สถิติโรคกระดูกและข้อในไทย พบว่าปี 2549 เป็นต้นมาไทยมีผู้ที่ป่วยเป็นข้อเข่าเสื่อมจำนวนมากถึง 6 ล้านคนด้วยกัน และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทุกปี จากเดิมจะพบได้มากในผู้สูงอายุ แต่ในปัจจุบันนี้ปัญหาเริ่มพบในผู้ที่มีอายุที่น้อยลงเรื่อย ๆ อันเนื่องมาจากปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยเสริมหลายอย่าง
ศัลยแพทย์กระดูกและการผ่าตัดข้อเข่าเสื่อมและข้อสะโพกเทียม ได้อธิบายว่า ข้อเข่าถือเป็นข้อที่ใหญ่ที่สุดมีหน้าที่รับน้ำหนักในร่างกาย ซึ่งประกอบกันหลายอย่าง โดยส่วนสำคัญที่สุดอยู่บริเวณปลายของกระดูกอ่อนทำหน้าที่แบกรับน้ำหนัก ดังนั้นสาเหตุของข้อเสื่อม จึงมักเกิดจากกระดูกผิวอ่อนสึก ทำให้เวลาขยับแล้วเกิดการเสียดสีกันระหว่างกระดูก จนอักเสบและมีอาการปวดตามมาในที่สุด
1.อายุ - ผู้ที่มีอายุมาก มักจะเป็นข้อเข่าเสื่อม เป็นไปตามเงื่อนไขเวลา
2.น้ำหนัก - พบว่าผู้ป่วยที่เป็นข้อเข่าเสื่อมส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักที่มากเกินมาตรฐาน
3.การใช้ชีวิตประจำวัน - เช่น ยกของที่หนักเกินไป หรือเดินขึ้นลงบันไดโดยไม่จำเป็น รวมถึงท่านั่งที่ต้องงอเข่าอยู่บ่อย ๆ
4.เคยได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเข่ามาก่อน - เช่น กระดูกหัก เส้นเอ็นฉีก หรือหมอนรองเข่าขาด
ในเบื้องต้นอาจจะรู้สึกติดขัด และตึง โดยอาการปวดจะแสดงอาการหลังจากใช้เข่าเป็นเวลานาน หากปล่อยทิ้งไว้อาการปวดจะทวีความรุนแรง จนบางครั้งขยับเพียงนิดเดียวก็ปวดแล้ว หรือปวดในระหว่างตอนนอนด้วย ซึ่งรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก
1.ปรับปรุงอิริยาบถ ที่จะมีผลกระทบต่อข้อเข่า
2.ควบคุมน้ำหนัก ควบคู่กับยาที่มีสรรพคุณเหทือนที่จำหน่ายในเว็บ https://www.bim100apco.com/16913525/ข้อเข่าเสื่อม
3.การออกกำลังกาย ควรเน้นไปที่การออกกำลังที่ส่งผลกระทบต่อข้อเข่าให้น้อยที่สุด เช่น วิ่งเหยาะ ๆ ปั่นจักรยาน และว่ายน้ำ เป็นต้น
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
