เดือนแรกของปี 2021 ได้หมุนมาเกือบครบ 1 เดือน ทว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีมานานกว่า 1 ปี ก็ยังไม่หมดไป และยังเป็นปัจจัยหลักที่กระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่วโลก แม้ว่าการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จากหลายแบรนด์มีความคืบหน้าและเริ่มทยอยฉีดในบางประเทศแล้วก็ตาม ขณะที่อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับเป็นอีกอุตสาหกรรมหนึ่งซึ่งได้รับผลกระทบอย่างมากตลอดปีที่ผ่านมา แล้วในปี 2021 นี้จะมีสัญญาณที่น่าสนใจอย่างไร ทิศทางแนวโน้มจะเป็นไปในรูปแบบใดบ้าง?
มีข้อมูลจาก Rapaport ได้ทำการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของ 10 บริษัทชั้นนำของโลกด้านเพชรและเครื่องประดับ (ALROSA, Anglo American, Chow Sang Sang, Chow Tai Fook, Lukfook Jewellery, LVMH, Petra Diamonds, Richemont, Signet และ Tiffany & Co.) พบว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัทเหล่านี้มีราคาหุ้นเพิ่มขึ้นและให้ผลตอบแทนดีกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีดาวน์โจนส์ แม้ว่าในปีที่ผ่านมาบริษัทกลุ่มนี้มียอดขายลดลงถึง 16% จากผลกระทบของโควิด-19 ก็ตาม แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่ออุตสาหกรรมนี้ว่า ในปี 2021 บริษัทชั้นนำของอุตสาหกรรมเหล่านี้จะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นกว่าปี 2020 โดยประเมินจากกลยุทธ์ที่บริษัทเหล่านี้ใช้ตลอดรอบปีที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19
ภาพจาก https://betterdiamondinitiative.org
รายงานวิจัยของ Rapaport ฉบับเดือนมกราคมฉบับนี้ ยังชี้ให้เห็นถึงเหตุปัจจัยสำคัญที่เกิดขึ้นในปี 2020 และจะส่งผลที่ดีต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่องมายังปีนี้ ได้แก่
1. สื่อดิจิทัล ในรอบปีที่ผ่านมาบริษัทชั้นนำทั้ง 10 บริษัทนี้ ได้ลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้าออนไลน์เป็นอย่างมาก ซึ่งนับเป็นการเตรียมการที่ดีและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้แม้ว่าจะอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดก็ตาม
2. การฟื้นตัวที่เข้มแข็งของจีน เห็นได้จากนักช็อปสินค้าฟุ่มเฟือยชาวจีนซื้อสินค้าจากแบรนด์ดังที่มีสาขาในประเทศค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับยอดซื้อจากต่างประเทศ หลายแบรนด์หรูที่มีร้านสาขาในจีนสามารถทำกำไรได้รับผลตอบรับที่ดีเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ ซึ่งยอดขายตกต่ำเพราะพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติเพียงอย่างเดียว
3. แรงผลักดันเชิงบวกที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปีจากแรงซื้อเพชรก้อนจากเหมืองที่มีเข้ามาต่อเนื่องจากวันปีใหม่โดยคาดว่าแรงซื้อจะมีต่อเนื่องกระทั่งถึงวันตรุษจีน ทำให้ทั้ง De Beers และ Alrosa ปรับราคาเพชรก้อนเพิ่มขึ้นตามแรงซื้อ 4-5% และ 6-7% ตามลำดับ โดยถือเป็นโอกาสดีที่ผู้ค้าจะได้ระบายสต็อกคงค้างจากปีก่อนออกไปและต้องพยายามสร้างสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานในตลาดให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเพชรล้นตลาด
ภาพเพชรทรงแฟนซีต่างๆ ที่คาดว่าจะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในปีนี้ จาก Pinterest
นอกจากนี้ Rapaport ยังได้สอบถามความเห็นของผู้อยู่ในวงการค้าเพชรและเครื่องประดับถึงเทรนด์ในปี 2021 โดย Kevin Vantyghem เจ้าของบริษัท Vantyghem Diamonds ให้ความเห็นว่า กระแสความโปร่งใส ความมีจริยธรรมและความยั่งยืน จะเป็นกระแสที่มีเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ รวมทั้งเพชรรูปทรงแฟนซีจะยังเป็นที่นิยมต่อเนื่อง ขณะที่ Melissa Smet กรรมการบริหารของ Syndicate of the Belgian Diamond Industry (สมาคมกลุ่มผู้ค้าเพชรในเบลเยียม) แสดงความเห็นว่า กระแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้กระแส digitalization ก้าวไปเร็วขึ้น ในปีนี้สื่อออนไลน์จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลากหลายรูปแบบ เช่น การจัดงานแสดงสินค้าแบบออนไลน์ การค้าออนไลน์ทั้งระหว่างธุรกิจทำกับธุรกิจ (B2B) หรือธุรกิจกับผู้บริโภค (B2C) ดังนั้น เราจึงต้องจับการเปลี่ยนแปลงของกระแสออนไลน์ให้ทัน
ไม่ว่าปีฉลูนี้ เศรษฐกิจของโลกจะดีขึ้นหรือไม่ การค้าในกลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับจะฟื้นตัวได้ดังคาดหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่เราไม่อาจละเลยนั่นคือ ไม่หยุดรอให้ทุกอย่างนิ่ง แต่ต้องก้าวให้ทันกระแสความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา
ข้อมูลอ้างอิง
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที