ความใฝ่ฝันของข้าพเจ้า
เพื่อนๆแต่ละคนคงจะมีความใฝ่ฝันที่แตกต่างกันไปใช่ไหมค่ะ?
ครั้งหนึ่งในชีวิตของแต่ละคนก็อาจจะแตกต่างกันไปเช่นกัน...
สำหรับฉัน...
การสอบผ่าน The Japanese-Language Proficiency Test Level-2
หรือ 日本語能力試験 2級 คือสิ่งที่ใฝ่ฝันว่าจะเป็น...ครั้งหนึ่งในชีวิต...ให้จงได้!
ปี1991 ดิฉันเริ่มทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง
ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนไทย-ญี่ปุ่น ดิฉันไม่มีความรู้ภาษาญีปุ่นแม้แต่คำเดียว..
ปี1993 ดิฉันได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานที่ประเทศญีปุ่น7วัน สิ่งหนึ่งที่ประทับใจคือ...รถไฟชินกันเช็ง ประทับใจในเรื่องของ...ความสะอาด...และ...ความเร็ว...
ในตอนนั้นดิฉันมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นมากที่สุดในบรรดาเพื่อนๆอีก5คนที่ไปด้วยกัน...ดิฉันรู้จักประโยคภาษาญี่ปุ่นเพียง 1 ประโยคเท่านั้น คือ..これは何ですか。นั่นอะไรค่ะ?...
ปี1994 บริษัทเปิดโอกาสให้เรียนภาษาญี่ปุ่นโดยที่บริษัทจะจ่ายค่าเรียนให้ระดับหัวหน้างาน ถ้าหากไปเรียนและสอบเลื่อนชั้นได้ ดิฉันเลือกเรียนที่สสท.ด้วยเหตุผลเรื่องความเหมาะสมหลายประการ หนึ่งในนั้นเป็นเรื่องของโครงสร้างหลักสูตรและระบบการเรียนการสอน ในปีนั้นดิฉันเรียนจบชั้น B1และB2
ปี1995 ดิฉันเรียนจบชั้น B3และM1
ปี1996 ดิฉันเรียนจบชั้น M2และM3
ปี1997-1998 ดิฉันไม่ได้เรียนด้วยเหตุผล ความจำเป็นส่วนบุคคลค่ะ..
ดังนั้นกว่าจะสอบเข้าเรียนชั้นM4ในปี1999ได้ จำได้ว่าต้องอ่านหนังสือเยอะมาก...มันขึ้นสนิมหมดเลย..นี่คือเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของภาษาต่างประเทศ ดิฉันพยายามจะ...
มองโลกในแง่ดีเข้าไว้ค่ะ
ปี2001 ดิฉันเรียนจบชั้น M5 และ ปี 2002 ดิฉันเรียนจบชั้น A1
ดิฉันรอที่จะเรียนชั้นA2จนกระทั่งถึงปี2003กลางปี
แต่ก็ไม่สามารถเปิดคอร์สได้ เนื่องจากจำนวนผู้เรียนไม่เพียงพอ ดิฉันตั้งใจว่าอยากจะเรียนจบชั้นA3ก่อนจึงจะไปสอบ The Japanese-Language Proficiency Test Level-2 หรือ 日本語能力試験 2級
ในจังหวะนั้นเองสิ่งที่ดิฉันแอบมองอยู่ นั่นก็คือ หลักสูตรปริญญาโท หลักสูตรหนึ่ง
ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ก็เปิดสอนขึ้นมา ดิฉันจึงตัดใจจากภาษาญี่ปุ่นไปเรียนต่อปริญญาโทอยู่ 2 ปี ดิฉันเรียนจบปี 2005 เดือนกรกฏาคม
จากนั้นแม่ดิฉันก็เสียชีวิต ในปี2005 เดือนกันยายน ดิฉันมีเรื่องที่ต้องทำหลายอย่าง
รวมถึงการเตรียมงานทำบุญตามประเพณีหลังจากเสียชีวิตได้1ปี เป็นต้น และ ต้องปรับตัว ปรับอารมณ์มากเหมือนกัน ดิฉันคงจะไม่กล่าวถึงเรื่องราวในส่วนนี้มากก็ได้ เพราะคิดว่าเพื่อนๆน่าจะเข้าใจได้ว่าความสูญเสียนี้ยิ่งใหญ่อย่างไร?...นอกจากนี้แล้วปี2006
นี่เอง...ดิฉันยังได้รับความไว้วางใจจากฝ่ายบริหารหลายอย่าง ได้รับการปรับระดับและมอบหมายภาระกิจมากขึ้น...ดิฉันได้รับผิดชอบงานด้วยการเพิ่มเวลาทำงานค่ะ...
ในปี2007เดือนกุมภาพันธ์
ดิฉันได้ตัดสินใจอีกครั้งที่จะลงสนามสอบในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้
เพื่อนคงทราบแล้วว่า การสอบThe Japanese-Language Proficiency Test มีสอบเพียงปีละ1ครั้งในเดือนธันวาคม
ขณะนี้ดิฉันติดลบชั่วโมงที่จะต้องอ่านหนังสือตามแผนการทบทวนไปแล้ว 16ชม.ค่ะ
อย่างไรก็ตาม ดิฉันคิดว่าความพยายามที่ปราศจากความมุ่งมั่น ฝึกฝน จะไม่ทำให้ดิฉันทำในสิ่งที่ใฝ่ฝันได้สำเร็จอย่างแน่นอน..ดิฉันจึงจะกัดค่ะ.."กัดไม่ปล่อย" มันจะต้องมีสักครั้งหนึ่งในชีวิตที่ดิฉันสอบได้ค่ะ...ความสามารถที่มีสถาบันรับรอง..เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจกว่าค่ะ..ดิฉันอยากสอบผ่านค่ะ นอกจากนี้..
" ตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นเป็นตัวอักษรที่น่ารักโดยเฉพาะตัวฮิราคานะ ในขณะที่ตัวอักษร
คันจิเป็นตัวอักษรที่มีจำนวนมาก เขียนยาก จึงกลายเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับคนที่ไม่ได้เรียนวิชาเอกทางด้านภาษาญี่ปุ่นอย่างดิฉัน...ดิฉันอยากจะเขียนรายงานและพูดคุยเรื่องงานเป็นภาษาญี่ปุ่น... ดิฉันใฝ่ฝันสิ่งนี้...ค่ะ ! "
แนะนำด้วยค่ะ
よろしくお願いします。
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที