้ว่าเธอใฝ่หาพ่อมาตลอดชีวิต จึงอยากแสดงภาพที่เธออยากเห็น เพื่อสร้างความสุขให้กับเธอ และย้ำว่าการที่เธอได้มาถึงดาวดวงนี้ไม่ได้เป็นเพียงความฝัน เคยมีมนุษย์หลายคนได้เคยเดินทางมาถึงที่นี่ เธอจะเป็นมนุษย์คนต่อไปที่จะนำพาคนอีกหลายคนมาสัมผัสที่นี่เหมือนเธอ และอวยพรให้เธอเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ
ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่เธอเล่าให้ฟัง จนมีการฟ้องร้องกล่าวหาว่าเธอให้การเท็จหลอกลวงประชาชน ถึงขนาดต้องเปิดศาลไต่สวน ทีมปฏิบัติการปล่อยยานแสดงหลักฐานให้ศาลโดยการฉายภาพถ่ายวีดีโอการเดินทางให้เห็นว่าทันทีที่ยานอวกาศถูกปล่อยออกจากฐาน ยานเกิดความผิดพลาดหลุดร่วงสู่ทะเลเบื้องล่างภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที และเทปบันทึกภาพภายในยานอวกาศแสดงแต่ภาพคลื่นรบกวน ถึงจะมีบางช่วงที่พอจะจับภาพของเธอได้ แต่การบันทึกเสียงล้มเหลวโดยสิ้นเชิง และบันทึกได้เพียงช่วงเวลาสั้นมากไม่ถึง 1 นาที เป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์ต่างดาวจะเชิญชวนให้เธอเดินทางไปหาเขาโดยใช้เวลาไปกลับเพียง 1 นาที และไม่ทิ้งหลักฐานการเดินทางอะไรไว้ให้เธอเลย นักวิทยาศาสตร์สาวอ้างว่า เป็นเพราะความเร็วมิติกาลเวลาของโลกและดาวดวงนั้นต่างกันมาก เวลาที่เธอสูญเสียไปกับการเดินทางเดินเร็วกว่าเวลาบนโลกเป็น 1000 เท่า
เธอสรุปคำให้การว่า ถึงแม้นจะไม่มีหลักฐานสนับสนุน แต่เธอไม่สามารถหลอกลวงตัวเองได้ว่าไม่ได้ไปถึงกาแล็คซีนั้น เพราะมันเป็นสิ่งที่เธอประสบมากับตัวเองจริง ๆ
เมื่อเลิกศาลแล้ว นักวิทยาศาสตร์สาวเดินออกมาจากศาล และต้องเผชิญหน้ากับนักข่าวจำนวนมากและฝูงชนจำนวนมหาศาล บาทหลวงผู้เป็นเพื่อนสนิทของเธอต้องคอยป้องกันไม่ให้นักข่าวเข้ารุมสัมภาษณ์ และก่อนที่บาทหลวงผู้นี้จะก้าวเข้าไปในรถยนต์ที่นักวิทยาศาสตร์สาวเข้าไปนั่งรออยู่ก่อนแล้วเพื่อเดินทางกลับ ได้มีนักข่าวคนหนึ่งตะโกนถามว่า ท่านเชื่อที่เธอพูดหรือไม่
อยากถามว่า
1. คุณเคยดูภาพยนตร์เรื่องนี้มาแล้วหรือไม่
2. คุณคิดว่า บาทหลวงผู้นั้นจะตอบว่า เชื่อ หรือ ไม่เชื่อ
3. คุณเชื่อเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์สาวเล่ามาหรือไม่
4. เนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับข้อกำหนดข้อใดของระบบ ISO 9001
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที