เตรียมรับมือให้พร้อมเมื่อเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
หลายคนแทบจะปรับตัวไม่ทันเลยเมื่อเรากำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เพราะเวลานั้นเดินไปเร็วมากๆ จากคนที่ยังอยู่ในวัยกลางคน กำลังสร้างความมั่นคง สร้างครอบครัวให้มั่งคั่ง รวมไปถึงดูแลครอบครัวอย่างเต็มที่ จนถึงเวลาที่บุตรหลานต่างเรียนจบการศึกษาและเข้าสู่วัยทำงาน เราเพิ่งตระหนักได้ว่า นี่เรากำลังเข้าสู่วัยผู้สูงอายุทีละก้าว และเราเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ให้กับตัวเราเองหรือยัง ในยุคสมัยที่หลายๆคนเลือกที่จะไม่มีลูก อาจจะมีการตั้งคำถามตามมาได้ว่า แล้วใครจะดูแลเราเมื่อยามแก่เฒ่า ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจะได้รับการแก้ไข เมื่อเราวางแผนการใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายไว้ว่าจะพักอยู่ที่บ้านพักผู้สูงอายุที่มีการดูแลแบบครบวงจร
หากทำความเข้าใจและศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับตัวเราและคนในครอบครัว เราต้องทราบเบื้องต้นก่อนว่าสังคมผู้สูงอายุคืออะไร ซึ่งสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ก็หมายถึง สังคมที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปที่อยู่จริงในพื้นที่ต่อประชากรทุกช่วงอายุในพื้นที่เดียวกัน ในอัตราเท่ากับหรือมากกว่าร้อยละ 10 ขึ้นไป หรือมีประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปที่อยู่จริงในพื้นที่ต่อประชากรทุกช่วงอายุในพื้นที่เดียวกัน ในอัตราเท่ากับหรือมากกว่าร้อยละ 7 ขึ้นไป ส่วนสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) นั้นหมายถึง สังคมที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปที่อยู่จริงในพื้นที่ต่อประชากรทุกช่วงอายุในพื้นที่เดียวกัน ในอัตราเท่ากับหรือมากกว่าร้อยละ 20 ขึ้นไป หรือมีประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปที่อยู่จริงในพื้นที่ต่อประชากรทุกช่วงอายุในพื้นที่เดียวกัน ในอัตราเท่ากับหรือมากกว่าร้อยละ 14 ขึ้นไป เมื่อทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว เรามาเริ่มดูแลสุขภาพของเราและผู้สูงอายุในบ้านเรา โดยเริ่มจากการออกกำลังกายและการทานอาหารที่มีประโยชน์ และเพิ่มอาหารเสริมเข้าไปเพื่อป้องกันโรค ได้แก่ อาหารเสริมกระดูกและข้อ อาหารเสริมบำรุงข้อเข่า อาหารเสริมไขข้อ ส่วนอาหารที่เหมาะกับผู้สูงวัยนั้นก็มีทั้ง อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต หรือแป้ง กลุ่มอาหารให้พลังงาน เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว เผือก และมันสำปะหลัง ผู้สูงอายุจึงควรรับประทานอาหารกลุ่มนี้แต่พออิ่ม อาหารประเภทโปรตีนหรือเนื้อสัตว์และถั่วและงา อาหารกลุ่มนี้ช่วยในการซ่อมแซม และสร้างเนื้อเยื่อที่สำคัญต่อร่างกาย เนื้อสัตว์ที่ผู้สูงอายุควรรับประทานคือ เนื้อสัตว์ที่ไม่มีหนังหรือไขมันมากเกินไป โดยเฉพาะเนื้อปลาและถั่วชนิดต่างๆ ควรได้รับโปรตีน วันละ 1 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม อาหารประเภทไขมัน ได้แก่ ไขมันจากพืช และไขมันจากสัตว์จะให้พลังงานแก่ร่างกายและยังช่วยในการดูดซึมวิตามินบางอย่างด้วย ผู้สูงอายุก็ควรจำกัดอาหารประเภทไขมัน ควรใช้น้ำมันพืชที่มีกรดไลโนเลอิค ประมาณ 2-2.5 ช้อนโต๊ะต่อวัน อาหารประเภทผักต่างๆ ผักจะให้วิตามินและเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกาย และมีใยอาหารช่วยให้ระบบขับถ่ายขับถ่ายเป็นปกติ ไม่ควรกินผักดิบเพราะมีกากอาหารมากเกินไปย่อยยาก อาจทำให้ท้องอืดเพราะมีก๊าซมาก อาหารประเภทผลไม้ ให้วิตามิน เกลือแร่ ใยอาหาร ผู้สูงอายุควรเลือกรับประทานผลไม้ที่เนื้อนุ่มเคี้ยวง่าย ได้แก่ มะละกอ กล้วยสุก ส้ม และควรรับประทานอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง ครั้งละ 6-8 ชิ้น/คำ อาหารที่เหมาะกับผู้สูงอายุ ควรปรุงอาหารให้เปื่อยนุ่ม ง่ายต่อการเคี้ยว และการย่อย จัดแต่งอาหารให้มีสีสันน่ารับประทาน และควรปรุงสุกใหม่ๆ ทุกมื้อ ควร หลีกเลี่ยงการปรุงอาหารเค็มจัด หวานจัด ในผู้สูงอายุที่อ้วนและมีโรคประจำตัว
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
- ตอนที่ 1 : เตรียมรับมือให้พร้อมเมื่อเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
