การทำกายภาพบำบัดถือเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างยิ่ง สำหรับอาการบาดเจ็บหลังการวิ่งที่รุนแรง เช่น เท้าแพลง กล้ามเนื้อเกิดการกระตุก หรือกล้ามเนื้อฉีก มีอาการปวดหลัง ปวดขาหนีบและปวดสะโพก เมื่อมีอาการแบบนี้ ตัวเลือกในการรักษาก็มีไม่มาก
แต่ทั้งนี้ ก็ต้องเข้ารับการตรวจประเมินโดยนักกายภาพบำบัด หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกล้ามเนื้อและกระดูก หรือจะไปปรึกษาแพทย์ที่คอยดูแลนักวิ่งโดยตรงก็ได้ จะได้รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าอาการบาดเจ็บเกิดจากอะไร เช่น บาดเจ็บที่กล้ามเนื้อโดยตรง หรืออาจเกิดจากการวิ่งผิดท่า ซึ่งทั้งหมดนี้ อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บได้
หลังจากตรวจประเมินและเข้ารับกายภาพบำบัดอย่างเหมาะสมแล้ว อาการปวดที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันก็จะเริ่มทุเลาลง ซึ่งการทำกายภาพ ณ ปัจจุบันนี้ มักจะมีเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ เข้ามาช่วย ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพกว่าเดิม
1.เมื่อเข้ารับการักษาด้วยกับแพทย์กายภาพกับเว็บ https://www.themoveclubptclinic.com/physical-therapy.html หรือตามสถานพยาบาล จะช่วยให้รู้ได้ว่าอาการบาดเจ็บมีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ เช่น เกิดจากโครงสร้างกระดูกที่มีความผิดปกติ จนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หรือเกิดจากกระดูกสะโพกติดขัด เกิดจากการหมุนของแนวกระดูก จนทำให้เวลาวิ่งลงน้ำหนักมาก หรือน้อยเกินไป
2.ได้รู้ถึงวิธีการทำกายภาพบำบัดอย่างถูกต้อง และได้รู้ถึงวิธีออกกำลังที่เหมาะสมกับนักวิ่งแต่ละคนที่มีปัญหา เช่น เพิ่มการออกกำลังกายส่วนใด หรือต้องเพิ่มและลดการเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง
3.ได้รู้ถึงวิธีปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม ซึ่งมีความเฉาะเจาะจงกับตัวนักวิ่ง เนื่องจากนักวิ่งแต่ละคนล้วนมีปัญหาและสาเหตุที่ทำให้บาดเจ็บไม่เหมือนกัน
4.การวิ่งครั้งต่อไปจะไม่รู้สึกเจ็บอีกแล้ว และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่งได้ด้วย
5.ช่วยลดอาการปวดได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเทคนิคการทำกายภาพบำบัดที่มีความเหมาะสม
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที